"บัวขาว" พบเศรษฐา ดัน Soft Power มวยไทย หนุนครูมวยโกอินเตอร์ไปเมืองนอก

08 ธ.ค. 2566 | 11:03 น.

"บัวขาว บัญชาเมฆ" ร่วมคณะเข้าพบ "นายกฯเศรษฐา ทวีสิน" ที่ทำเนียบรัฐบาล ร่วมผลักดัน “มวยไทย” ให้เป็น Soft Power นายกฯระบุ พร้อมสนับสนุนส่งเสริมครูมวยไทย โกอินเตอร์ไปสอนในต่างประเทศ

วันนี้  (8 ธันวาคม 2566) ร้อยโทสมบัติ บัญชาเมฆ (บัวขาว) ผู้จัดการทีมคิ๊กบ็อกซิ่งทีมชาติไทย ได้มอบกางเกงนักมวยสีแดง ให้กับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อใส่ออกกำลังกาย ในระหว่างการร่วมคณะเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อสนับสนุนมวยไทยให้เป็นซอฟท์พาวเวอร์ของประเทศไทย

\"บัวขาว\" พบเศรษฐา ดัน Soft Power มวยไทย หนุนครูมวยโกอินเตอร์ไปเมืองนอก

โดยในการเข้าพบนายกฯวันนี้นำโดย นายพิมล ศรีวิกรม์ กรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ด้านกีฬา ได้นำบัวขาว และผู้แทนประธานเจ้าหน้าที่บริหาร One Championship และพร้อมคณะเข้าพบ เพื่อเป็นกำลังใจและขอบคุณนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลที่มีนโยบายสนับสนุนด้านกีฬาอย่างจริงจัง 

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีระบุ กีฬามวยไทยเป็นหนึ่งที่คณะกรรมการของ Soft Power ผลักดันให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจ ซึ่งไม่มีใครปฏิเสธได้ว่ามวยไทยเป็น Soft Power อันดับต้น ๆ ของประเทศไทย ที่มีคำ “ไทย” อยู่ด้วย ยกเว้นแต่ถ้ากล่าวถึงอาหารคงเป็นผัดไทย แต่มวยไทยให้คุณค่ากับ Soft Power ของความเป็นไทยจำนวนมาก

เช่น  ค่ายมวยไทยในประเทศอังกฤษมีค่ายอยู่ประมาณ 5-6 พันค่ายมวย แสดงให้เห็นว่า มวยไทยเป็น Soft Power อันดับหนึ่งที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการถ่ายทอดสด ไลฟ์ Streaming หรือการขายของอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง อาทิ กางเกงมวยไทย นวมมวยไทย ซึ่งเป็นสินค้าที่ทำให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศไทยได้อย่างดี 

\"บัวขาว\" พบเศรษฐา ดัน Soft Power มวยไทย หนุนครูมวยโกอินเตอร์ไปเมืองนอก

ต้องขอขอบคุณคุณพิมล ที่ช่วยผลักดันทางด้านการกีฬามวยไทยสู่ระดับโลก โดยเฉพาะบัวขาว ถึงอายุ 41 ปี ได้สร้างความหวังและแรงบันดาลใจให้แก่คนรุ่นใหม่ที่ต้องการเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมมวยไทย  เป็นที่ทราบกันดีว่า รายการ “One Championship” ในทุกวันศุกร์จะมีการถ่ายทอดสดไลฟ์ Streaming มีคนดูร้อยกว่าล้านคน สื่อให้เห็นถึงศักยภาพของกีฬามวยไทยสามารถก้าวไปได้อีกไกล 

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความมั่นคงในอาชีพของคนไทย และนักมวยไทยนั้น รัฐบาลต้องการที่จะผลักดันในอาชีพนักมวย ไม่เพียงแต่นักมวยอาชีพเพียงเท่านั้น  แต่ต้องการผลักดันให้กิจกรรมมวยไทย ไม่ใช่เป็นเพียงแค่กีฬา แต่สามารถที่จะเข้าไปอยู่ในหลักสูตรพละศึกษา สามารถที่ตั้งค่ายมวยในต่างประเทศได้ และเป็นแนวทางในการขยายอาชีพได้ 

นายกรัฐมนตรีพร้อมผลักดันแนวทางมวยไทยในเรื่องแนวของการตรวจคนเข้าเมือง โดยทางกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีนักมวยไทยหลายคนอยากจะไปสอน และจัดตั้งค่ายมวยที่เมืองนอก โดยต้องใช้วีซ่านักท่องเที่ยว ถือเป็นการผิดกฎระเบียบการเข้าเมืองอยู่ ทางกระทรวงต่างประเทศและ ตม. ได้ช่วยเพิ่มการอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวที่อยากมาศึกษากีฬามวยไทยมากยิ่งขึ้น 


“กีฬามวยไทยเป็นกีฬาที่นำรายได้ให้กับประเทศโดยสามารถเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวได้ เช่น เกาะสมุย จ.สุราษฏร์ธานี หรือ จังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีนักท่องเที่ยวมาศึกษามวยไทย และสร้างรายได้ให้ประเทศมากมาย ขอฝากให้สมาคมระมัดระวังมิจฉาชีพ หลอกลวงนักท่องเที่ยว ซึ่งจะส่งผลเสียและภาพลักษณ์ของประเทศไทย“ นายกรัฐมนตรีย้ำ