ผู้ว่าททท.ปรับแผนตลาด เร่งบูสเตอร์ช็อต รับมือสารพัดปัจจัยท้าทายท่องเที่ยว

20 เม.ย. 2568 | 03:47 น.
อัปเดตล่าสุด :20 เม.ย. 2568 | 03:48 น.

แม้จะผ่านมาเพียง 3 เดือน แต่ไทยต้องเจอสารพัดปัจจัยท้าทายมากมาย โดยเฉพาะแผ่นดินไหวล่าสุด ที่ส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่อง การท่องเที่ยวไทยจะฝ่าวิกฤตในเรื่องนี้อย่างไร “ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มีคำตอบ

ปัจจัยควบคุมไม่ได้มีมาก ททท.ประเมินท่องเที่ยวต่อเนื่อง

"ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ผู้ว่าททท.กล่าวว่าการท่องเที่ยวของไทยในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาไทยกว่า 9 ล้านคน ยังคงเป็นบวก ซึ่งก็มีตลาดนักท่องเที่ยวที่เติบโตสูงมาก และบางตลาดก็ชลอตัวลดลง หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะนี้ททท.อยู่ระหว่างการประเมินสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง

ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์

โดยต้องติดตาม และประเมินสถานการณ์เป็นรายวัน เพราะมีปัจจัยภายนอกที่เราควบคุมไม่ได้ในหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่อง Natural Disaster อย่างแผ่นดินไหว ที่เกิดขึ้นในเมียนมาร์ และสะเทือนถึงประเทศไทย รวมถึงล่าสุดการขึ้นภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ยังต้องจับตาดูถึงผลกระทบที่จะมีต่อเศรษฐกิจโลก

แน่นอนว่าการขึ้นภาษีของทรัมป์ส่งผลกระทบต่อการผลิตโดยตรง แต่ในแง่ของการท่องเที่ยวก็ยังคงต้องจับตามอง แต่ททท.ก็มองในมุมบวกว่า ต่อไปสินค้าไทยในสหรัฐอเมริกาก็จะแพงขึ้น ดังนั้นหากนักท่องเที่ยวสหรัฐอเมริกา และนักท่องเที่ยวจากประเทศต่างๆเดินทางมาพักผ่อนท่องเที่ยวในไทย ก็จะ Value of Money จากการจับจ่ายซื้อสินค้า และใช้บริการต่างๆได้อย่างคุ้มค่าเงิน

ในส่วนของแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น ก็จะพบว่ามีการยกเลิกการจองโรงแรมในบางพื้นที่ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ หลังเกิดเหตุการณ์ไม่สงบและแผ่นดินไหว และก็มีบางส่วนเป็นการยกเลิกเพื่อไปใช้บริการโรงแรมในจังหวัดใกล้เคียงแทน เช่น พัทยา ภูเก็ต หรือจังหวัดอื่นที่ไม่ได้รับผลกระทบ

ส่วนในเรื่องของเที่ยวบินเข้าไทยผู้ว่าททท.ยืนยันว่า สายการบินไม่ได้มีการยกเลิกเที่ยวบินมาประเทศไทยเลย แต่อาจมีนักท่องเที่ยวบางส่วนที่ชะลอการเดินทาง เปลี่ยนไฟลท์ หรือยกเลิกการเดินทาง เนื่องจากความกังวลที่เกิดจากข่าวสารบนโลกออนไลน์ โดยการยกเลิกเกิดจากการแพนิกสำหรับคนที่จะเดินทางมาไทยในช่วงวันที่ 28-30 มีนาคม

ต่างชาติเที่ยวไทย 3 เดือนแรก ปี 2568

เนื่องจากเขาเห็นข่าวภาพความเสียหายในเมียนมาร์ มารวมกับภาพตึกในไทย ที่ถล่มเพียงตึกเดียว นักท่องเที่ยวจึงเกิดความตื่นตระหนก โดยเฉพาะตลาดนักท่องเที่ยวระยะใกล้ อย่าง จีน ไต้หวัน สิงคโปร์ ฮ่องกง ที่ค่อนข้าง sensitive กับสถานการณ์ที่ เกิดขึ้น

ทั้งที่จริงๆ แล้วเราต้องบอกว่าเราเจอแผ่นดินไหวขนาด 7.7 ริกเตอร์ แต่อาคารทุกอย่างยังคงสภาพดี ไม่มีอาคารไหนล้มเลย นี่แสดงถึงมาตรฐานด้านวิศวกรรมของประเทศไทย แต่สิ่งที่อยู่นอกเหนือความควบคุมและทำให้เกิดความหวาดกลัว ความตื่นตระหนกคือโลกออนไลน์

ดังนั้นการรับมือในขณะนี้เราก็ได้มีการประชาสัมพันธ์เรื่อง “Bangkok, We are OK!” และสถานการณ์ที่กลับคืนสู่ภาวะปกติแล้ว แต่บนพื้นฐานของการดูแล เรื่องความปลอดภัยสูงสุดเช่นเดียวกัน รวมถึงการเดินหน้าจัดงานต่างๆเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวตามแผนที่วางไว้ โดยเฉพาะการจัดงานสงกรานต์ 2568

เร่งบูสเตอร์ช็อต รับมือสารพัดปัจจัยท้าทายท่องเที่ยว

ขณะที่แผนกระตุ้นการท่องเที่ยวของททท.นอกจากดำเนินการไปตามแผนที่วางไว้เดิมแล้ว ก็จะเน้นเพิ่มเติมด้วยมาตรการที่ต้องเป็นบูสเตอร์ช็อตในบางตลาดที่ยังไม่กลับมา เช่น นักท่องเที่ยวจีน และเร่งหาตลาดที่มีคุณภาพ ที่มีอัตราการเติบโตสูง โดยเฉพาะตลาดคุณภาพจากยุโรป

ไม่ว่าจะเป็น เยอรมนี สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส สเปน ตะวันออกกลาง ซึ่งมีสัญญาณการเติบโตที่ดีมาก ตัวเลขการเดินทางเพิ่มขึ้นในอัตราสองหลัก (Double Digit) ดึงทั้งจำนวน และเพิ่มการใช้จ่าย เข้ามาทดแทนตลาดที่ชลอตัวไป

นอกจากนี้ ททท. ยังมองหาตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ เช่น อิสราเอล คาซัคสถาน ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นตลาดที่มีการเติบโตและตัวเลขที่ดีมาก เพื่อให้ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวในภาพรวมให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยการปรับเป้าหมายเป็นรายตลาดนักท่องเท่ี่ยวให้สอดรับกับแผนที่ททท.จะกระตุ้นในแต่ละตลาดเพิ่มขึ้น

สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของไทยมีการชะลอตัวลง การลดลงของนักท่องเที่ยวจีนไม่ใช่ปัญหาเฉพาะของประเทศไทย แต่เป็นภาพรวมการเดินทางออกนอกประเทศ (Outbound) ของจีนที่ลดลงเนื่องจากปัจจัยเศรษฐกิจภายในประเทศจีนเอง โดยนักท่องเที่ยวจีนลดลงในทุกตลาดทั่วโลก ยกเว้นที่ญี่ปุ่น ที่เงินเยนอ่อนค่า ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปเที่ยวเพิ่มขึ้น

การกระตุ้นตลาดจีนตอนนี้เราพยายามที่จะดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มที่มากับบริษัททัวร์กลับเข้ามา ถึงแม้ว่าเราจะเห็นสัญญาณว่านักท่องเที่ยวอิสระ (FIT) มาเยอะขึ้น แต่จีนมีประชากรพันล้านคน กลุ่มที่ต้องการมากับบริษัททัวร์ก็ยังมีจำนวนมากและกลุ่มนี้จริงๆ แล้วก็เป็นกลุ่มที่มีคุณภาพในเชิงการใช้จ่ายสูง เพราะส่วนใหญ่เป็นการมาเที่ยวครั้งแรก พวกเขาอยากจะได้ประสบการณ์ใหม่ อยากจะซื้อทุกอย่าง

ททท.จะมีการจัด Road Show ในเมืองที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะที่มีเส้นทางการบินใหม่ๆเพิ่มขึ้น การให้ Incentive กับบริษัททัวร์ที่เป็น Front Liner และการอัปเดตสินค้าใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ทั้งประสบการณ์ คุณภาพ และความปลอดภัย ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้เขาขายทัวร์ได้ดีขึ้น

ล่าสุดททท.ได้หารือกับภาคเอกชน ทำแผนฟื้นฟูกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวจีน ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน ถึงธันวาคม 2568 นี้ รวมถึงกลุ่มไมซ์ (MICE) ด้วย ภายใต้โครงการ “Sawasdee Nihao” ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักของ ททท. ในการฟื้นฟูตลาดนักท่องเที่ยวจีนอย่างเป็นระบบและยั่งยืน โดยเฉพาะในปีแห่งการเฉลิมฉลอง ครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน พร้อมเน้นมาตรการ Quick Win เพื่อกระตุ้นตลาดอย่างเร่งด่วนและสร้างภาพลักษณ์ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางคุณภาพ (Quality Destination)

ชู 3 กลยุทธฟื้นจีนเที่ยวไทย

โดยมี 3 กลยุทธ์หลักเพื่อฟื้นฟูตลาดจีน ได้แก่ 1. Agent & Media Mega FAM Trip เชิญตัวแทนบริษัทนำเที่ยว สื่อ และ Influencers ชั้นนำจากจีน มาเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวไทย สร้างกระแสการรับรู้ทั่วประเทศจีน ภายใต้ นิยาม ปลอดภัย ได้คุณภาพ ได้ประสบการณ์

2. ผนึกกำลังจับมือสื่อจีนและแพลตฟอร์มออนไลน์ไม่ว่าจะเป็น WeChat, Weibo, Xiaohongshu , Douyin , Trip , Meituan เพื่อส่งต่อภาพลักษณ์ประเทศไทยที่ “ปลอดภัย มีคุณภาพ และมี Soft power เสน่ห์เอกลักษณ์เฉพาะตัว“

3. เดินหน้ากลยุทธ์ G2G และ Celebrities Marketing ใช้พลังของความร่วมมือระหว่างรัฐบาล และนักแสดง / คนดัง สร้าง Thailand Trend อย่างต่อเนื่องบนโลกออนไลน์จีน เพื่อฟื้นตลาดจีนให้เติบโตอย่างสมดุลทั้งกลุ่ม Group Tour และ FIT ควบคู่กันอย่างมีคุณภาพ ขับเคลื่อนตลาดจีนให้เติบโตอย่างยั่งยืน

นอกจากการดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว ททท.ยังมีแผนส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ โดยเรากำลังส่งเสริม “Work from Anywhere” ไม่ใช่แค่ Work from Home เราจะมีแคมเปญสำหรับการทำงานนอกสถานที่ เช่น ถ้ายกองค์กร หรือทีม 5 คนขึ้นไป ไปทำงานนอกสถานที่ด้วยกัน เราจะมีสิทธิพิเศษให้

อีกทั้งยังได้ร่วมมือกับกระทรวงต่างๆ เช่น กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย ในการส่งเสริมตลาดชุมชน สินค้า OTOP และเส้นทางท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เพื่อสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวที่หลากหลายมากขึ้น และเน้นเรื่องการเดินทางเชื่อมโยงในประเทศ โดยเฉพาะเส้นทางรถไฟ เพื่อเติมเต็มประสบการณ์ให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศทั้งหมดล้วนเป็นการรับมือความท้าทายต่างๆที่มีผลต่อการท่องเที่ยวไทย

หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,086 วันที่ 10 - 12 เมษายน พ.ศ. 2568