แพทองธาร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย คิ๊กออฟ 30 บาทรักษาทุกที่เฟสสอง 8 จังหวัด

30 มี.ค. 2567 | 13:09 น.

แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย คิกออฟ 30 บาทรักษาทุกที่ เฟสสอง 8 จังหวัด ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว เดินหน้าเฟสสามพฤษภาคม ครอบคลุมทั่วประเทศปีนี้

วันนี้ (30 มีนาคม 2567) ที่ชาติชายฮอลล์ และลิปตพัลลภ ฮอลล์ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 จังหวัดนครราชสีมา นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ พร้อมด้วย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมเปิดงานนโยบาย ยกระดับ 30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ระยะที่ 2 

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ในฐานะรองประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ พร้อมกับการจัดกิจกรรมคิกออฟโครงการ 30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ระยะที่ 2 ในจังหวัดอื่นๆ พร้อมกันทั่วประเทศด้วย ซึ่งการเดินหน้ายกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ระยะที่ 2 นี้ มีขึ้นใน 8 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ สิงห์บุรี สระแก้ว หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ และพังงา ส่วนในระยะที่ 3 จะเดินหน้าในเดือนพฤษภาคมนี้ และจะครอบคลุมทั่วทั้งประเทศภายในปีนี้ 

นางสาวแพทองธารกล่าวว่า นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 โครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค หรือ โครงการบัตรทอง ได้ถูกพัฒนาสานต่อมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่รัฐบาลไทยรักไทยจนถึงรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยปัจจุบัน ตลอด 23 ปีที่ผ่านมา ได้เกิดการปฏิรูประบบสาธารณสุขให้ประชาชน มีหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ครอบคลุม ช่วยลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชนอย่างต่อเนื่อง

"วันนี้ ถือเป็นการพลิกโฉมระบบสาธารณสุขไทยอีกครั้ง ด้วยนโยบาย 30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัยเข้ามาพัฒนาระบบ ปรับกระบวนการดูแลสุขภาพให้สะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ รองรับการให้บริการสุขภาพรูปแบบใหม่ด้วยระบบดิจิทัล เชื่อมโยงข้อมูลด้วยบัตรประชาชนเพียงใบเดียว"นางสาวแพทองธารกล่าว

แพทองธาร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย คิ๊กออฟ 30 บาทรักษาทุกที่เฟสสอง 8 จังหวัด นางสาวแพทองธารกล่าวว่า โดยนับตั้งแต่เริ่มให้บริการสุขภาพผ่านระบบดิจิทัล มีประชาชนเข้ารับบริการในรูปแบบออนไลน์ในทุกระบบ แล้วกว่า 37,000 ครั้ง และในช่วงเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีการออกใบรับรองแพทย์ดิจิทัลไปแล้วมากกว่า 70,000 ใบ ทั่วประเทศ ซึ่งประชาชนกว่าร้อยละ 90 พึงพอใจต่อการบริการ ในภาพรวมเป็นอย่างมาก