"ไฮเออร์" แก้เกมยอดร่วง หันออกสินค้าสุขภาพจับ Gen Y- Z

15 ธ.ค. 2566 | 22:08 น.

"ไฮเออร์" พลิกเกมออกสินค้าสุขภาพ ชูสปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง จับกลุ่ม Gen Y และ Z หลังผลงานปีนี้ -4% แต่ยอดสินค้าโต 12 % ตั้งเป้ายอดขายปีหน้าทะลุ 1.1 หมื่นล้านบาท

นายธเนศร์ บินอาซัน รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2567 บริษัทจะเดินหน้ากลยุทธ์ Sport Marketing พร้อมขยายฐานลูกค้าตั้งแต่ระดับกลางจนถึงระดับไฮเอนด์ 

"ปีหน้าไฮเออร์เห็นเทรนด์เรื่องสุขภาพมากแรง พฤติกรรมของผู้บริโภคหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น และได้วางแผนขยายกลุ่มสินค้าที่ใส่ใจสุขภาพ เพื่อรับมือกับเทรนด์ที่มา พร้อมเจาะกลุ่มคนรุ่นหรือ กลุ่ม Y กับ Z ตั้งเป้ายอดขาย 1.1 หมื่น"

สำหรับในปีนี้ ภาพรวมของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเติบโตขึ้น 8-10% เมื่อเทียบกับปี 2565 แต่ไฮเออร์ประเทศไทย คาดการณ์ว่าจะปิดยอดขายที่ 9,070 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่แล้วมียอดขาย -4% โดยมีสินค้ายอดนิยม ได้แก่

  • อันดับ1 ตู้เย็น เติบโต 12.9% คิดเป็นยอดขาย 1,500 ล้านบาท
  • เครื่องซักผ้า คิดเป็นยอดขาย 1,000 ล้านบาท
  • ตู้แช่ เติบโต 38% คิดเป็นยอดขาย 900 ล้านบาท
  • ทีวียอดขายรวม 800 ล้านบาท
  • เครื่องครัว ยอดขายโต 62%
  • เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กยอดขายรวม 250 ล้านบาท
  • เครื่องทำน้ำอุ่น ยอดขายรวม 313 ล้านบาท

\"ไฮเออร์\" แก้เกมยอดร่วง  หันออกสินค้าสุขภาพจับ Gen Y- Z

สาเหตุที่ภาพรวมไฮเออร์ -4% โดยนับรวมแบรนด์ในเครือทั้งหมด รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ เช่น กำลังซื้อผู้บริโภคที่ยังไม่กลับมา และภาครัฐที่ยังไม่มีนโยบายที่คอยสนับสนุน ประกอบกับแบรนด์ Yudee (ในเครือ) มีนโยบายให้ลูกค้าผ่อนชำระการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า จากปัจจัยเหล่านี้ทำให้ภาพรวมธุรกิจทั้งหมดของไฮเออร์ติดลบ นายธเนศร์ ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า ถึงภาพรวมธุรกิจจะติดลบ แต่สินค้านิยมกลับเติบโตถึง 12 % โดยเฉพาะตู้เย็น 

อย่างไรก็ตาม ถึงตู้เย็นจะนิยมเป็นอันดับหนึ่ง แต่ได้มีข้อมูลเผยออกมาว่า ตลาดตู้เย็นมีแนวโน้มที่จะลดลงในปีหน้า เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคมีการแปลงเปลี่ยน โดยพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑลมีอัตราการซื้อที่ลดลง ผู้บริโภคมีความคิดที่ว่าไม่จำเป็นต้องมีตู้เย็น เพราะมีร้านสะดวกซื้ออยู่ใกล้ สามารถหาซื้อได้ง่าย 

โดยปี 2567 ไฮเออร์ มีแผนทุ่มงบกว่า 1,000 ล้านบาทสำหรับการทำกิจกรรมทางการตลาดให้กับแบรนด์ ไฮเออร์ และ คาซาร์เต้ นอกจากนี้ยังมีการปรับการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าของไฮเออร์และคาซาร์เต้ให้กว้างขึ้นโดยมีสินค้าระดับกลางถึงระดับไฮเอนด์

 

สุดท้ายที่ไฮเออร์จะปรับคือ บริการหลังการขาย ยังคงดำเนินตามมาตรฐาน 210 Quick Service โดยจะติดต่อกลับหาลูกค้าภายใน 2 ชั่วโมง หลังจากพนักงานรับเรื่องผ่านทาง Haier Care 1789 จะสรุปแนวทางแก้ไขให้ลูกค้าภายใน 1 วัน และแต่ละวันงานค้างต้องเป็น 0  ซึ่งปัจจุบันมีศูนย์ซ่อมบริการรวมกว่า 187 ศูนย์ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 10%