ครม.ยกเลิก "อีสท์ วอเตอร์" ผูกขาด เปิดทาง "วงษ์สยาม" บริหารท่อน้ำภาคตะวันออก

20 ธ.ค. 2566 | 12:20 น.

เปิดเอกสาร ครม. ชี้ชัด ยกเลิกมติบริหารจัดการน้ำภาคตะวันออกปี 35 จากเดิมมีคำสั่งให้ "อีสท์ วอเตอร์" บริหารเพียงรายเดียว เปิดทางให้ "วงษ์สยาม" เข้ามาทำสัญญากับ "กรมธนารักษ์" ได้โดยไม่ขัดมติ ครม.

20 ธันวาคม 2566 แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ในการที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เป็นประธานเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้เห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 4 ก.พ.2535 เรื่องแนวทางการจัดระบบบริหารการพัฒนาแหล่งน้ำ

กระทรวงเกษตรฯ เสนอ ครม.ว่า มติ ครม.เดิมเมื่อวันที่ 4 ก.พ.2535 นั้นได้กำหนดว่า ระบบท่อส่งน้ำในพื้นที่เขตพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งภาคตะวันออก ควรจะมีผู้รับผิดชอบรายเดียวในการพัฒนาระบบให้เป็นท่อส่งน้ำสายหลัก (Trunk Transmission Main) และ การดำเนินการบริหาร/จัดการ (Operate)

เพื่อให้ทำหน้าที่เป็นผู้ค้าส่ง (Wholeseller) ในการซื้อน้ำจากอ่างเก็บน้ำของกรมชลประทาน และขายน้ำดิบให้กับระบบจำหน่ายต่าง ๆ โดยขอให้มีผู้รับผิดชอบเพิ่มเติมซึ่งเป็นเอกชนที่ได้รับการคัดเลือกจากกรมธนารักษ์เพื่อบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก

ครม.ยกเลิก \"อีสท์ วอเตอร์\" ผูกขาด เปิดทาง \"วงษ์สยาม\" บริหารท่อน้ำภาคตะวันออก

จากมติ ครม.ในครั้งนี้ทำให้การบริหารจัดการท่อส่งน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกที่แต่เดิมอยู่ในความดูแลของบริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ "อีสท์วอเตอร์" ซึ่งจะหมดอายุสัญญาในวันที่ 31 ธ.ค.2566 มาอยู่ในการบริหารของบริษัทที่ชนะการประมูล คือ บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด โดยปริมาณน้ำที่บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด จะได้รับการจัดสรรตามเงื่อนไขสัญญาขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำต้นทุนจากอ่างเก็บน้ำในแต่ละปีและเงื่อนไขที่กรมชลประทานกำหนดเพื่อประโยชน์ สูงสุดของทางราชการ

ครม.ยกเลิก \"อีสท์ วอเตอร์\" ผูกขาด เปิดทาง \"วงษ์สยาม\" บริหารท่อน้ำภาคตะวันออก

อย่างไรก็ดี กรณีที่ต้องมีการสูบผันน้ำจากแหล่งน้ำดิบอื่นมาเพิ่มเติมเพื่อส่งให้กับภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด จะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากกรณีดังกล่าว ทั้งนี้ บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด จะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย

แหล่งข่าวยังระบุด้วยว่า กระทรวงเกษตรฯ ได้เสนอต่อ ครม.ถึงความจำเป็นเร่งด่วนของเรื่องนี้ว่า เนื่องจาก สัญญาเช่า/บริหารทรัพย์สินเพื่อดำเนินการพัฒนาและบริหารระบบท่อส่งน้ำดิบสายหลักในพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกระหว่างกรมธนารักษ์ กับ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำ ภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) จะครบกำหนดสัญญาในวันที่ 31 ธันวาคม 2566 และ กรมธนารักษ์ได้ลงนามในสัญญาโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก กับบริษัท วงษ์สยาม ก่อสร้าง จำกัด แล้ว