สถานีบริการอาจเป็นเพียงจุดพักเติมพลังสำหรับรถยนต์ในสายตาของหลายคน แต่ “พีทีที สเตชั่น สุขุมเซอร์วิส” ก้าวข้ามนิยามเดิมๆ ด้วยการสร้างมาตรฐานใหม่ของการบริการที่เชื่อมโยงธุรกิจกับการพัฒนาคนอย่างยั่งยืน สถานีบริการจึงไม่เพียงแต่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในแง่บริการ แต่ยังยกระดับคุณภาพชีวิตของพนักงานและคนในพื้นที่ ด้วยแนวคิดที่ไม่เหมือนใคร
ภายใต้การบริหารของ นพ.สุขุม รังคสิริ ประธานกรรมการบริษัท สุขุมเซอร์วิส จำกัด ที่ให้บริการมามากกว่า 50 ปี ได้สร้างโมเดลธุรกิจที่มีเอกลักษณ์ โดยเฉพาะในสาขาแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ สาขานี้เป็นต้นแบบของการสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับลูกค้าและชุมชนผ่านความตั้งใจที่มากกว่าธุรกิจ ตั้งแต่การบริการด้วยหัวใจไปจนถึง การพัฒนาความสามารถของพนักงาน
“Book Club” คือหนึ่งในกิจกรรมที่สะท้อนแนวคิดนี้ได้เป็นอย่างดี นพ.สุขุมเล็งเห็นว่าการอ่านหนังสือไม่เพียงช่วยเปิดโลกทัศน์ของพนักงาน แต่ยังสร้างความเปลี่ยนแปลงในเชิงพฤติกรรมและทัศนคติ โดยพนักงานในสาขาต่างๆ จะได้รับหนังสือที่คัดสรรมาอย่างดีเพื่อเสริมสร้างความรู้ในหลากหลายด้าน เช่น การตลาด การบริหาร และจิตวิทยาการบริการ ตัวอย่างหนังสือในปีนี้ ได้แก่ Atomic Habits, The Art of the Good Life, Hidden Potential และ The Success Factors โดยแต่ละเล่มถูกเลือกมาเพื่อจุดประกายความคิดสร้างสรรค์และพัฒนาทักษะที่จำเป็นในงานบริการ
“แม้แต่พนักงานเติมน้ำมัน เขาก็ควรมีความรู้ที่จะช่วยให้เขาเข้าใจงานที่ทำ เข้าใจลูกค้า และเห็นโอกาสในการพัฒนาตัวเอง เพราะทุกคนมีศักยภาพที่จะเติบโต การให้ความรู้คือการให้เครื่องมือที่จะช่วยให้เขาค้นพบและพัฒนาศักยภาพนั้น ผมเชื่อว่าถ้าพนักงานมีความรู้ เขาจะมีความมั่นใจ มีความภูมิใจในงาน และสามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าได้มากกว่าการเป็นแค่คนเติมน้ำมัน” นพ.สุขุมกล่าว
กระบวนการเรียนรู้ไม่ได้หยุดเพียงแค่การอ่าน พนักงานยังมีโอกาสแบ่งปันสิ่งที่ได้เรียนรู้ในที่ประชุมประจำสัปดาห์ สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมกัน กิจกรรมนี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มศักยภาพของพนักงาน แต่ยังสร้างความภูมิใจในบทบาทของตนเองในฐานะ “ผู้ให้บริการ” ที่แตกต่าง
สุขุมเซอร์วิสยังนำหลักการ “ไคเซ็น” (Kaizen) หรือการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องมาเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาพนักงาน โดยได้เชิญ อ.เธียรชัย พันธ์คง ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคการพัฒนาคนและเจ้าของเพจ “ไคเซ็น ทุกคนทำได้ ทำง่าย ทำเลย” มาให้ความรู้พนักงานทุกระดับในสถานี เพื่อเรียนรู้วิธีมองเห็นปัญหาในงานเล็กๆ และปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง จนเกิดผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ในระยะยาว ยิ่งไปกว่านั้น นพ.สุขุมยังเปิดโอกาสให้พนักงานส่งผลงานไคเซ็นของตนเองเพื่อรับการประเมินและรางวัล ทำให้เกิดแรงจูงใจและความภูมิใจในผลงาน
นพ.สุขุมได้กล่าวถึงพลังของไคเซ็นไว้ว่า “หลักการไคเซ็นเป็นตัวอย่างที่ดีของการนำความรู้มาใช้พัฒนางานประจำวัน เมื่อพนักงานเข้าใจหลักการนี้ เขาจะเริ่มมองเห็นโอกาสในการพัฒนาแม้ในสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เช่น การจัดระเบียบอุปกรณ์ทำความสะอาด การปรับปรุงขั้นตอนการให้บริการ หรือการคิดวิธีสื่อสารกับลูกค้าให้ดีขึ้น ผมภูมิใจมากที่ได้เห็นพนักงานของเรานำเสนอไอเดียการปรับปรุงงานใหม่ๆ อยู่เสมอ บางครั้งสิ่งที่พวกเขาคิดค้นก็เรียบง่ายมาก แต่ส่งผลดีต่อการทำงานและความพึงพอใจของลูกค้าอย่างชัดเจน นี่คือพลังของการให้ความรู้และเปิดโอกาสให้พนักงานได้คิดและพัฒนาด้วยตัวเอง”
ผลลัพธ์ที่เกิดจากการพัฒนาคนของสุขุมเซอร์วิสไม่ได้หยุดอยู่แค่ในองค์กร แต่กระจายไปยังชุมชนรอบข้าง ตัวอย่างเช่น “พีทีที สเตชั่น สุขุมเซอร์วิส สาขาแม่ริม” ที่เปิดโอกาสให้คนในพื้นที่ได้เข้ามาทำงาน พร้อมจัดสวัสดิการที่ครอบคลุม เช่น ทุนการศึกษาสำหรับบุตรพนักงาน และกิจกรรมสันทนาการที่สร้างความผูกพันในองค์กร การลงทุนเหล่านี้สะท้อนกลับมาผ่านคุณภาพการบริการที่ลูกค้าสัมผัสได้
นอกจากนี้ ความโดดเด่นของสถานีพีทีที สเตชั่น สาขาแม่ริม คือ การเป็น “จุดแวะพักยอดนิยม” สำหรับนักเดินทาง ด้วยร้านค้าและร้านอาหารหลากหลายกว่า 22 แห่งที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ นอกจากร้านแบรนด์ดังที่ดึงดูดนักเดินทาง และอีกหนึ่งความพิเศษของ พีทีที สเตชั่น สุขุมเซอร์วิส สาขาแม่ริม คือการสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชนผ่านโครงการ ไทยเด็ด (Thaidet) และพื้นที่ปันสุข ซึ่งเป็นจุดจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นที่มีคุณภาพ เช่น ผลไม้สด ขนมพื้นเมือง และสินค้าหัตถกรรมจากชาวบ้าน ที่ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับคนในพื้นที่พร้อมสร้างเอกลักษณ์ให้กับสถานีบริการที่มากกว่าการเติมพลังงานให้รถยนต์
หลักการไคเซ็นที่ถูกนำมาใช้ในสุขุมเซอร์วิสไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานในระดับบุคคลเท่านั้น แต่ยังเป็นแนวคิดที่ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างองค์กรและชุมชน พนักงานได้รับการส่งเสริมให้มีส่วนร่วมในการดูแลและพัฒนาพื้นที่ปันสุข ตั้งแต่การคิดค้นวิธีจัดการพื้นที่จำหน่ายสินค้าไปจนถึงการปรับปรุงระบบสื่อสารกับผู้ผลิตในท้องถิ่นเพื่อให้สินค้าตรงกับความต้องการของลูกค้า การทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดนี้ไม่เพียงช่วยให้สินค้าได้รับการพัฒนา แต่ยังสร้างความไว้วางใจและความผูกพันระหว่างองค์กรและชุมชน
การพัฒนาคนคือหัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อนความสำเร็จของ พีทีที สเตชั่น สุขุมเซอร์วิส สถานีบริการน้ำมันที่ก้าวข้ามกรอบธุรกิจทั่วไป ด้วยความมุ่งมั่นที่ไม่เพียงแค่สร้างมาตรฐานด้านบริการ แต่ยังลงทุนในการเสริมสร้างศักยภาพของพนักงาน พร้อมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนโดยรอบ สอดคล้องกับพันธกิจของ “OR ” ในการสร้างเครือข่ายดีลเลอร์ที่มีความตั้งใจพัฒนาทุกมิติ ทำให้สุขุมเซอร์วิสกลายเป็นตัวอย่างที่เด่นชัดของการเชื่อมโยงธุรกิจ การพัฒนาคน และการดูแลสังคมอย่างยั่งยืน