KEY
POINTS
ตลาด QSR (Quick Service Restaurant) หรือร้านอาหารบริการด่วนในไทยมีมูลค่าราว 45,000 ล้านบาท ซึ่งตลาดไก่ทอดเป็นเซ็กเมนต์ที่ใหญ่ที่สุดมูลค่ากว่า 30,000 หมื่นล้านบาท ยังคงดึงดูดผู้เล่นหน้าใหม่ต่อเนื่อง แม้การแข่งขันจะสูงระดับ Red Ocean แต่สถานการณ์กลับคึกคักจากอัตราเติบโตเฉลี่ยปีละ 8–10% โดยล่าสุด บริษัท เอส แอนด์ พี วิงส์ จำกัด ในเครือ S&P เปิดตัวแบรนด์ “Wingstop” แบรนด์ไก่ทอดสัญชาติอเมริกาอย่างเป็นทางการในประเทศไทย พร้อมปักธงชิงส่วนแบ่งตลาดด้วยจุดขายเรื่องรสชาติและประสบการณ์ร้านในสไตล์คนรุ่นใหม่
นายปราการ ไรวา นักร้องนำวง Getsunova และทายาท S&P นำทัพรับบทผู้บริหารแบรนด์วิงสต๊อปประเทศไทย บริษัท เอส แอนด์ พี วิงส์ จำกัด กล่าวว่า การเลือกนำเข้าแบรนด์ระดับโลกที่มีมากกว่า 3,000 สาขาทั่วโลก เกิดจากภาพลักษณ์ที่ชัดเจนและตรงกลุ่มเป้าหมาย Gen Z รวมถึงศักยภาพของตลาดไก่ทอดไทยที่ยังเปิดโอกาสให้ผู้เล่นรายใหม่
บริษัทได้จดทะเบียนลงทุน 30 ล้านบาท ภายใต้สัญญา มาสเตอร์แฟรนไชส์ พร้อมใช้งบ 6–12 ล้านบาทต่อสาขา เตรียมเปิดเพิ่มอีก 5–6 สาขาในปีหน้า ตั้งเป้าครบ 7 สาขาในกรุงเทพฯ พร้อมทำรายได้ 100 ล้านบาทในปี 2569
ประเดิมสาขาแรกเปิดที่ MBK Center ทำเวลา 10.00–02.00 น. โดยวางกลยุทธ์รุกตลาดผ่าน 4 แกนสำคัญ ได้แก่ การเข้าใจผู้บริโภค Gen Z อย่างลึกซึ้ง, ระบบหลังบ้านที่ได้มาตรฐานระดับโลก, การบริหารต้นทุนด้วยไซซ์องค์กร S&P และการเชื่อมแบรนด์เข้ากับวัฒนธรรมป๊อป เช่น Gaming และ Music ซึ่งจะเป็นหัวใจการตลาดปีหน้า ราคาระดับเข้าถึงง่ายตั้งแต่ 159–369 บาท ระยะเวลาเตรียมเมนูเฉลี่ยเพียง 6–7 นาที เพื่อแข่งขันในตลาด QSR
ประเด็นสำคัญที่สะท้อนมุมมองเชิงธุรกิจมาจาก นายศิวกร เบญจราชจารุนันท์ ผู้จัดการทั่วไป (General Manager) ที่กล่าวถึงปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจและการเมืองในปีหน้า โดยยอมรับว่าธุรกิจร้านอาหารยังเผชิญความท้าทาย แต่เชื่อว่าปัจจัยภายนอกไม่ใช่ตัวกำหนดความสำเร็จมากเท่าในอดีต
“ตอนนี้เศรษฐกิจใกล้ถึง Bottom แล้ว ปีหน้าปัจจัยที่ทำให้ร้านอาหารขึ้นหรือลง ไม่ได้อยู่ที่ภายนอกมากเหมือนที่ผ่านมา แต่อยู่ที่ผู้เล่น ความแข็งแรงของแบรนด์ และเซอร์วิสที่ให้”
โดยระบุว่า แม้ธุรกิจอาหารจะต้องบริหารต้นทุนเข้มงวด ทั้งวัตถุดิบ แรงงาน และโลจิสติกส์ แต่ Wingstop มี แต้มต่อ จากระบบหลังบ้านของ S&P ที่ช่วยจัดการซัพพลายเชนและทรัพยากรบุคคล ซึ่งเป็น “ต้นทุนก้อนใหญ่” ที่ทำให้ผู้เล่นรายใหม่ทั่วไปแข่งขันยาก
ในมิติการเมืองและนโยบายรัฐ แม้ไม่แสดงความเห็นเชิงลึก แต่ย้ำว่า ทิศทางธุรกิจจะขึ้นอยู่กับความสามารถในการสร้าง Unfair Advantage มากกว่าความผันผวนเชิงนโยบาย และยืนยันว่าราคาขายของ Wingstop ถูกวางแบบ “สมเหตุสมผล แข่งขันได้” เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าหลากหลายระดับ
แม้การแข่งขันสูง แต่นายปราการเชื่อว่าตลาดยังเปิดรับแบรนด์ใหม่ที่มี “ความต่าง” ชัดเจน โดย Wingstop ชูจุดขายประสบการณ์ในร้าน (In-store Experience) เป็นกุญแจหลัก พร้อมเตรียมแคมเปญ Collaboration กับแบรนด์ระดับโลกในกลุ่มเกมและดนตรี ผ่านการสนับสนุนของทีม Wingstop APAC
ในภาพรวม บริษัทมองว่าฐานลูกค้า Gen Z ไม่ได้จำกัดด้วยอายุ แต่เป็น “Young at Heart” และมีกำลังซื้อทั้งกลุ่มไวต่อราคาและกลุ่มที่พร้อมจ่าย โดยแนวทางการตลาดจะผสมผสาน Branding + Sales Promotion แต่เน้นไปที่การสร้างตัวตนแบรนด์ในปีแรก