KEY
POINTS
นางสาว อัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจเครื่องประดับในปี 2568 เป็นปีที่ท้าทายอย่างยิ่ง หรือ “Super Super Challenge” จากทั้งภาวะตลาดที่ยังไม่เห็นแรงขับเคลื่อนใหม่และกำลังซื้อที่ยังทรงตัว ส่งผลให้ตลาดเครื่องประดับโดยรวมมีแนวโน้มไม่เติบโตเมื่อเทียบกับปีก่อน
หนึ่งในปัจจัยกระทบโดยตรงคือเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในพื้นที่หาดใหญ่ ซึ่งบริษัทมีสาขาอยู่ 3 แห่งและได้รับผลกระทบทั้งหมด ทำให้ต้องปรับงบประมาณด้านการตลาดเพิ่มขึ้นราว 3% เพื่อรองรับแผนกิจกรรมและฟื้นกำลังซื้อในพื้นที่ รวมถึงรักษาการมีส่วนร่วมของลูกค้ากลุ่มเดิมในตลาดหลัก
ส่วนสถานการณ์ของตลาดเพชรสังเคราะห์ (Lab Grown Diamond) ในปีนี้ถูกประเมินว่า “ชะลอตัวชัดเจน” โดยมี 2 ปัจจัยสำคัญ คือ
ทำให้ผลที่ตามมาคือตลาดเริ่มแบ่งส่วนชัดเจนมากขึ้น โดยเพชรสังเคราะห์ถูกจัดวางให้เป็นสินค้ากลุ่มเครื่องประดับแฟชั่นหรือ Costumery ไม่ใช่สินค้าระดับเดียวกับเพชรแท้ ขณะที่ผู้บริโภคที่มีงบประมาณเพียงพอยังคงเลือกซื้อ Natural Diamond มากกว่า เนื่องจากคุณค่าทางอารมณ์ การสะสม และการประเมินมูลค่าต่อเนื่องยังอยู่ที่เพชรแท้เป็นหลัก
ปัจจุบันยูบิลลี่มีฐานสมาชิกลูกค้าปัจจุบันราว 220,000 ราย ครอบคลุมทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ลูกค้าหลักส่วนใหญ่อายุ ตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นเซกเมนต์ที่มีกำลังซื้อและให้ความสำคัญกับการซื้อเครื่องประดับทั้งในเชิงไลฟ์สไตล์และการลงทุนยาว
ลูกค้าของบริษัทส่วนใหญ่จัดอยู่ในกลุ่ม premium mass ขึ้นไป โดยมากกว่า 90% เป็นลูกค้าคนไทย กลุ่มอาชีพสำคัญคือ เจ้าของกิจการและผู้บริหารระดับสูง ซึ่งยังมีกำลังซื้อที่ค่อนข้างมั่นคง อย่างไรก็ตามบริษัทพบว่า กำลังซื้อในกลุ่มแมสลดลงบางส่วน จากภาวะเศรษฐกิจที่กดทับค่าใช้จ่ายครัวเรือน
ส่วนไตรมาสสุดท้ายของปี ยูบิลลี่เตรียมจัดงานใหญ่ “Jubilee Sparkling Christmas Mega Sale” วางงานนี้เป็นหมุดหมายสำคัญในช่วงสัปดาห์สุดท้ายก่อนสิ้นปี กิจกรรมดังกล่าวเป็นหนึ่งในงานที่มีการลดราคาสินค้าสูงที่สุดของบริษัท โดยบางรายการมีส่วนลดมากกว่า 60% พร้อมจัดแคมเปญ “12.12” ในวันแรกเพื่อดึงกระแสการช้อปปิ้งปลายปีที่ผู้บริโภคคุ้นเคย
สำหรับแนวโน้มปี 2569 ภาพรวมเศรษฐกิจยังไม่พบสัญญาณเชิงบวกที่ชัดเจน ทั้งกำลังซื้อในประเทศและความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังไม่ฟื้นตัวเพียงพอ ทำให้บริษัทต้องปรับกลยุทธ์เชิงรุกเพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าได้อย่างมั่นคงในภาวะที่ตลาดยังอ่อนแรง
โดยบริษัทจะยังคงให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ Customer Centric โดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางของการวางแผนและพัฒนาบริการทั้งหมด สะท้อนพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่มองหาทั้ง “ประสบการณ์” และ “คุณภาพสินค้า” ไปพร้อมกัน
บริษัทได้วางโครงสร้างข้อมูลลูกค้าไว้รองรับการทำ Segmentation ที่ละเอียดขึ้น เพื่อให้เข้าใจความต้องการและพฤติกรรมเชิงลึกของแต่ละกลุ่ม และนำไปสู่การออกแบบบริการ สินค้าให้ตรงจุดมากขึ้น โดยเป้าหมายหลักคือการสร้าง “ประสบการณ์ใหม่” ที่หลอมรวมคุณภาพของเพชร ซึ่งเป็นหัวใจของแบรนด์ เข้ากับการบริการในร้านรูปแบบใหม่
โดยในปีหน้าบริษัทเดินหน้าปรับโฉมใหม่และพัฒนาคอนเซ็ปต์สโตร์ใหม่ในบางพื้นที่ เพื่อให้เข้ากับความคาดหวังของลูกค้าที่ต้องการประสบการณ์เลือกซื้อเครื่องประดับที่ครบด้าน ทั้งบรรยากาศ การบริการ และข้อมูลสินค้า โดยจะเน้นการบริหารพื้นที่เดิมให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเร่งเปิดสาขาจำนวนมากเหมือนในอดีตซึ่งตั้งเป้าเติบโต 10%
นอกจากนี้บริษัทวางแผนขยายตลาดในกลุ่มลูกค้าพรีเมียม ผ่านการเปิดตัวแบรนด์ LOVE100 (เลิฟวันฮันเดรด) ซึ่งใช้เพชรทรงกลมเจียระไน 100 เหลี่ยม มากกว่ามาตรฐานทั่วไปที่ 57–58 เหลี่ยม เพชรมาจาก LOVE100 Diamonds แบรนด์จากเบลเยียมที่มีประวัติการเจียระไนยาวนานกว่า 200 ปี และปัจจุบันมีการขยายสาขาไปที่ตลาดจีนแล้ว โดยมีเป้าหมายขยายต่อในภูมิภาคเอเชีย
บริษัทมองว่าการนำเสนอรูปแบบการเจียระไนที่แตกต่างจะช่วยเพิ่มความหลากหลายของสินค้าในตลาดระดับบน จึงได้เริ่มทดสอบตลาดตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ผ่าน Pop-Up Test กับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายต่อเนื่องหนึ่งปี ก่อนตัดสินใจพัฒนาแบรนด์ร่วมกับดีไซเนอร์จากต่างประเทศ และเตรียมเปิดร้าน LOVE100 อย่างเป็นทางการ ทั้งนี้บริษัทกำหนดระดับราคาเริ่มต้นที่ 50,000 บาทขึ้นไป เจาะกลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับเอกลักษณ์ของสินค้า
ขณะเดียวกัน บริษัทขยายความร่วมมือไปสู่ภาคบริการสุขภาพ โดยทำงานร่วมกับโรงพยาบาลสมิติเวชในโครงการสำหรับเด็กแรกเกิด โดยจะมอบจี้เพชรให้กับทารกที่เกิดในปีหน้า ซึ่งเป็นปีม้าตามนักษัตรไทย จี้ชิ้นนี้ออกแบบให้เป็นสัญลักษณ์ประจำปีเกิด และยังสามารถเชื่อมต่อการใช้งานกับแอปพลิเคชันเพื่อให้คุณแม่บันทึกภาพและโมเมนต์สำคัญตั้งแต่ช่วงคลอดหรือเห็นหน้าลูกครั้งแรก ความร่วมมือดังกล่าวสะท้อนความพยายามของยูบิลลี่ในการนำเพชรเข้าไปเชื่อมโยงกับประสบการณ์ชีวิตและความทรงจำของครอบครัวรุ่นใหม่ มากกว่าการจำกัดบทบาทเพชรไว้เพียงสินค้าลักชัวรี
สุดท้ายยูบิลลี่ร่วมกับศิริราชมูลนิธิเปิดตัว “เข็มกลัดสิริภูษาอาลัย (Siri Pusa Alai)” โดยรายได้จากการจำหน่ายจะมอบให้ศิริราชมูลนิธิ เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย
ดีไซน์เข็มกลัดได้รับแรงบันดาลใจจากพระราชกรณียกิจด้านหัตถศิลป์ไทย โดยเฉพาะการสืบสานผ้าไหมไทย ลวดลายอ้างอิงจากผ้าไหมมัดหมี่ลายสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน สื่อถึงความงดงามของภูมิปัญญาไทยและการน้อมรำลึกถึงพระเมตตาที่ทรงมีต่อการอนุรักษ์ศิลป์ไทยให้คงอยู่ต่อไป