"ยูบิลลี่" เปิดเกมรุกฝ่าวิกฤต ปรับทัพธุรกิจสู้ศึกเครื่องประดับ 4 หมื่นล้าน

18 เม.ย. 2568 | 22:10 น.

เปิดแผน “ยูบิลลี่ ไดมอนด์” เร่งขับเคลื่อนธุรกิจ ท่ามกลางความท้าทายรอบด้าน เดินหน้ากลยุทธ์ “รับมือ” การเปลี่ยนแปลง “ปรับเปลี่ยน” เพื่อสร้างฐานลูกค้าใหม่ มั่นใจปี 68 ทำรายได้ทะลุ 1,500 ล้านบาท เติบโต 10%

นางสาวอัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) ทายาทรุ่นที่ 4 ผู้กุมบังเหียน ธุรกิจเครื่องประดับเพชร ภายใต้แบรนด์ “ยูบิลลี่ ไดมอนด์” เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงภาพรวมตลาดเครื่องประดับค้าปลีกที่กำลังเติบโตและแนวทางการนำพาแบรนด์เครื่องเพชรเก่าแก่ของไทยสู่ยุคใหม่ ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ว่า ตลาดค้าปลีกเครื่องประดับในปี 2567 มีมูลค่าราว 3.5-4 หมื่นล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในปี 2568 โดยเฉพาะไตรมาสแรกที่ได้รับแรงหนุนจากเทศกาลสำคัญ

 “โดยปกติแล้วสินค้าเครื่องประดับอัญมณีจะขายดีในช่วงของเทศกาล อย่างปีใหม่ ตรุษจีน และวาเลนไทน์ ซึ่งในช่วงไตรมาสแรกปี 2568 แนวโน้มสดใส เนื่องจากอานิสงส์สมรสเท่าเทียม หนุนยอดขายวาเลนไทน์ให้คึกคักขึ้น”

"ยูบิลลี่" เปิดเกมรุกฝ่าวิกฤต ปรับทัพธุรกิจสู้ศึกเครื่องประดับ 4 หมื่นล้าน

 วันนี้จิวเวลรี่ เครื่องประดับเพชรกลายเป็นทางเลือกสำหรับการหมั้นและแต่งงาน ส่งผลให้ยอดขายของยูบิลลี่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 10-15% ในช่วงเทศกาลที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม “อัญ-อัญรัตน์” เสริมว่า เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด อย่างแผ่นดินไหว ก็ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและกำลังซื้อของผู้บริโภคในระยะสั้น ทำให้มู้ดการจับจ่ายช่วงโค้งสุดท้ายของไตรมาสแรกนั้นไม่ตรงตามเป้าหมายที่วางไว้

 ทั้งนี้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจเครื่องประดับต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลก ซึ่งส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม ยูบิลลี่ได้ปรับตัวและวางแผนเพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว โดยมุ่งเน้นการทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างลึกซึ้ง และขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ๆ พฤติกรรมเปลี่ยน ตลาดปรับตัวรับคนรุ่นใหม่ เพราะตลาดเครื่องประดับในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด จากเดิมที่ถูกมองว่าเป็นสินค้าสำหรับโอกาสพิเศษ สู่การเป็นส่วนหนึ่งของการแต่งกายในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการใช้เครื่องประดับเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจและภาพลักษณ์ส่วนตัว

"ยูบิลลี่" เปิดเกมรุกฝ่าวิกฤต ปรับทัพธุรกิจสู้ศึกเครื่องประดับ 4 หมื่นล้าน

 “ในอดีต การใส่เครื่องประดับมักจะถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ใช้ในโอกาสพิเศษ แต่ปัจจุบันเครื่องประดับกลายเป็นส่วนหนึ่งของการแต่งกายประจำวันของผู้คน โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มองว่าการใส่เครื่องประดับช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและภาพลักษณ์ของตนเอง”

 ฐานลูกค้าของยูบิลลี่มีความหลากหลาย โดยมีสมาชิกประมาณ 2 แสนราย ซึ่งแบ่งออกเป็นกลุ่มเซ็กเมนต์ที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ กลุ่มคนรุ่นใหม่ กลุ่มคนที่เริ่มทำงานไปจนถึงผู้บริหารระดับสูงและเจ้าของกิจการทุกขนาด ยูบิลลี่ยังมีแผนที่จะขยายฐานลูกค้าใหม่ ๆ โดยการสร้างกิจกรรมและโปรโมชั่นที่ดึงดูดลูกค้าใหม่ รวมถึงการรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าเดิมผ่านการบริการหลังการขายและการสะสมคะแนน ซึ่งกลุ่มคนรุ่นใหม่ เป็นกลุ่มที่มีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต และยูบิลลี่มุ่งหวังที่จะสร้างการรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์ในกลุ่มนี้

 “เรามองว่าการที่ลูกค้าซื้อเครื่องประดับสักชิ้น ควรได้รับอะไรมากกว่าตัวเครื่องประดับเอง นี่จึงเป็นเหตุผลที่ POP MART ร่วมงานกับเรา เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า โดยโปรเจกต์นี้ใช้ระยะเวลาสัญญากว่า 1 ปี การร่วมมือครั้งนี้เป็นกลยุทธ์สำคัญของบริษัทที่มุ่งขยายฐานลูกค้าสู่กลุ่ม Gen X, Gen Y และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง Gen Z ซึ่งบริษัทตั้งเป้าให้สัดส่วนลูกค้า Gen Z เติบโตเพิ่มขึ้นอีก 10%”

"ยูบิลลี่" เปิดเกมรุกฝ่าวิกฤต ปรับทัพธุรกิจสู้ศึกเครื่องประดับ 4 หมื่นล้าน

 ทั้งนี้ยูบิลลี่ตั้งเป้าหมายรายได้ในปีนี้ว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 10% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยปีที่แล้วมีรายได้ประมาณ 1,400 ล้านบาท และปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 1,500-1,600 ล้านบาท การตั้งเป้าหมายนี้เกิดขึ้นในบริบทของการพยายามฟื้นตัวจากผลกระทบทางเศรษฐกิจในปีที่ผ่านมา และมีการวางแผนจัดกิจกรรมและแคมเปญต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นยอดขายตลอดทั้งปี รวมถึงการรีโนเวทและขยายสาขาเพิ่ม

 “อัญรัตน์” บอกอีกว่า ยูบิลลี่เดินหน้าแผนขยายสาขาและรีโนเวท ปูทางเติบโตทั่วประเทศ โดยมุ่งเน้นทั้งการขยายสาขาใหม่ในพื้นที่ศักยภาพและการปรับปรุงสาขาเดิมเพื่อยกระดับประสบการณ์ลูกค้า โดยมีแผนขยายสาขา 5-8 สาขา ภายในปีนี้ และรีโนเวทสาขาจำนวนประมาณ 10 แห่งทั่วประเทศ เพื่อปรับปรุงรูปลักษณ์และขยายพื้นที่ให้สามารถรองรับลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งสาขาที่รีโนเวทล่าสุดคือ สาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ซึ่งได้รับการปรับปรุงครั้งใหญ่และขยายพื้นที่เพื่อสร้างโซนสินค้าใหม่ที่หลากหลายและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น

 นอกจากนี้ ยูบิลลี่ยังให้ความสำคัญกับการขยายฐานลูกค้าไปยังจังหวัดที่มีกำลังซื้อสูง โดยล่าสุดได้เปิดสาขาใหม่ที่สหไทย จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นการแสดงความมุ่งมั่นในการเข้าถึงลูกค้าในพื้นที่ที่มีศักยภาพการเติบโต

 สำหรับการลงทุนในการเปิดสาขาใหม่และการรีโนเวทสาขาเดิมนั้น จะมีงบประมาณที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับขนาดและรูปแบบของพื้นที่ โดยงบประมาณเริ่มต้นสำหรับการเปิดหรือรีโนเวทสาขาจะอยู่ที่ประมาณ 8-10 ล้านบาท และอาจเพิ่มขึ้นถึง 30 ล้านบาทสำหรับสาขาขนาดใหญ่ที่ต้องการสินค้าคงคลังจำนวนมาก

"ยูบิลลี่" เปิดเกมรุกฝ่าวิกฤต ปรับทัพธุรกิจสู้ศึกเครื่องประดับ 4 หมื่นล้าน

 ปัจจุบัน ยูบิลลี่มีเครือข่ายสาขาทั้งสิ้น 130 แห่งทั่วประเทศ แบ่งเป็นสาขาในกรุงเทพฯ 50 สาขา และสาขาในต่างจังหวัด 80 สาขา แผนการขยายสาขาในปีนี้จึงเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทในการเข้าถึงลูกค้าในทุกภูมิภาคและสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

 ขณะที่ปัจจัยภายนอกที่เกิดขึ้น “อัญรัตน์” บอกว่า ผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีตอบโต้ของโดนัลด์ ทรัมป์นั้น แม้ธุรกิจเครื่องประดับจะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง แต่ต้องเฝ้าระวัง ผลกระทบทางอ้อมต่อบรรยากาศทางเศรษฐกิจโดยรวมและการตัดสินใจใช้จ่ายของผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าระดับกลาง ยังคงเป็นสิ่งที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด

 “แม้ธุรกิจเครื่องประดับจะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากภาษีทรัมป์ แต่ก็มีผลกระทบต่อกลุ่มลูกค้าที่ทำธุรกิจซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและนโยบายการค้า ทำให้ลูกค้าต้องติดตามข่าวสารและปรับตัวตามสถานการณ์ นอกจากนี้ ผลกระทบจากภาษีทรัมป์อาจส่งผลต่อบรรยากาศทางเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งอาจทำให้การใช้จ่ายของผู้บริโภคลดลง โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าระดับกลางที่มีความกังวลเกี่ยวกับหนี้สินและเศรษฐกิจ”

 ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงและความท้าทาย “อัญรัตน์ พรประกฤต” ในฐานะคลื่นลูกใหม่แห่งยูบิลลี่ฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะนำพาแบรนด์เครื่องเพชรไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย เข้าใจผู้บริโภค และสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการในทุกมิติ

 

หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,089 วันที่ 20 - 23 เมษายน พ.ศ. 2568