นายเกษม ดุษฎีประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แกรนด์ มาสเตอร์ เอ็กซิบิชั่น จำกัด ผู้จัดงานแสดงเทคโนโลยีการผลิตสื่อโฆษณานอกบ้านและงานป้าย กล่าวว่า แกรนด์ มาสเตอร์ เอ็กซิบิชั่น ได้ร่วมมือกับสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย (TGMA) สมาคมส่งเสริมไทยธุรกิจโฆษณา (TABDA) ประกาศความพร้อมจัดงานโชว์รวม 3 งานใหญ่แห่งปีไว้ในงานเดียวกันคือ
ภายใต้แนวคิด “ECO Friendly” ที่จะนำเทคโนโลยีการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม บนพื้นที่ 1 หมื่นตารางเมตร อัดแน่นด้วยผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีจาก 100 บริษัทผู้แทนจำหน่ายชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมกิจกรรมเวิร์กชอปและเสวนาให้ความรู้ โดยผู้เชี่ยวชาญของวงการ รวมถึงเป็นเวทีพบปะและสร้างเครือข่ายธุรกิจของผู้ประกอบการทั่วประเทศ ในระหว่างวันที่ 6-9 พฤศจิกายน 2568 ณ ฮอลล์ 6-7 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
ขณะที่ข้อมูลจากสมาคมมีเดียเอเยนซี่และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย (MAAT) ระบุว่าภาพรวมตลาดสื่อโฆษณายังมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น ในปี 2568 ตลาดสื่อโฆษณาทุกประเภทในประเทศไทยยังมีแนวโน้มเติบโตดี หรือมีเม็ดเงินโฆษณาเพิ่มขึ้น 3.9% จากปี 2567 หรือคิดเป็นมูลค่ารวม 1.2 แสนล้านบาท
จำนวนดังกล่าวแยกเป็นสื่อนอกบ้าน (Outdoor) และสื่อโฆษณาเคลื่อนที่ (Transit) รวมกันคิดเป็นสัดส่วน 16% หรือ 1.9 หมื่นล้านบาท มูลค่าของการผลิตสื่อที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอยู่ที่ 30% คิดเป็นเม็ดเงินโดยประมาณ 5,800 ล้านบาท ซึ่งธุรกิจงานผลิตป้าย มีบทบาทสำคัญในการให้ผู้ประกอบการในธุรกิจการผลิตป้ายต้องอัพเดทเทคโนโลยีใหม่ตลอดเวลา
นายเกษม กล่าวว่า ในงานนี้ยังมีพันธมิตรอย่างสมาคมส่งเสริมไทยธุรกิจโฆษณา (TABDA) และวิทยาลัยเพาะช่าง ที่ได้จัดทำโครงการประกวดป้ายชื่องาน และการออกแบบซุ้มประตูทางเข้า ARCHWAY เวทีแสดงผลงานป้ายโฆษณาที่ออกแบบจากวัสดุรักษ์โลก
เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างสรรค์ผลงานด้านการออกแบบป้าย และเปิดเวทีให้นักศึกษาได้แสดงผลงานและความคิดสร้างสรรค์ ใช้วัสดุและเทคโนโลยีที่ทันสมัยและสอดคล้องกับแนวโน้มการตลาดในปัจจุบัน ชิงเงินรางวัล รวมมูลค่ากว่า 6 หมื่นบาท เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 1-30 มิถุนายน 2568 ประกาศผลผู้เข้ารอบวันที่ 15 กันยายน 2568 โดยจะนำผลงานที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายมาจัดแสดงภายในงาน
“เราต่อยอดความสำเร็จจากการจัดงานปีที่ผ่านมา ซึ่งได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี มีผู้เข้าร่วมชมงานจาก 35 ประเทศกว่า 5,000 คน และสำหรับในปี 2568 นี้ เรายังดำเนินการจัดงานพร้อมกันทั้ง 3 งาน เพื่อปิดโอกาสให้ผู้ร่วมออกบูธได้พบปะกับผู้ซื้อตัวจริงจากทั่วประเทศ
ตอบโจทย์การทำยอดขายจริง สามารถเข้าถึงเจ้าของธุรกิจทั่วประเทศและประเทศในกลุ่ม CLMV เพิ่มโอกาสในการขยายฐานลูกค้าด้วย โดยคาดว่าตลอด 4 วันของการจัดงาน จะมีผู้เข้าชมจากต่างประเทศและประเทศไทย ประมาณการณ์ 10,000 คน เกิดมูลค่าซื้อขายกว่า 1,000 ล้านบาท พร้อมต่อยอดความสัมพันธ์และขายซ้ำหลังจบงานได้อย่างต่อเนื่อง”