เบ่งงบ-กู้เพิ่ม-รายได้ไม่เพิ่ม ศิริกัญญา ชำแหละ "เงินดิจิทัลวอลเล็ต"

วันที่ 17 กรกฎาคม 2567 ที่รัฐสภา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 พ.ศ. .... วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการ “เงินดิจิทัลวอลเล็ต” 10,000 บาท ว่า ที่วันนี้เราต้องมาพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฉบับนี้ เป็นฉบับที่สามของปีนี้ มาจากที่มาที่เดียว คือ โครงการเรือธงของรัฐบาล เพื่อที่จะทำโครงการ เงินดิจิทัลวอลเล็ต วงเงินและแหล่งที่มามีการเปลี่ยนแปลงตลอด ไม่แน่ใจว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งหรือไม่

น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า ประเด็นสำคัญปีนี้จะมีการกู้เพิ่มอีก 1.12 แสนล้านบาท เท่ากับว่างบประมาณปี 67 จะมีการกู้เพื่อชดเชยขาดดุลทั้งสิ้น 805,000 ล้านบาท สูงเป็นประวัติการณ์อยู่ดี เป็นรองแค่ปี 68 ทำให้สัดส่วนของการกู้ชดเชยขาดดุลสูงถึง 4.34 % 

“ปกติต้องกดลงมาให้เหลือ 3 % แต่รัฐบาลน่าจะติดใจกับการเบ่งงบออกไปเรื่อย ๆ แล้วก็กู้ชดเชยขาดดุลเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จะเป็นปัญหาการเพิ่มหนี้สาธารณะ เพิ่มภาระในการชำระดอกเบี้ยชำระหนี้ตามมา ปัญหามากกว่านั้น คือ ปัญหาเฉพาะหน้าที่จะเกิดขึ้นจากการกู้เต็มเพดาน รัฐบาลนึกอะไรไม่ออกก็ใช้วิธีการเบ่งงบ กู้เพิ่ม เบ่งร่ายจ่ายให้สูงไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีรายได้เพิ่ม แล้วถ้าไม่มาเท่ากับว่าเราจะไม่เหลือพื้นที่ให้กู้ได้อีกเลย”น.ส.ศิริกัญญากล่าว 

น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า ปัญหาคือ เมื่อหาเงินไม่ทัน ต้องไปดูฝั่งรายได้ด้วย ว่า รัฐบาลจะสามารถมีงบประมาณเหลือเพียงพอที่จะรองรับความเสี่ยง เวลาที่จะจัดเก็บรายได้ไม่เข้าเป้าได้หรือไม่ 

“ไม่ว่าจะเก็บรายได้เท่าไหร่จะสามารถกู้ได้ 815,056 ล้านบาท ถ้าเก็บรายได้ไม่ได้ตามที่คาดไว้ สมมุติหลุดเป้าไป 50,000 ล้านบาท เราก็จะกู้โป๊ะได้เพียง 10,000 ล้านบาทเท่านั้น ทำให้งบประมาณปี 67 ที่สภาอนุมัติไป 3.48 ล้านล้านบาท สุดท้ายอาจจะใช้ได้ไม่ครบ เพราะรายได้ไม่เข้าเป้า แล้วเราก็กู้โป๊ะได้ไม่เพียงพอ ดังนั้น ปัญหาจะมีก็ต่อเมื่อเราจัดเก็บรายได้ไม่เพียงพอ ซึ่งดูท่าทีแล้วไม่มีทางที่รัฐบาลจะสามารถจัดเก็บภาษีได้ตามเป้า”น.ส.ศิริกัญญากล่าว 

น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ที่ยังไม่รู้ว่าจะมีรายได้เพียงพอที่จะใช้สำหรับปีงบ 67 หรือไม่ รัฐบาลจะยังมาขอกู้สภาแบบเต็มเพดาน จะไม่เหลือพื้นที่ไว้ให้บริหารความเสี่ยงอะไรเลยใช่หรือไม่