คีย์ซัคเซส “KANEKOJI” รบอย่างไรให้ชนะในสมรภูมิแบรนด์เนมมือสอง

20 เม.ย. 2566 | 09:10 น.

ถอดรหัสความสำเร็จ "KANEKOJI" 2 ปียึดเบอร์ 1 Brandname Destination ในตลาดแบรนด์เนมมือสอง พร้อมสร้างคอมมิวนิตี้กลุ่มลูกค้า Top Spender มั่นใจปี 66 โตเพิ่ม 60%

สินค้าแบรนด์เนม เป็นตลาดที่ยังคงมีการเติบโตสูงขึ้นต่อเนื่อง นอกจากความสวยงาม การใช้งานแล้วยังเป็นหนึ่งในรูปแบบการลงทุนเพื่อเก็งกำไรต่อได้ ส่งผลให้ความสนใจในสินค้าแบรนด์เนมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเกิดแรงหนุนให้ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเติบโตตามไปด้วย โดยเฉพาะธุรกิจขายสินค้าแบรนด์เนมมือสอง ที่มีอัตราการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีความต้องการซื้อ-ขายเพิ่มมากขึ้น  รวมถึงชอบเปลี่ยนสินค้าใหม่อยู่ตลอดเวลา จึงเป็นการเปิดโอกาสให้กลุ่มนักลงทุนหรือนักเก็งกำไร เข้ามาเล่นในตลาดนี้มากขึ้นตาม 

ถอดคีย์ซัคเซส “KANEKOJI” รบอย่างไรให้ชนะในสมรภูมิแบรนด์เนมมือสอง

ในตลาดแบรนด์เนมมือสองในประเทศไทยมีผู้เล่นจำนวนมากทั้งร้านขายทางออนไลน์ และหน้าร้านให้คนได้เข้าไปเห็นสินค้าจริง หนึ่งในร้านแบรนด์เนมมือสองอันดับต้น ๆ ของไทย ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากคือ KANEKOJI (คาเนะโคจิ) ที่สามาารถปั้นแบรนด์ให้กลายเป็น Brandname Destination ของคนรักแบรนด์เนม หลังจากเปิดตัวได้เพียง 2 ปีเท่านั้น แต่สามารถทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างน่าทึ่ง 

KANEKOJI (คาเนะโคจิ) ก่อตั้งขึ้นโดย บริษัท คาเนะโคจิ กรุ๊ป จำกัด ในช่วงการระบาดของโควิด 19 เพราะเล็งเห็นโอกาสและช่องว่างทางการตลาดจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีการใช้จ่ายในช่องทางออนไลน์กับสินค้าฟุ่มเฟือยประเภท Luxury Goods อย่างก้าวกระโดด ประกอบกับแนวคิดที่อยากเป็น Brandname Destination ของคนที่รักและชื่นชอบ Luxury Goods จึงหันมายกระดับสินค้าแบรนด์เนมมือสองให้กลับมามีคุณค่าและมูลค่าที่เพิ่มมากขึ้น 

ถอดคีย์ซัคเซส “KANEKOJI” รบอย่างไรให้ชนะในสมรภูมิแบรนด์เนมมือสอง

ควบคู่ไปกับการปรับความคิดของผู้คนที่มีต่อสินค้าแบรนเนมมือสอง ด้วยการคัดสรรสินค้าที่เป็นของแท้ คุณภาพดี พร้อมบริการ Full Service พรีเมียม ทั้งยังเปิด Store ตั้งอยู่ใจกลางย่านสุขุมวิท เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้คนรักแบรนด์เนมรู้สึกหมือนการเข้า Shop แบรนด์เนมชื่อดัง

และเพื่อสร้างประสบการณ์สุดพรีเมียม KANEKOJI  ใช้คอนเซ็ปต์ของร้านโดยยึดแนวคิด KINTSUGI หนึ่งในศิลปะของญี่ปุ่น ศาสตร์แห่งการซ่อมแซมถ้วยชามที่แตกหักเสียหาย ด้วยการใช้ทองคำและยางไม้ นอกจากจะช่วยให้กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง ยังช่วยเพิ่มความสวยงาม และมูลค่าให้เพิ่มมากขึ้นไปอีก  โดยมีทีม Luxury Expert และพาร์ทเนอร์ จากทั้งในประเทศและต่างประเทศ คัดสรร เสาะหาและรวบรวม สินค้าวินเทจ รวมถึงไอเทมหายากและสินค้าที่อยู่ในเทรนฮิต พร้อมดูแลรักษาให้สินค้ากลับมามีคุณค่า และสวยงามมากขึ้น ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าจะได้รับสินค้าแบรนด์เนมมือสองที่เป็นของแท้คุณภาพดี

นอกจากนั้นเรื่องของ Service เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่  KANEKOJI ให้ความสำคัญ จึงมีเทรนด์พนักงานทุกคนให้สามารถดูแลลูกค้าแบบเฉพาะรายบุคคล สามารถวิเคราะห์และเข้าใจลูกค้าที่มีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ สินค้าแบบใดที่ลูกค้าต้องการ บริการแบบใดที่ลูกค้าจะพึงพอใจมากที่สุด สามารถช่วยแนะนำลูกค้าได้อย่างเหมาะสม จึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สร้างความประทับใจกับลูกค้าได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้บริการหลักของ KANEKOJI มี 4 บริการ คือ ขายสินค้าแบรนด์เนมมือสอง รับซื้อและฝากขายกระเป๋า บริการตรวจกระเป๋าแท้-ปลอม และสปากระเป๋า นอกจากคุณภาพของสินค้าและการบริการครบวงจรแบบพรีเมียม 

ในปีนี้วางเป้าหมายที่จะขยายกลุ่มเป้าหมายให้กว้างขึ้น เพื่อสร้างให้ KANEKOJI เป็นที่รู้จัก และกลายเป็นที่หนึ่งในใจของลูกค้า โดยเตรียมเจาะกลุ่มเป้าหมายชาวต่างชาติที่อาศัย หรือเข้ามาท่องเที่ยวในไทย เช่น ชาวจีน ชาวญี่ปุ่น ชาวเกาหลี และชาวยุโรป โดยใช้ความหลากหลายของสินค้า ที่มีทั้งสินค้ากลุ่ม Mass Market และ Niche Market รวมถึงการบริการแบบพรีเมียมครบวงจรโดยแบรนด์ที่รับความนิยมสูงสุดก็ยังคงเป็นแบรนด์ Chanel โดยมีแบรนด์อื่นๆ ที่ได้รับความนิยมรองลงตามลำดับ ได้แก่ Louis Vuitton, Hermes, Gucci, Dior เป็นต้นเป็นจุดดึงดูดและคาดการณ์ว่ารายได้ในปีนี้จะเติบโตเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 60% จากที่ผ่านมา 

“ สิ่งที่จะช่วยเสริมให้แบรนด์แข็งแรงและดึงดูดให้มีลูกค้าเพิ่มมากขึ้น มี 3 ส่วนคือ ‘KANEKOJI Membership’ สิทธิประโยชน์พิเศษ ยกระดับการบริการ ส่วนลด หรือโปรโมชันต่างๆ รวมไปถึง Private Event สำหรับสมาชิก 2 เปิดเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าเข้าถึงสินค้าได้ง่ายและไว ติดตามข่าวสารและสินค้าใหม่ได้ก่อนใคร และสุดท้ายเปิดตัวผลิตภัณฑ์ตัวแรกของแบรนด์ ที่ผลิตจากห้องแล็บของโรงงานที่ได้มาตรฐานระดับโลก ตามคำเรียกร้องของลูกค้าที่อยากให้ออกผลิตภัณฑ์สำหรับดูแลกระเป๋าและเครื่องหนังแบรนด์เนมมือสองที่ใช้เวลาพัฒนามากกว่า 1 ปี”