31 ม.ค.67 ศาลฯนัดไต่สวน วงษ์สยาม ฟ้อง ปธ.กปน.กับพวก ปมรง.ผลิตน้ำมหาสวัสดิ์

28 พ.ย. 2566 | 08:32 น.

ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดไต่สวนมูลฟ้อง 31 ม.ค. เวลา 09.30 น. คดีบริษัทวงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ฟ้องนายนิสิต จันทร์สมวงศ์ กับพวกรวม 30 คน คดีประมูลโรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์

จากกรณีที่บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ได้ยื่นฟ้องนายนิสิต จันทร์สมวงศ์ กับพวกรวม 30 คน ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง กรณีคณะกรรมการพิจารณาการประกวดราคา ได้ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม ในการเข้าทำสัญญากับการประปานครหลวง (กปน.)

โดยการให้ผู้ที่เสนอราคาสูงกว่า เป็นผู้ชนะการประกวดราคาก่อสร้างขยายกำลังการผลิตน้ำที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ขนาด 800,000 ลูกบาศก์ เมตรต่อวัน พร้อมงานที่เกี่ยวข้องสัญญา GE-MS5/6-9 ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding)

ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (28 พ.ย.2566)ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง รับคดีบริษัทวงษ์สยามฯ ประธานกรรมการการประปานครหลวง (กปน.) ไว้ไต่สวนมูลฟ้อง 31 ม.ค.2567 เวลา 09.30 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เมื่อเวลา ๐๙.๓๐ น.ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิจารณาคดีหมายเลขดำที่ อท ๑๓๒ /๒๕๖๖ ระหว่าว บริษัทวงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด โจทก์ และนายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ที่ ๑ กับพวกรวม ๓๐ คน นัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษา โดยนายอนุฤทธิ์ เกิดสินธ์ชัย กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนโจทก์ ผู้รับมอบอำนาจโจทก์ และทนายโจทก์ มาศาล

นายนิสิต จันทร์สมวงศ์

ตรวจคำฟ้องแล้ว เห็นว่า เป็นคดีที่อยู่ในอำนาจของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ฟ้องเป็นไปตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ. ๒๕๕๙ มาตรา ๑๕ เห็นควรรับคดีไว้ไต่สวนมูลฟ้อง สำเนาฟ้องให้จำเลยทั้งสามสิบพร้อมแนบหนังสือแจ้งสิทธิ จำเลยตามกฎหมายในการต่อสู้คดีในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง

นัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๖๗ เวลา ๐๙.๓๐ ถึง ๑๖.๓๐ นาฬิกาให้โจทก์นำส่งหมายนัดไต่สวนมูลฟ้องพร้อมแนบสำเนาคำฟ้องและเอกสารแจ้งสิทธิ

จำเลยตามกฎหมายในการต่อสู้คดีในขั้นไต่สวนมูลฟ้องให้จำเลยทั้งสามสิบทราบภายใน ๕ วัน

นับแต่วันนี้ ถ้าส่งไม่ได้ให้โจทก์แถลงต่อศาลภายใน ๗ วัน นับแต่วันส่งไม่ได้

รายงานกระบวนการพิจารณา 
การไต่สวนมูลฟ้อง เป็นกระบวนการไต่สวนของศาลเพื่อวินิจฉัยถึงมูลคดีซึ่งจำเลยทั้งสามสิบต้องหา ตามบทบัญญัติ ป.วิ.อาญา มาตรา ๒ (๑๒) ประกอบกับชั้นตรวจฟ้องคดีนี้

ศาลได้ข้อเท็จจริงในรายละเอียดตามฟ้องและตามเอกสารที่โจทก์ส่งต่อศาลประกอบการสั่งฟ้องด้วย

อีกทั้ง ในการไต่สวนมูลฟ้อง ตามมาตรา ๑๗ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ. ๒๕๕๙ ให้สิทธิแก่จำเลยทั้งสามสิบที่จะแถลงให้ศาลทราบถึงข้อเท็จจริงหรือ
ข้อกฎหมายอันสำคัญที่ศาลควรสั่งว่าคดีไม่มีมูลได้อยู่แล้ว เห็นควรไต่สวนมูลฟ้องคดีนี้

โดยโจทก์จะนำ นายอนุฤทธิ์ เกิดสินธ์ชัย กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนโจทก์ นายภาคภูมิ ศรีชำนิกรรมการผู้จัดการของบริษัท ชิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เคยให้การกับ
กรรมาธิการ ป.ป.ช. ว่าพบความผิดปกติของการประกวดราคาไปจนการลงนามในสัญญา นายสมศักดิ์ ภู่สกุล รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง

ในข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการที่คณะกรรมการพิจารณาผลไม่ส่งอุทธรณ์ของโจทก์ให้คณะกรรมการอุทธรณ์พิจารณา นายณรงค์ จิตราภรณ์ ผู้สังเกตการณ์ขององค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นพบความผิดปกติของการประกวดราคาไปจนการลงนามในสัญญา ในประเด็นและพยานหลักฐานตามที่ศาลเห็นสมควรเท่านั้น โดยให้ฝ่ายโจทก์นำพยานเข้าเบิกความตามกำหนดวันนัดไต่สวนมูลฟ้องให้โจทก์ดำเนินดังต่อไปนี้ภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันนี้ (ครบกำหนดวันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๖๖) 

๑.ยื่นบัญชีระบุพยานชั้นไต่สวนมูลฟ้องพร้อมคำแถลงเหตุผลความจำเป็นในการอ้างพยานและวิธีการได้มาซึ่งพยาน

๒. ให้ส่งพยานเอกสารและพยานวัตถุที่ประสงค์อ้างอิงในชั้นไต่สวนมูลฟ้องต่อศาลเพื่อรวบรวมใช้เป็นแนวทางในการไต่สวนมูลฟ้องและการพิจารณาคดี โดยให้จัดทำเป็นแฟ้มเอกสารพร้อมจัดทำสารบัญเอกสาร

๓. เสนอแนวทางการไต่สวนพยานบุคคลที่จะนำเข้าไต่สวนมูลฟ้องว่าเบิกความเกี่ยวกับเรื่องใดโดยย่อ มีเอกสารใดที่พยานเกี่ยวข้องและจะใช้ประกอบการไต่สวนอย่างใด

๔. ในกรณีที่พยานเอกสารหรือพยานวัตถุใดอยู่ในความครอบครองของบุคคลภายนอก ให้โจทก์ขอให้ศาลมีคำสั่งเรียกพยานหลักฐานดังกล่าวมาจากผู้ที่ครอบครอง

31 ม.ค.67 ศาลฯนัดไต่สวน วงษ์สยาม ฟ้อง ปธ.กปน.กับพวก ปมรง.ผลิตน้ำมหาสวัสดิ์

ส่วนจำเลยทั้งสามสิบหากประสงค์จะแถลงให้ศาลทราบถึงข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายอันสำคัญที่ศาลควรสั่งว่าคดีไม่มีมูล ตลอดจนบุคคล เอกสารหรือวัตถุที่จะสนับสนุนข้อเท็จจริงตามคำแถลง ให้ยื่นเป็นคำแถลงต่อศาลภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันทราบหรือถือว่าได้ทราบ
คำสั่งศาล

เพื่อให้การไต่สวนมูลฟ้องสามารถดำเนินไปได้โดยสะดวก รวดเร็ว ถูกต้อง และได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วน จึงมอบหมายให้เจ้าพนักงานคดี

๑. ช่วยควบคุม แนะนำคู่ความในการดำเนินกระบวนพิจารณาให้เป็นไปตามกฎหมาย หากมีข้อบกพร่องหรือข้อขัดข้องของคู่ความในการดำเนินกระบวนพิจารณาให้รายงานต่อศาลพร้อมแนวทางแก้ไข

๒. ให้เจ้าพนักงานคดีตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐาน แล้วจัดทำสรุปข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่สำคัญในคดีเพื่อให้ศาลใช้เป็นแนวทางในการไต่สวนมูลฟ้อง

๓. ให้โจทก์หรือทนายความ และจำเลยทั้งสามสิบในกรณีประสงค์ที่จะใช้สิทธิตามกฎหมายในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง มาศาลหรือติดต่อประสานงานกับเจ้าพนักงานคดี

๔.เพื่อร่วมกับเจ้าพนักงานคดีดำเนินการดำเนินการตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานก่อนหรือในวันนัด หากฝ่ายใดไม่ดำเนินการถือว่ามีความพร้อมในการไต่สวนมูลฟ้อง ศาลจะพิจารณาพยานหลักฐานตามที่ปรากฎในสำนวนและรายงานของเจ้าพนักงานคดีแล้วดำเนินกระบวนพิจารณาในวันนัดไต่สวนมูลฟ้องไปตามที่เห็นควร

ให้โจทก์จัดทำบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงของพยานยื่นต่อศาลภายใน ๓๐ วันนับแต่วันนี้ (ครบกำหนดวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๖๖) ตามข้อบังคับประธานศาลฎีกาข้อ ๑๘/ ๑ โดยส่งสำเนาให้อีกฝ่ายหนึ่งมารับไปตรวจสอบก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่า ๗ วัน โดยคำเบิกความ
ให้จัดทำเป็นการตั้งคำถามและตอบคำถามเป็นข้อ ๆ ไป

มีหนังสือสอบถามพร้อมส่งสำเนาคำฟ้องให้คณะกรรมการ ป.ปหนังสือสอบถามพร้อมส่งสำเนาคำฟ้องให้คณะกรรมการ ป.ป.ท. และคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อตรวจสอบว่ามีการกล่าวหาจำเลยทั้งสามสิบในเรื่องเดียวกันกับที่โจทก์ยื่นฟ้องหรือไม่ แล้วแจ้งให้ศาลทราบเพื่อประกอบการพิจารณาต่อไป โดยให้แนบรายงานกระบวนพิจารณานี้ ไปด้วยและแจ้งให้ศาลทราบภายใน ๓๐ วัน

เพื่อให้การไต่สวนมูลฟ้องเป็นไปโดยรวดเร็ว และได้ข้อเท็จจริงถูกต้องครบถ้วน

จึงให้คู่ความเสนอประเด็นคำถามที่ประสงค์จะให้ศาลถามพยานที่จะทำการไต่สวนมูลฟ้อง โดยให้ส่งต่อศาลก่อนวันนัดไต่สวนมูลฟ้องไม่น้อยกว่า ๓๐ วัน