ไทยเบฟ สปีดแรงธุรกิจอาหาร ทุ่มพันล้าน บูม KFC – Oishi – FOA

19 ต.ค. 2568 | 22:16 น.
อัปเดตล่าสุด :20 ต.ค. 2568 | 03:41 น.

เปิดแนวรบ “ธุรกิจอาหาร ไทยเบฟ” เดินหน้าลุยขยายสาขา KFC พลิกโฉม “โออิชิ” เร่งสปีดการเติบโต FOA พร้อมปักธง ‘วัน แบงค็อก’ เปิดแฟล็กชิปสโตร์ แอพ “สุข” ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่

KEY

POINTS

  • ไทยเบฟเวอเรจทุ่มงบประมาณ 1,000 ล้านบาทในปี 2569 เพื่อเร่งการเติบโตของธุรกิจอาหารภายใต้แผน PASSION 2030
  • มุ่งขยายสาขา KFC ซึ่งเป็นแฟรนไชส์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย ตั้งเป้าเปิดใหม่ 40-45 แห่งต่อปี โดยเน้นรูปแบบร้าน "stand alone"
  • ปรับกลยุทธ์กลุ่มโออิชิ (Oishi) เพื่อดึงดูดลูกค้า Gen Z และขยายตลาดต่างประเทศ พร้อมปรับภาพลักษณ์แบรนด์ในเครือเช่น ชาบูชิ
  • ขยายธุรกิจ Food of Asia (FOA) โดยเน้นเปิดสาขาในโครงการของเครือ TCC Group และพัฒนานวัตกรรมสินค้าเพื่อส่งออกไปตลาดยุโรป

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่าในปี 2568 ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มในไทยจะมีมูลค่ารวม 6.46 แสนล้านบาท เติบโตราว 2.8% ธุรกิจร้านอาหารมีมูลค่า 5.62 แสนล้านบาทและเติบโต 3% ซึ่งตลาดนี้มีการแข่งขันที่สูงขึ้นจากทั้งผู้เล่นเดิมและผู้ท้าชิงรายใหม่

ขณะที่ผู้บริโภคก็มีความต้องการความแปลกใหม่มากขึ้น ผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมจึงต้องพร้อมปรับตัวรับมือกับความท้าทายด้านเศรษฐกิจและต้นทุน

ล่าสุด ไทยเบฟได้ประกาศแผนลงทุนเชิงรุกสำหรับปีงบประมาณ 2569 (1 ต.ค. 68 - 30 ก.ย. 69) โดยจัดสรรงบลงทุนรวม 9,000 ล้านบาท เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งและผลักดันการเติบโตอย่างยั่งยืนในทุกกลุ่มธุรกิจหลักตามแผน “PASSION 2030” แบ่งเป็นธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ 4,000 ล้านบาท ธุรกิจสุราและเบียร์อย่างละ 2,000 ล้านบาท และธุรกิจอาหาร 1,000 ล้านบาท

ซึ่งการลงทุนนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของไทยเบฟในการก้าวขึ้นสู่การเป็น “ผู้นำที่มั่นคงและยั่งยืนของอาเซียน” ในธุรกิจเครื่องดื่มและอาหารภายในปี 2573

นายไพศาล อ่าวสถาพร ผู้อำนวยการอาวุโสและผู้บริหารสูงสุดสายธุรกิจอาหาร ประเทศไทย บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทเตรียมจัดสรรงบประมาณ 1,000 ล้านบาท ผ่าน 3 กลุ่มธุรกิจสำคัญ กลุ่มแรกคือ QSR ที่มี KFC โดยงบส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การขยายสาขา

นายไพศาล อ่าวสถาพร

ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างมั่นคงและไทยเบฟเป็นแฟรนไชซีรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทยด้วยจำนวนกว่า 500 สาขา ซึ่ง KFC มีแผนเปิดสาขาใหม่ให้ได้ 40-45 แห่งทุกปีเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดและขยายการเข้าถึงลูกค้าในทำเลสำคัญ โดยเน้นกลยุทธ์การพัฒนาเป็นร้านแบบ “stand alone” ซึ่งเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมหลังสถานการณ์โควิด เนื่องจากช่วยเพิ่มความสะดวกและคล่องตัวในการดำเนินงาน อีกทั้งยังไม่ขึ้นอยู่กับข้อจำกัดของศูนย์การค้า

กลุ่มที่ 2 โออิชิ (Oishi) ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีความท้าทายสูงจากการแข่งขันที่รุนแรง ปัจจุบันอยู่ระหว่างการปรับปรุงธุรกิจ (turn around plan) เพื่อดึงดูดลูกค้ากลุ่ม Gen Z และขยายการรับรู้แบรนด์ในตลาดต่างประเทศ ทั้งนี้ได้มีการปรับปรุงภาพลักษณ์ของแบรนด์ชาบูชิ (Shabushi) เพื่อเน้นการเป็น “ซูชิมาสเตอร์” นอกเหนือจากการให้บริการชาบู ยังมีแผนปรับปรุงร้าน โออิชิ บุฟเฟต์ และ โออิชิ ราเมน ในอนาคตอีกด้วย โออิชิยังมีแผนขยายสาขาใหม่ในพื้นที่สำคัญอย่าง วัน แบงค็อก โดยปรับปรุงรูปแบบร้านให้มีความทันสมัย และคิดค้นเมนูใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค

กลุ่มที่ 3 ธุรกิจ Food of Asia (FOA) เป็นกลุ่มธุรกิจที่พัฒนาและบริหารร้านอาหารอย่างครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่อาหารไทย จีน อาเซียน อาหารตะวันตก ไปจนถึงร้านอาหารระดับมิชลิน และเค้กเบเกอรี่ กลยุทธ์หลักของ FOA คือการขยายสาขาในโครงการของบริษัทในเครือ TCC Group โดยเฉพาะในโครงการใหญ่ๆ เช่น วัน แบงค็อก ในการเปิดร้านใหม่ในรูปแบบ แฟล็กชิปสโตร์ เพื่อเสริมสร้างมูลค่าให้กับโครงการและเพิ่มยอดขายในพื้นที่ของตนเอง ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงยังไม่ได้ขยายสาขาไปในวงกว้างมากนัก

Oishi ยังมุ่งเน้นการสร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น มินิพัฟเฟต์ เกี๊ยวซ่าหวาน และ สยามเอสเซนส์ รวมถึงการทำธุรกิจส่งออกอาหารไปยังต่างประเทศ โดยผลิตภัณฑ์หลักคือ เกี๊ยวซ่าหวาน ภายใต้แบรนด์ อิตโตะ ซึ่งเป็นที่นิยมในกลุ่มประเทศยุโรป โดยมีประเทศฝรั่งเศสเป็นตลาดหลัก

นอกจากนี้ ไทยเบฟได้เปิดตัวแอปพลิเคชัน “สุข” (SOOK) ซึ่งให้บริการ “vertical delivery” ภายในอาคารวัน แบงค็อก โดยมียอดการใช้งานเฉลี่ย 5,000 คน ต่อวัน และยังมีบริการ “สุขปิ่นโต” ซึ่งให้พนักงานออฟฟิศสั่งอาหารล่วงหน้าในราคาพิเศษ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าในพื้นที่โดยไม่ต้องเดินทางไปซื้ออาหารนอกออฟฟิศ

ปัจจุบันรายได้จากธุรกิจอาหารของไทยเบฟคิดเป็นประมาณ 5% ของรายได้ทั้งหมดในเครือ อย่างไรก็ตาม บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตในธุรกิจนี้ภายใต้แผน PASSION 2030 เฉลี่ยประมาณ 9% ต่อปี

หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,141 วันที่ 19 - 22 ตุลาคม พ.ศ. 2568