"แอตต้า" หารือททท.ชงรัฐบาลของบ 320 ล้าน บูสท์จีนเที่ยวไทย

24 เม.ย. 2568 | 20:26 น.
อัปเดตล่าสุด :24 เม.ย. 2568 | 23:24 น.

"แอตต้า" หารือททท.เสนอรัฐบาลของบ 320 ล้านบาท รุก 2 โปรเจกต์ บูสท์นักท่องเที่ยวจีน สนับหนุนเงิน 3.5 - 4.5 แสนบาทต่อเที่ยวบิน ดึงสายการบินจากเมืองรองจีนเปิดเช่าเหมาลำเข้าไทย จัดทริปดึงเอเย่นต์ อินฟูลเอนเซอร์จีนมาไทย ฟื้นความเชื่อมั่น

นายธนพล ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า แอตต้าได้ร่วมหารือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในการวางแผนกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทย เพื่อพลิกฟื้นตลาดนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลง

ธนพล ชีวรัตนพร

โดยแอตต้ามีการหารือร่วมกันผ่านการทำงานร่วมกับททท. โดยมีข้อเสนอที่จะดำเนินการใน 2 โครงการ ภายใต้การเสนอของบประมาณจากรัฐบาล  320 ล้านบาท 

โครงการแรกใช้งบ 300 ล้านบาท สนับสนุนให้สายการบินเปิดเที่ยวบินเช่าเหมาลำ หรือชาเตอร์ไฟลท์  จาก 20 เมืองรองของจีน จำนวน 1,000 เที่ยวบินเข้าไทย ในช่วง 3 เดือน 

โดยแต่ละเที่ยวบินจะต้องมีมีอัตราบรรทุกที่นั่งบนโดยสารเครื่องบิน 70-80% หรือจำนวน 150 คน และไทยจะให้เงินสนับสนุน 3.5 - 4.5 แสนบาทต่อเที่ยวบิน พร้อมกำหนดเงื่อนไขต้องพักขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 4-5 คืน 

โครงการที่สอง จะเป็นเมกกะแฟมทริป วงเงิน 20 ล้านบาท โดยเชิญเอเย่นต์ทัวร์จีน จำนวน 300 คน สื่อมวลชน อินฟลูเอนเซอร์จีน จำนวน 100 คน เพื่อมาสำรวจการตลาดในไทย รวมถึงสื่อสารสร้างความเชื่อมั่นว่าไทยปลอดภัย เพื่อให้สื่อเหล่านี้ได้ไปเผยแพร่ให้ชาวจีนรับรู้และเกิดความมั่นใจ 

ทั้งนี้แอตต้าได้เตรียมเชิญ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มาต้อนรับกลุ่มเมกกะทริปด้วย เพื่อสร้างความมั่นใจว่าไทยปลอดภัย พร้อมตอกย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับนักท่องเที่ยวจีน 

ทั้ง 2 โปรเจกต์จะดำเนินการได้ทันทีหลังได้เงินสนับสนุนจากรัฐบาล ตลาดจีนถือว่าเป็นตลาดใหญ่ ซึ่งถือเป็นผู้ป่วยในห้องไอซียูที่ต้องเร่งรักษา ตอนนี้สถานการณ์จีนเที่ยวไทยหนักกว่าช่วงโควิด เพราะสามารถออกเดินทางได้ตามปกติและคนจีนก็ออกเดินทางท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ แต่มาไทยน้อยลง

อีกทั้งจากการสำรวจล่าสุดยังพบว่า ประเทศไทยได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจีนตกอันดับไปจากเดิมในไตรมาส 4/2567 อยู่อันดับที่ 4 แต่ไตรมาส 1/2568 หล่นลงไปอยู่ที่อันดับ 7 ทำให้ต้องเร่งฟื้นฟูตลาดนักท่องเที่ยวจีนกลับคืนมา เพราะตัวเลข 70-80% ของนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาเที่ยวไทย มาจากเอเย่นต์ทัวร์เป็นหลัก 

ในส่วนของการทำตลาดอื่นๆ นำมาชดเชยตลาดจีนที่ปรับตัวลดลงนั้น แม้มีการมองว่าตลาดอื่นก็สามารถช่วยได้เหมือนกัน ทำไมจึงไม่ไปทำตลาดอื่นแทน ต้องบอกว่า ขณะนี้ตลาดที่อยู่ในไอซียูคือตลาดจีน จึงจำเป็นต้องแก้ไขตลาดที่อยู่ในภาวะฉุกเฉินหนักก่อน

หากยิ่งไม่ทำอะไรจะยิ่งหนักมากกว่าเดิมลึกไปเรื่อยๆ จึงต้องช่วยให้ตลาดจีนฟื้นจากไอซียูก่อน รวมถึงตลาดอื่นก็ยังเติบโตด้วยตัวเองได้อยู่ นายธนพล กล่าว

นอกจากนี้กระทรวงมหาดไทย โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ซึ่งมีงบประมาณเพียงพอที่จะพาผู้ประกอบการในพื้นที่ไปทำการตลาดในเมืองจีน เพื่อทำการแลกเปลี่ยนท่องเที่ยวระหว่างกัน ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้นตลาดจีนได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ