ส.อ.ท. เผย ไทยโดนมาเลเซียแซงขึ้นที่ 2 ยอดการผลิตรถยนต์ใช้ในประเทศ

26 พ.ค. 2567 | 04:15 น.

ส.อ.ท. เผย ไทยเสี่ยงโดนมาเลเซียแซงขึ้นที่ 2 ของอาเซียน ยอดผลิตรถยนต์เพื่อขายภายในประเทศ หลังกำลังซื้อคนไทยตกฮวบ จากการคุมเข้มสินเชื่อ หนี้ครัวเรือนพุ่ง เศรษฐกิจโตต่ำ ขณะที่ยอดการส่งออกภาพรวมทรงตัวจากปีก่อน

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธาน และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวกับ ‘ฐานเศรษฐกิจ’ ว่า หลังจากปริมาณการผลิตรถยนต์ในเดือนเม.ย. 67 มีทั้งสิ้น 104,667 คัน ลดลงช่วงเดียวกันของปีก่อน 11.02% เป็นผลมาจากการผลิตรถยนต์นั่งและรถกระบะเพื่อขายในประเทศที่ลดลง 5.03% และ 45.94% ตามลำดับ ในขณะที่ภาพรวม 4 เดือนแรกจองปี ไทย ผลิตรถยนต์ได้ทั้งสิ้น 518,790 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 17.05%

โดยจากข้อมูลตัวเลขทั้งหมดจะพบว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยกำลังมีปัญหา สะท้อนมาจาก ภาวะหนี้ครัวเรือนที่สูงและเศรษฐกิจเติบโตในอัตราต่ำ ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมติดลมมาหลายเดือน กำลังซื้อยังเปราะบาง ไปจนถึงการที่งบประมาณปี 67 ล่าช้า ทำให้เม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจหายไปไม่น้อย ต้องพึ่งเพียงแค่ภาคการท่องเที่ยวเท่านั้น

ทั้งนี้ ยอดจำหน่ายรถยนต์นั่ง และ รถกระบะที่หายไป เป็นผลมาจากการปล่อยสินเชื่อแบบ Responsible Lending เนื่องจากปีที่ผ่านมา หนี้ที่ไท่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL ในกลุ่มรถยนต์มีสัดส่วนค่อนข้างสูง ทำให้สถาบันการเงินเข้มงวดปล่อยสินเชื่อ กระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งระบบ

ส่วนการผลิตรถยนต์อีวีในประเทศ ตามมาตรการ EV 3.0 และ 3.5  แต่ก็ผลิตในประเทศได้ไม่ได้มากเท่าที่ควร โดยปัจจุบันไทยผลิตรถยนต์ EV ได้ราว 600-700 คันต่อเดือนเท่านั้น ส่วนผู้ประกอบการรายใหญ่ ปัจจุบันส่วนมากยังต้องใช้เวลาในการตั้งโรงงาน

สำหรับยอดจำหน่าย รถยนต์นั่งภายในประเทศ ปกตอแล้วไทยจะอยู่ที่ราว 8 แสน - 1 ล้านคันต่อปี ถือเป็นอันดับที่ 2 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ในปีนี้เชื่อว่ามีโอกาสสูงที่ยอดขายรถยนต์ในประเทศไทยจะร่วงในอันดับที่ 3 และมาเลเซียขึ้นมาเป็นอันดัลที่ 2 แทน

“คาดว่าปีนี้ มาเลเซีย น่าจะผลิตรถยนต์เพื่อขายในประเทศได้ราว 8 แสนคัน ส่วนไทยน่าจะขายในประเทศได้ราว 7 แสนคัน ส่วนอันดับที่ 1 คือ อินโดนีเซีย ผลิตและขายในประเทศได้ 1-1.2 ล้านคัน”

อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่า ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ สถานการณ์น่าจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง โดยเฉพาะยอดการผลิตรถยนต์อีวีน่าจะเริ่มผลิตได้เร็วขึ้น ตลาดโดยรวมจะฟื้นตัวมากขึ้น จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ประกอบการ งบประมาณปี 67 มีผลบังคับใช้ ก็จะได้เครื่องยนต์หลักของเศรษฐกิจไทยกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง

ทั้งนี้ หากนับเฉพาะยอดการผลิตรถยนต์เพื่อส่งออกปีที่แล้ว สามารถทำได้ดีจนชดเชยยอดการผลิตเพื่อใช้ในประเทศ โดยปี 2566 เป้าผลิตเพื่อส่งออก 1.05 ล้านคัน แต่สามารถส่งออกไปได้มากกว่า 1.13 ล้านคัน ในขณะที่ปี 2562 ก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 ไทยมียอดผลิตรถยนต์เพื่อส่งออก 1.054 คัน แสดงให้เห็นว่า ตลาดภายนอกประเทศยังไม่มีปัญหา คาดว่าปีนี้ (67) ไทยก็จะส่งออกรถได้มากกว่า 1.15 ล้านคัน ดังนั้น สิ่งที่ต้องจับตาคือ กำลังซื้อภายในประเทศ