ก.พ.ร. ไฟเขียวงัด KPI คุมหน่วยงานรัฐ ตีกรอบทำงานตรงเป้า

02 มี.ค. 2567 | 00:02 น.

คณะกรรมการ ก.พ.ร. ไฟเขียวจัดทำตัวชี้วัด หรือ Joint KPI คุมหน่วยงานภาครัฐ ตีกรอบ 6 ด้าน เร่งทำภายในปี 2568 ทุกแห่งต้องร่วมมือกันทำงาน หวังให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนด

นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ก.พ.ร. ได้มีการพิจารณากลไกตัวชี้วัดขับเคลื่อนการบูรณาการร่วมกัน (Joint KPIs) ที่หน่วยงานภาครัฐต้องร่วมมือกันแบบบูรณาการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนด

โดยในปี 2568 ได้กำหนด Joint KPIs ไว้รวม 6 ประเด็น ครอบคลุมทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ดังนี้

  1. การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 
  2. การบริหารจัดการและอนุรักษ์ฟื้นฟูน้ำทั้งระบบ 
  3. รายได้จากการท่องเที่ยว 
  4. รายได้ของผู้ประกอบการ SMEs และ OTOP
  5. การลดปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 และ PM10
  6. การพัฒนาสมรรถนะทางการศึกษาของประเทศไทยให้แข่งขันได้ในระดับเวทีโลก

ทั้งนี้จะทำให้เกิดผลที่ดีต่อประชาชน เช่น การขับเคลื่อนเรื่องรายได้จากการท่องเที่ยว ในปี 2566 สามารถสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นถึง 1.7 ล้านล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2565 โดยในปี 2568 มีเป้าหมายจะสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.8 ล้านล้านบาท

นายปานปรีย์ กล่าวว่า การสร้างความร่วมมือกับภาคส่วนอื่น จะเร่งเดินหน้าสร้าง "สระบุรี ต้นแบบเมืองคาร์บอนต่ำ" ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อทดลองขับเคลื่อนจังหวัดสระบุรีให้เป็นจังหวัดต้นแบบในการลดการปล่อยก๊าคาร์บอน ซึ่งไม่เพียงจะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังเป็นการเสริมสร้างระบบนิเวศภาครัฐแบบเปิดที่ให้ประชาชน ภาคเอกชน และภาคส่วนอื่น เข้ามามีส่วนร่วมและเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาสำคัญที่ประเทศกำลังเผชิญ

พร้อมกันนี้ที่ประชุมยังได้ให้ความสำคัญกับการใช้กลไกการพัฒนาระบบราชการสนับสนุนการขับเคลื่อนเป้าหมาย IGNITE Thailand เช่น การขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัล การปลดล็อกกฎหมายที่เป็นอุปสรรค การเปิดให้ภาคส่วนอื่นเข้ามามีส่วนร่วมพัฒนาประเทศทั้งในรูปแบบเครือข่ายการดำเนินการร่วมกันและการรับถ่ายโอนงานจากภาครัฐ โดยมอบหมายให้คณะอนุกรรมการ ก.พ.ร. เสนอ ก.พ.ร. ออกแนวทางสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐ ขับเคลื่อนเป้าหมาย IGNITE Thailand ของนายกรัฐมนตรี

นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบการปรับบทบาทภาครัฐโดยการถ่ายโอนภารกิจบางอย่างให้ภาคส่วนอื่นที่มีความเชี่ยวชาญดำเนินการแทน ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนได้รับบริการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย โดย ก.พ.ร. ได้พิจารณาขับเคลื่อนการถ่ายโอนภารกิจในหลายประเด็น โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวที่เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

โดยมีแผนจะให้ภาคเอกชนเป็นกลไกรับรองมาตรฐานด้านการท่องเที่ยว เช่น มาตรฐานบริการอาหาร มาตรฐานบริการในสถานประกอบการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ มาตรฐานการให้บริการในสถานที่จำหน่ายของที่ระลึก

"การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนจะเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้การแก้ไขปัญหา ประสบความสำเร็จและเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืนในอนาคต" รองนายกฯ ระบุ