นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่าวันนี้ (วันที่ 16 มิถุนายน 2568) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้จัดประชุมบอร์ดครั้งแรก เพื่อเลือกผู้ดำรงตำแหน่งประธานบอร์ด โดยนายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ได้รับเลือกให้เป็นประธานบอร์ดการบินไทย
โดยบอร์ดการบินไทย จำนวน 11 คน จะเข้ามาทำหน้าที่ แทนผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ ที่จะหมดวาระหน้าที่ลง และก็จะต้องส่งมอบงานให้กับบอร์ดชุดใหม่
เนื่องจากวันนี้ศาลล้มละลายกลาง มีคำสั่งยกเลิกการฟื้นฟูกิจการ เนื่องด้วยที่ผ่านมาการบินไทยประสบความสำเร็จในการดำเนินการตามเงื่อนไขของแผนฟื้นฟูแล้ว ทำให้การบินไทยออกจากแผนฟื้นฟูกิจการแล้ว
ส่วนการนำ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กลับเข้าไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ซึ่งมีขั้นตอน มีเงื่อนไข ดังนั้นต้องดำเนินการให้ครบถ้วน โดยคาดว่าจะกลับมาเทรดได้ภายในต้นเดือนสิงหาคมนี้
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ อดีตผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ และกรรมการบริษัทการบินไทย กล่าวว่า หลังผู้บริหารแผนหมดวาระหน้าที่ลง ก็จะต้องส่งมอบงานให้กับบอร์ดชุดใหม่ ซึ่งจะต้องมีการส่งมอบทรัพย์สิน รายการทรัพย์สินของบริษัทเหมือนตอนที่ผู้บริหารแผนรับมาจากผู้ทำแผน
ส่วนเรื่องกลยุทธ์การทำงาน แม้ว่าผู้บริหารจะกำหนดทิศทางของการบินไทยไว้แล้ว ทั้งส่วนของแผนธุรกิจ และการจัดหาเครื่องบิน แต่บอร์ดก็ยังสามารถปรับเปลี่ยนได้ แต่อะไรที่มีสัญญาไปแล้วปรับไม่ได้
นอกจากนี้ในส่วนของตัวผม และนายชาญศิลป์ ตรีนุชกร เดิมเป็นบอร์ดชุดเก่าก่อนบริษัทเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ ดังนั้นจึงยังจะดำรงตำแหน่งบอร์ดตามเดิม ซึ่งรวมไปถึง พลอากาศเอก อำนาจ จีระมณีมัย ที่เป็นบอร์ดชุดเดิมด้วย และบอร์ดทั้ง 3 คนนี้ มีวาระดำรงตำแหน่งอีก 1 ปี จะสิ้นสุดวาระใน เม.ย.2569 ซึ่งเป็นช่วงกำหนดประชุมผู้ถือหุ้นการบินไทย ทำให้ในปีหน้าจะต้องมีการสรรหาบอร์ดทดแทน
สำหรับ ภาพรวมธุรกิจของการบินไทยในขณะนี้ มีส่วนทุนเป็นบวก และมีกำไรสะสมจำนวนมาก แต่การจ่ายปันผลขึ้นอยู่กับผู้ถือหุ้น เพราะแม้ว่าการบินไทยจะมีกำไรสะสม สามารถจ่ายได้ แต่ตามแผนฟื้นฟูกำหนดว่าแม้ออกจากแผน ต้องชำระหนี้ตามกำหนด ซึ่งปัจจุบันเหลืออยู่ราว 95,498 ล้านบาท จากจำนวนหนี้ที่เจ้าหนี้ยื่น 4 แสนล้านบาท และเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ประเมินประมาณ 189,578 ล้านบาท
ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาการบินไทยชำระไปแล้ว หนี้ที่หายไปแล้วประมาณ 94,080 ล้านบาท ส่วนที่คงเหลือชำระจนถึงปี 2579 ประมาณ 95,498 ล้านบาท หรือจ่ายเฉลี่ยปีละ 7 พันล้านบาท