ภาคต่อ "เดอะ พิซซ่า คอมปะนี” รีแบรนด์ในรอบ 22 ปี

21 มิ.ย. 2566 | 10:35 น.

ส่องผลงาน“เดอะ พิซซ่า คอมปะนี” หลังรีแบรนด์ครั้งใหญ่ในรอบ 22 ปี เดินหน้าภาคต่อโรดแมป “The Game Changer” ลุยสร้างโมเมนตัม “The Best Pizza Moment”

หลัง “เดอะ พิซซ่า คอมปะนี”  Rebranding ในรอบ22 ปีในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อเก็บลูกค้ากลุ่มแฟนพันธุ์แท้ซึ่งหลักๆเป็นกลุ่มครอบครัวที่ใช้บริการ เดอะ พิซซ่า คอมปะนี มาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันยังต้องการดึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆเข้ามาใช้บริการมากขึ้น โดยปรับ Branding ให้ดูขึ้นสดใสและโมเดิร์นขึ้นเพื่อดึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ

นายปัทม์ พงษ์วิทยาพิพัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป เดอะ พิซซ่า คอมปะนี

นายปัทม์ พงษ์วิทยาพิพัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป เดอะ พิซซ่า คอมปะนี ภายใต้การดำเนินการของ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ย้อนรอยบิ๊กมูฟครั้งนี้ว่า การRebrandingครั้งใหญ่ ในรอบ 22 ปีเป็นการพลิกโฉมสู่การเป็นผู้นำเกมหรือ “The Game Changer” เริ่มตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาด้วยการปรับเปลี่ยน ‘โลโก้ใหม่’ โดยใช้สีเขียวไอคอนิคที่ดูเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความสนุกสนาน รวมทั้งดีไซน์ของร้าน ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถปรับปรุงร้าน “เดอะ พิซซ่า คอมปะนี” โมเดลใหม่ ในเขตกรุงเทพและปริมนฑลให้เสร็จภายในสิ้นปีนี้ 

นอกจากนี้ยังมีการปรับรูปแบบบริการโดยปรับลุค ‘ยูนิฟอร์มใหม่’ ทุกตำแหน่ง ซึ่งเกิดจากการทำงานร่วมกับแบรนด์ ASAVA ให้มีความโมเดิร์นกว่าเดิม ทั้งความสดใส ความกระฉับกระเฉง และที่สำคัญดูวัยรุ่นมากขึ้น ในขณะที่ตัวโพรดักซ์มีการปรับขนาดท็อปปิ้งที่เป็นคอร์อินกรีเดี้ยนให้ชิ้นใหญ่ขึ้นเพื่อให้มีรสสัมผัสท่เต็มปากเต็มคำมากขึ้น

ภาคต่อสเต็ปโต “เดอะ พิซซ่า คอมปะนี”หลังรีแบรนด์ในรอบ 22 ปี
ผลจากการดำเนินการRebranding ข้างต้นส่งผลให้ผลประกอบในช่วงไตรมาสที่ 2ของปี 2566 มีอัตราการเติบโตถึง 25% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยช่องทางไดน์อิน เติบโต 40% เดลิเวอรี่เติบโต 27%ขณะที่ผู้บริหารยอมรับว่าเทคอเวย์ยังเป็นโจทย์ที่ “เดอะ พิซซ่า คอมปะนี”จะต้องทำให้เติบโตในปีนี้  ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนรายได้มาจากช่องทางเดลิเวอรี่ 50% ไดน์อิน25% และเทคอเวย์ 25%

“คอนเซ็ปต์ในการRebrandครั้งนี้เราใช้คำว่า “The Game Changer” เพราะเราต้องการดึงลูกค้าปัจจุบันให้อยู่กับเราให้นานที่สุด ขณะเดียวกันเราต้องการที่จะดึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆเข้ามาหาเราไม่ว่าจะเป็นช่องทางนั่งทานในร้าน เทคอเวย์  และเดลิเวอรี่โดยเราใช้นวัตกรรมต่างๆทั้ง product service และเดลิเวอรี่เข้ามาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ ซึ่งจะเชื่อมโยงไปถึงคำว่า  “The Best Pizza Moment” ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าไปนั่งทานในร้านเพื่อ celebrate ต่างๆทั้งวันเกิด ประชุม การพบปะของกลุ่มเพื่อน ไปจนถึงเดลิเวรี่ซึ่งเรามีการเตรียมความพร้อมสำหรับการให้บริการใช้ทุกโมเมนต์”

 

ผู้บริหารกล่าวต่อไปว่า หลังจากการรีแบรนนดิ้งแล้ว “เดอะ พิซซ่า คอมปะนี” มั่นใจในโมเมนตัมที่เกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 2  และด้วย innovation ที่ใส่เพิ่มเข้าไปรวมกับอีเวนต์ที่กำลังจะเกิดขึ้นเชื่อว่า “เดอะ พิซซ่า คอมปะนี” จะสามารถรักษาโมเมนตัมเหล่านี้ไปจนถึงสิ้นปีได้ เบื้องต้นตั้งเป้าว่าจะสามารถสร้างการเติบโตโดยเฉลี่ย 25% ไปจนถึงสิ้นปีได้

ภาคต่อสเต็ปโต “เดอะ พิซซ่า คอมปะนี”หลังรีแบรนด์ในรอบ 22 ปี โดยปัจจุบันมูลค่าตลาดพิซซ่าอยู่ที่ราวๆ 1หมื่นล้านบาท “เดอะ พิซซ่า คอมปะนี”มีมาร์เก็ตแชร์ตลาดราวๆ 70% ในปี 2566 นี้ตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่ม 40 สาขาในโลเคชั่นกรุงเทพและปริมนฑล50% ต่างจังหวัด 50% เบื้องต้นมีการเปิดร้านใหม่ไปแล้ว 3 สาขาและอยู่ในไปป์ไลน์อีกกว่า 10สาขาคาดว่าจะใช้งบลงทุนราวๆ 6-10 ล้านบาทและภายในสิ้นปีนี้จะมีจำนวนสาขาทั้งสิ้น452สาขา 

 

ขณะที่นางสาววิยะดา บูรณะภากรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด เดอะ พิซซ่า คอมปะนี ภายใต้การดำเนินการของ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า ในช่วงนี้เป็นการดำเนินธุรกิจเป็นช่วงภาคต่อจากช่วงกุมภาพันธ์ โดยจะนำเสนอประสบการณ์ที่เป็น ‘The Best Pizza Moment’ ให้กับลูกค้าโดยมีทัชพอยท์หลายๆด้านเสริมกัน

 

เริ่มจากกลยุทธ์แรก New Membership Program ซึ่งเป็นบัตรสมาชิกใหม่ๆหรือ “The Pizza Club” เป็นการต่อยอดจากบัตรสมาชิกเดิมแต่ให้ความ exclusive มากกว่าทั้งสิทธิพิเศษมากกว่าเดิมและใช้ได้ตลอดทั้งปี ปัจจุบันมีสมาชิก2.3 ล้านเมมเบอร์ เบื้องต้นคาดว่า “The Pizza Club” จะสามารถขยายเมมเบอร์ใหม่ได้ 15%  และดึงลูกค้าเดิมมาใช้บริการเพิ่มขึ้น 35% และทำให้ยอดขายเติบโต 30% เมื่อเทียบกับรูปแบบเก่า 

นางสาววิยะดา บูรณะภากรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด เดอะ พิซซ่า คอมปะนี ส่วนกลยุทธ์ถัดไปยังคง continue New Design หรือขยายร้านรูปแบบใหม่อย่างต่อเนื่อง คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะสามารถขยายได้ถึง 100 สาขา ก่อนจะขยายให้ครบทั่วประเทศตามแผน 24 เดือน เพื่อให้ลูกค้าเข้ามามี‘The Best Pizza Moment’ มากขึ้น รวมทั้งยังมีการดีไซน์ไดอิน เอกพีเรียนซ์ในร้านขนาดใหญ่ที่อยู่ในห้างให้ลูกค้าสามารถเข้าไปใช้เวลานั่งทานได้โดยจะมีการดีไซน์ใหม่ออกมาให้เห็นในช่วงไตรมาส 4 ซึ่งจะสะท้อนความเป็นนิวแบรนด์ของ“เดอะ พิซซ่า คอมปะนี”ได้

 

นอกจากนี้ยังมีการปรับโฉมกล่องเดลิเวอรี LED ให้สดใสทั้งกลางวันและกลางคืน ทำให้แบรนด์ดูโดดเด่นและแตกต่างในตลาด ซึ่งนำร่องให้บริการ 9 คันแรก ในวันที่ 16 มิถุนายนนี้ ที่ เดอะ พิซซ่า คอมปะนี สาขา พันธ์ทิพย์

 

กลยุทธ์ถัดไป คือ New Core Menu ที่เน้นโดนใจ New generation มากขึ้น นอกจากการปรับสูตรเมนูพิซซ่าหลักให้มีท็อปปิ้งชิ้นใหญ่ขึ้น ปริมาณมากขึ้นอิ่มอร่อยจุใจกว่าเดิมและพรีเมียมมากขึ้น ในช่วงต้นปียังมีการออกเมนูใหม่ พิซซ่าแมงโก้  และล่าสุด พิซซ่าหน้าหมูชาบูและเนื้อชาบู ซึ่งครีเอทมาจากเสียงของลูกค้าที่ ต้องการเมนูที่แตกต่างและอยากลองสิ่งใหม่ที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นโดยแต่ละเมนูพิเศษจะวางจำหน่ายราวๆ 7-8 วีค และในช่วงครึ่งปีหลังจะมีเมนูใหม่ๆตามมาอีกแน่นอน 

ภาคต่อ \"เดอะ พิซซ่า คอมปะนี” รีแบรนด์ในรอบ 22 ปี

นอกจากยังมีบริการที่ทั้งสร้างสรรค์ มีความกระฉับกระเฉง ทำไมลูกค้ารู้สึกเข้าถึงได้ง่ายขึ้นประกอบกับการที่จะมีพื้นที่ต่างๆมากมายให้ลูกค้าสามารถมาเห็นแก่กับแบรนด์ได้เช่น the pizza junior chef  เวิร์คชอปที่เปิดพื้นที่ให้น้อง ๆ มาสวมบทบาทเป็นเชฟพิซซ่า เบื้องต้นนำร่อง10 สาขาในกรุงเทพฯและหัวเมืองต่างจังหวัดใหญ่ๆและในอนาคตจะขยายไปทั่วประเทศ 

 

“ปัจุบันเรามีลูกค้า New generation  17% และจากกลยุทธ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นแล้วและกำลังจะเกิดในอนาคตเราเชื่อว่าจะสามารถขยายกลุ่ม  New generation ให้เติบโตได้ถึง 20% ในสิ้นปีนี้”