การเมืองสั่นคลอน ไม่กระทบธุรกิจคอมมูนิตี้มอลล์ มั่นใจท่องเที่ยวเชียงใหม่ไม่ซบ

สถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบันของประเทศไทยยังคงมีความไม่แน่นอน ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของเศรษฐกิจภายในประเทศที่อาจจะได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนทางการเมืองในระยะเวลาที่ต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม นางสาววัจนารัตน์ บัววิรัตน์เลิศ ผู้ก่อตั้ง Carpenter Avenue จ. เชียงใหม่ได้ให้ความเห็นในประเด็นเศรษฐกิจว่าแม้สถานการณ์การเมืองอาจจะยังไม่ชัดเจน แต่ในด้านเศรษฐกิจโดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวจะเริ่มเห็นการปรับตัวที่ดีขึ้นในช่วงปลายปีนี้ โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะเติบโตจากภาคการท่องเที่ยวที่เข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น

อีกทั้งยังมีธุรกิจคอมมูนิตี้มอลล์ที่กำลังจะเปิดในเดือนกรกฎาคมนี้ รวมถึงมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ท่องเที่ยวที่หลากหลายและตอบโจทย์ผู้บริโภคมากขึ้น เช่น การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Destination) การท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ และการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่เน้นความยั่งยืน ซึ่งจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมายังประเทศไทย

เชียงใหม่ถือเป็นเมืองเศรษฐกิจสำคัญของประเทศไทย ที่ไม่เพียงแต่มีการท่องเที่ยวที่เด่นชัด แต่ยังมีการเกษตรและบริการอื่นๆ ที่เป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดอีกด้วย แม้ว่าขณะนี้จำนวนนักท่องเที่ยวจากจีนอาจจะลดลงจากปัญหาทางการเมืองระหว่างประเทศ

แต่จังหวัดเชียงใหม่กลับพบว่า มีนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นๆ เข้ามาแทนที่ เช่น จากมาเลเซีย เกาหลี และยุโรป โดยนักท่องเที่ยวเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้กับจังหวัดเชียงใหม่และประเทศได้อย่างมาก

โดยมั่นใจว่าทาง ททท. ต้องกระตุ้นเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยว เพราะมีแคมเปญและนโยบายต่างๆออกมา เช่น ททท. ตั้งเป้าหมายให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศ 16 ล้านคนในปีนี้

ซึ่งเป้าหมายนี้ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศให้เติบโตในทิศทางที่ดี โดยมุ่งเน้นการเพิ่มจำนวนการท่องเที่ยวจากต่างประเทศรวมถึงการพัฒนาและส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวในอนาคตได้

นอกจากนี้นักท่องเที่ยวจากกัมพูชา คาดว่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความตึงเครียดทางการเมืองที่เกิดขึ้นระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา เนื่องจากกัมพูชาไม่ใช่ฐานลูกค้าหลักของตลาดท่องเที่ยวไทย ถึงแม้ว่าจะมีสถานการณ์ที่อาจส่งผลให้นักท่องเที่ยวจากกัมพูชาลดลง แต่ก็ยังเชื่อว่าการท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศอื่นๆ จะเข้ามาทดแทนได้อย่างรวดเร็ว

ในท้ายที่สุดทุกวิกฤติมักจะมีโอกาสเสมอ การพัฒนาและสร้างความยั่งยืนให้กับแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพเช่นเชียงใหม่ ถือเป็นสิ่งที่สำคัญในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอนนี้

หากรัฐบาลและภาคธุรกิจสามารถทำงานร่วมกันในการสร้างกลยุทธ์การท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและยั่งยืน การเติบโตของเศรษฐกิจจากภาคการท่องเที่ยวจะยังคงสามารถดำเนินต่อไปได้แม้จะมีความท้าทายจากสถานการณ์การเมืองที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา