KEY
POINTS
นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานเปิดงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 30 หรือ Book Expo Thailand 2025 ภายใต้แนวคิด “Melody of Books – อ่านหรือยัง ฟังหรือเปล่า” ที่เชื่อมโลกแห่งตัวอักษรเข้ากับเสียงดนตรีและสื่อสร้างสรรค์ยุคใหม่ โดยเสียงดนตรี คือ บทกวีที่ไร้ตัวอักษร, หนังสือ คือ ท่วงทำนองที่ไม่ต้องมีเสียง ทั้งคู่คือศิลปะแห่งการรับรู้ด้วยหัวใจ จัดขึ้นที่ฮอลล์ 5–7 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 9–19 ตุลาคม 2568 เวลา 10.00–21.00 น.
นางสาวซาบีดา กล่าวว่า การอ่านคือรากฐานสำคัญของการเรียนรู้ และเป็น “ทุนมนุษย์” ที่ทรงคุณค่าที่สุด เพราะเมื่อประชาชนมีทักษะการอ่าน การคิดวิเคราะห์ และสามารถเรียนรู้อย่างต่อเนื่องได้ ประเทศก็จะมีพลังในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมอย่างมั่นคงและยั่งยืน ทั้งนี้ หลายประเทศที่ประสบความสำเร็จได้พิสูจน์แล้วว่า “การสร้างสังคมแห่งการอ่าน” คือการลงทุนที่คุ้มค่าและยั่งยืนที่สุด
โดยสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย รวมถึงทุกภาคส่วนที่ร่วมแรงร่วมใจกันจัดงาน มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 30 ถือเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้นักเขียน นักอ่าน และผู้ประกอบการได้มาพบปะ แลกเปลี่ยนความคิด สร้างแรงบันดาลใจ และร่วมกันส่งเสริมให้สังคมไทยเติบโตเป็น “สังคมแห่งการอ่าน” อย่างแท้จริง
ด้าน นายณัฐกร วุฒิชัยพรกุล นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ในการเปิดงานวันแรกคาดว่าจะมีนักอ่านทะลักเข้างาตมากกว่า 1 แสนคน โดยเฉพาะช่วงเวลาหลังเลิกงานตอนเย็นเป็นต้นไป แม้จะเป็นวันธรรมดาปกติแต่ผู้คนในงานน่าจะหนาแน่นพอสมควร
“นิทรรศการของมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 30 หรือ Book Expo Thailand 2025 ในปี 2568 นี้ เป็นอีกครั้งทึ่มีนิทรรศกาลที่หลากหลาย อยากให้นักอ่านและผู้ร่วมงานเข้ามาเยี่ยมชมกัน ซึ่งจะมีไฮไลท์พิเศตลอด ซึ่งรวมกว่า 900 บูธ จาก 400 สำนักพิมพ์ชั้นนำ ครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 3 ฮอลล์”
ทั้งนี้ ทางสมาคมฯ ได้ร่วมกับ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม, คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านหนังสือ คณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ จัดกิจกรรมบนเวที และอบรมสัมมนา และกิจกรรมที่น่าสนใจ รวมกว่า 100 รายการ ผสานความรู้ แรงบันดาลใจ และความบันเทิงไว้ในที่เดียว อาทิ
• “View ’til Touch” นิทรรศการอินเทอร์แอคทีฟ ที่ผสานโลกหนังสือกับเสียงดนตรี ผู้เข้าชมสามารถฟังเพลงจากตัวอักษร และทดลองสร้างเสียงเพลงจากหนังสือผ่านโปรแกรม Suno
• Author’s Salon (A02) พื้นที่พบปะของนักเขียน–นักอ่าน เปิดเวทีแลกเปลี่ยนแนวคิดและแรงบันดาลใจ
• Read for The Blind ร่วมกับมูลนิธิคนตาบอดไทย เปิดโอกาสให้ผู้ร่วมงานบันทึกเสียงอ่านหนังสือและบริจาคเพื่อผลิตหนังสือเสียง
• Little Read Universe: Playful Reading พื้นที่แห่งการเรียนรู้ของเด็ก ที่ชวนให้หนังสือกลายเป็นเพื่อนเล่นสร้างจินตนาการ
• Hiroba ลานหนังสือภาพ พื้นที่สำหรับครอบครัวและกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์
• การแสดงพิเศษ “เจ้าขุนทองและผองเพื่อน” ครั้งแรกในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ผสมผสานดนตรี การเล่านิทาน และการแสดงหุ่นมือ
• PUBAT Contest เวทีประกวดระดับประเทศ 3 รายการ ได้แก่ การประกวดเล่านิทาน การแต่งเพลงส่งเสริมการอ่าน และการโต้วาทีระดับมัธยมศึกษาทั่วประเทศ
นายณัฐกร กล่าวว่า จากผลสำรวจพฤติกรรมการอ่านล่าสุด พบว่า “คนไทยยังคงนิยมอ่านหนังสือเล่มจริง” โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ กลุ่มอายุ 15–18 ปี มีสัดส่วนผู้ซื้อหนังสือแบบเสียค่าใช้จ่ายสูงถึง 86% ขณะที่กลุ่มอายุ 23–28 ปี อยู่ที่ 84% และกลุ่มอายุ 12–14 ปี อยู่ที่ 83% ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนชัดว่า “เยาวชนไทยยังรักการอ่าน” แม้โลกดิจิทัลจะเติบโตอย่างรวดเร็วก็ตาม
ทั้งนี้ คนไทยอ่านหนังสือเฉลี่ยวันละ 50.77 นาที แบ่งเป็นการอ่านหนังสือกระดาษเฉลี่ย 51 นาที และการอ่านบนแพลตฟอร์มออนไลน์เฉลี่ย 152 นาทีต่อวัน โดยประเภทการอ่านที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (56%) หนังสือกระดาษ (26%) และหนังสือเสียง (15%)
ข้อมูลทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นว่า “อุตสาหกรรมหนังสือไทยยังมีศักยภาพในการเติบโตอีกมาก” ปัจจุบันตลาดหนังสือไทยมีมูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท และยังเติบโตเฉลี่ยปีละ 3.5% ด้วยการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากภาครัฐในด้านความคิดสร้างสรรค์ วัฒนธรรม และสังคมแห่งการเรียนรู้ จึงมีความมั่นใจอย่างยิ่งว่า หนังสือไทยจะก้าวขึ้นมาเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของการเติบโตและการพัฒนาทางวัฒนธรรมของประเทศ
ภายในงานมีหนังสือให้เลือกซื้อมากมายกว่า 2 ล้านเล่ม นอกจากนี้ยังมี หนังสือปกใหม่กว่า 2,000 ปก พบนักเขียนชื่อดังมากมาย พร้อมโปรโมชั่นพิเศษจัดเต็ม จากทุกสำนักพิมพ์ และบริการจัดส่งตรงถึงบ้านจากไปรษณีย์ไทย