เปิดเทรนด์นักอ่าน ‘ฟังสปอยก่อนซื้อ’ เตรียมบุกงานมหกรรมหนังสือ ครั้งที่ 30

03 ต.ค. 2568 | 18:11 น.
อัปเดตล่าสุด :03 ต.ค. 2568 | 18:19 น.

เปิดเทรนด์นักอ่านในยุคปัจจุบัน ก่อนงานมหกรรมหนังสือ ครั้งที่ 30 ชี้คนนิยมฟังสปอยก่อนซื้อ หนังสือขายายดีต้องทำการตลาดมาก่อน ทั้งดันนอดขายออนไลน์พุ่งแรงตามโปรโมชั่น

KEY

POINTS

  • เทรนด์นักอ่านยุคใหม่เปลี่ยนไป โดยจะศึกษาข้อมูลและตัดสินใจเลือกซื้อหนังสือที่ต้องการมาก่อนเข้าร่วมงานหนังสือฯ หรือที่เรียกว่า 'ฟังสปอยก่อนซื้อ'
  • พฤติกรรมดังกล่าวมีสาเหตุหลักจากภาวะเศรษฐกิจที่ทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น และจะเตรียมรายการหนังสือที่ต้องการซื้อมาล่วงหน้า
  • นักอ่านที่มางานกว่า 40-50% มีเป้าหมายซื้อหนังสือที่ต้องการมาแล้ว ทำให้การซื้อหนังสือเล่มอื่นที่ไม่ได้วางแผนไว้ทำได้ยากขึ้น

นายณัฐกร วุฒิชัยพรกุล นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 30 หรือ Book Expo Thailand 2025 นับได้ว่าเป็นอีเว้นท์ใหญ่ที่สำนักพิมพ์และนักอ่านรอคอย ซึ่งจะเปิดฉากแล้ววันที่ 9- 19 ตุลาคม 2568 ทุกวันเวลา 10.00 น. - 21.00 น. ที่ฮอลล์ 5-7 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

โดยสถานการณ์ของตลาดหนังสือในยุคปัจจุบัน ตั้งแต่ต้นปี 2568 มาจนถึงปลายปีเริ่มเปลี่ยนแปลงตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน เทรนด์นักอ่านที่มาร่วมในงานหนังสือจะไม่เดินเลือกซื้อหนังสือตามบูธเหมือนในอดีต แต่จะ ‘ฟังสปอยก่อน’ หรือศึกษาเนื้อเรื่องและเลือกหนังสือที่ต้องการมาจากบ้าน และซื้อเฉพาะเจาะจงตามที่ได้เลือกไว้

“เทรนด์ที่เกิดขึ้นมาจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ผู้คนเริ่มระมัดระวังในการใช้เงินมากขึ้น นักอ่านส่วนใหญ่จะมีลิสต์หนังสือที่ต้องการซื้อมาอยู่แล้ว ต่างจากเมื่อก่อนที่คนจะมาเดินเลือกดูว่ามีอะไรออกใหม่บ้าง ทำให้ตอนนี้การตลาดต้องเริ่มทำตั้งแต่ก่อนงานหนังสือจะเริ่มด้วยซ้ำ หนังสือที่ขายดีคือหนังสือที่ทำการตลาดมาก่อนแล้ว”

นายณัฐกร กล่าวว่า กรณีนี้สอดคล้องกับอัตราการซื้อออนไลน์ที่เติบโตขึ้น สัดส่วนยอดขายออนไลน์น่าจะสูงประมาณ 40% เพิ่มขึ้นจากอดีตหลายส่วน ประกอบกับมีแคมเปญลดราคาตามแอปพลิเคชันต่าง ๆ ตามวันเดือนปี เช่น 8.8 วันที่ 8 เดือน สินหาคม หรือ 9.9 วันที่ 9 เดือน กันยายน ทำให้เกิดการกระตุ้นยอดขายผ่านออนไลน์สูงมาก 

ดังนั้น นักอ่านบางคนที่มาเดินในงานหนังสืออาจกดสั่งซื้อผ่านแอปพลิเคชันแล้วก็มี ซึ่งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา พฤติกรรมคนที่มางานคือ ได้หนังสือเล่มที่ต้องการแล้วค่อยไปเดินดูหนังสือเล่มอื่น ๆ ลูกค้านักอ่านกลุ่มนี้คาดว่ามีสัดส่วนสูง 40-50% คนที่จะมาเดินงานหนังสือแบบไม่มีเป้าหมายมีอยู่น้อยมาก และการซื้อหนังสือเล่มอื่นในงานอาจยากขึ้น เพราะเงินก็อาจเหลือน้อยลง ถือเป็นข้อจำกัดในการซื้อพอสมควร

อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีผู้สนใจเข้าร่วมงานและเลือกซื้อหนังสือกว่า 1.3 ล้านคน และมียอดขายกว่า 400 ล้านบาท ซึ่งข้อมูลจากงานวิจัยโดยเฉลี่ย คนไทยยังใช้เวลาอ่านหนังสือกว่า 159 นาทีต่อวัน