นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวในโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ซึ่งรัฐบาลสนับสนุนค่าใช้จ่ายท่องเที่ยว 50% และประชาชนจ่ายเอง 50% เบื้องต้นได้เสนอกรอบคร่าวๆไปกับนายกรัฐมนตรีแล้ว และนายกฯก็เห็นชอบแล้ว
ขณะนี้กระทรวงท่องเที่ยวฯกำลังพิจารณารายละเอียด เรื่องของการจองสิทธิ์ การใช้สิทธิ์ที่เหมาะสม และช่องทางในการใช้สิทธิ์ว่าควรเป็นอย่างไร
โดยล่าสุดแอพพลิเคชั่น ทักทาย ก็เข้ามาหารือเราก็กำลังพิจารณาจะใช้เป็นอีกช่องทางหนึ่ง หรือ อาจจะระบบเปิดอย่างไร
โดยอยากสรุปในเรื่องของระบบต่างๆให้มีความชัดเจน ก่อนจะเสนอให้ครม.พิจารณาอีกครั้งในกลางเดือนพฤษภาคมนี้ ภายใต้งบประมาณที่หารือกับทางกระทรวงการคลังไว้แล้วก่อนหน้านี้ อยู่ที่ 3.5 พันล้านบาท
ส่วนไทม์ไลน์ในการเปิดใช้โครงการก็จะมีการขยับออกไปอีก 1 เดือน จากเดิมที่ตั้งใจว่าจะเริ่มในเดือนพฤษภาคม ไปเป็นเดือนมิถุนายน 2568 นี้แทน เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงโลว์ซีซัน
ในส่วนของรายละเอียดการใช้สิทธิ หรือขั้นตอนการจองสิทธิต่างๆ รวมถึงรูปแบบการสมทบของรัฐบาล เบื้องต้นวางไว้ที่ 50% เป็นหลักตามชื่อโครงการ กำหนดให้ใช้สิทธิเข้าพักได้ที่ 10 สิทธิต่อคน หรือ 10 คืน แต่จะแบ่งสนับสนุนเที่ยวเมืองหลัก หรือเมืองรองเท่ากัน ไม่เท่ากันอย่างไรนั้น ยังต้องหารือร่วมกันอีกครั้งว่าความเหมาะสมจะเป็นเช่นใด
เพราะเดิมมองไว้เป็นแบ่งเที่ยวเมืองหลัก 5 คืน เมืองรอง 5 คืน เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้ ซึ่งยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างรวดเร็วที่สุด เพื่อใช้เป็นส่วนกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยแน่นอน
แม้ขณะนี้ประเมินว่า ตัวเลขไทยเที่ยวไทยยังไม่ได้น่าเป็นห่วงมากนัก แต่เราต้องการช่วยเหลือภาคเอกชน และสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้ประชาชนออกเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ ถือเป็นการกระตุ้นบรรยากาศในภาพรวมด้วย
สำหรับสถานการณ์ท่องเที่ยวของไทยล่าสุดตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-20 เมษายน 2568 ภาพรวมของนักท่องเที่ยวยังเป็นบวกอยู่ 0.52% โดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทย 11.2 ล้านคน สร้างรายได้ราว 5.4 แสนล้านบาท โดยในภาพรวมนักท่องเที่ยวมีบวก ซึ่งหลังสงกรานต์นักท่องเที่ยวจีนลดลง หลักๆเป็นเพราะการเข้า-ออกประเทศจีน ไม่เหมือนกับตอนที่เปิดประเทศ
แต่ไทยก็ได้นักท่องเที่ยวจากตลาดระยะไกล อังกฤษ อินเดีย เติบโตต่อเนื่องเข้ามา แต่เราก็ไม่ได้ทิ้งตลาดจีน โดยผมกำลังให้ปลัดท่องเที่ยวเรียกประชุมผู้ประกอบการ ในการกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวจีน
ทั้งสิ่งสำคัญที่กระทรวงฯให้ความสำคัญ คือ ต้องการทำให้ตัวเลขระหว่างนักท่องเที่ยวกับรายได้ทางเศรษฐกิจที่ต้องบาลานซ์กัน ซึ่งในช่วง 3 เดือนกว่านี้ ชัดเจนว่ารายได้จากการท่องเที่ยวสูงขึ้น ซึ่งผมมองว่าสัมพันธ์กันกับหลังสงกรานต์ที่จีนลดลง แต่ก็มีตลาดยุโรป อังกฤษ อินเดียมาทดแทน
ส่วนที่มีสื่อออกมาโพสต์ในโซเชียลมีเดีย ด้านการท่องเที่ยวของไทยในทางลบ ผมก็จะนำคอมเม้นท์ต่างมาปรับปรุงให้ดีขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยว
อีกทั้งในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยเฉพาะในช่วงโลว์ซีซันนี้ กระทรวงฯก็ยังกระตุ้นการท่องเที่ยวต่อเนื่อง ผ่านโครงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของททท. อย่าง โครงการอะเมซิ่ง ไทยแลนด์ แกรนด์เซลล์ วันที่ 1 มิ.ย. - 15 ส.ค.นี้ ที่จะมีห้างสรรพสินค้า ผู้ประกอบการท่องเที่ยว มอบส่วนลดและสิทธิพิเศษในการดึงดูดนักท่องเที่ยว กระตุ้นการใช้จ่าย ทำให้ไทยเป็นช้อปปิ้ง เดสติเนชั่น
การจัดงานไทยแลนด์ ทราเวล มาร์ท (TTM) ในเดือนมิ.ย.นี้ที่เชียงใหม่ ซึ่งจะมีผู้ซื้อจากต่างประเทศมาพบปะเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการไทย รวมไปถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านสปอร์ตทัวริสซึม อย่างในช่วงกลางปีนี้ ก็จะมีการจัดวอลเลย์บอลเวิล์ด แชมเปี้ยนชิพ เป็นต้น