"สมอ."จ่อควบคุมคาร์ซีท ISOFIX ต้องได้"มอก."เพิ่มปี 67

02 ธ.ค. 2566 | 01:39 น.

"สมอ."จ่อควบคุมคาร์ซีท ISOFIX ต้องได้"มอก."เพิ่มปี 67 หลังก่อนหน้านี้กระทรวงอุตสาหกรรมได้มีการควบคุมคาร์ซีทที่ติดตั้งด้วยระบบเข็มขัดนิรภัยใช้กับรถยนต์รุ่นเก่าได้ก่อน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชน

นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เตรียมดำเนินการประกาศบังคับใช้มาตรฐานควบคุมคาร์ซีทที่ติดตั้งระบบ ISOFIX เพิ่ม

ทั้งนี้ เนื่องจากมองว่ารถยนต์รุ่นใหม่ที่ใช้งานในปัจจุบัน จะมีตัวใช้ยึดกับคาร์ซีทที่เรียกว่า ISOFIX กันมากขึ้น จึงสั่งการให้ สมอ. เร่งรัดดำเนินการประกาศบังคับใช้มาตรฐานให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อควบคุมคาร์ซีททุกแบบทุกประเภทให้มีความปลอดภัยสำหรับเด็กเล็กในการโดยสารรถยนต์ 

อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้กระทรวงอุตสาหกรรมได้มีการควบคุมคาร์ซีทเป็นสินค้าควบคุม เมื่อปี 2565 เพื่อให้เด็กเล็กที่ใช้คาร์ซีทได้รับความปลอดภัยในการโดยสารรถยนต์ โดยควบคุมคาร์ซีทที่ติดตั้งด้วยระบบเข็มขัดนิรภัยก่อน เพราะคาร์ซีทประเภทนี้สามารถใช้กับรถยนต์รุ่นเก่าได้ จะได้ไม่สร้างภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชน 
 

นายวันชัย พนมชัย รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม รักษาราชการแทนเลขาธิการ สมอ. กล่าวว่า คาร์ซีทที่ สมอ. ประกาศเป็นสินค้าควบคุมมี 2 ประเภท ได้แก่

"สมอ."จ่อควบคุมคาร์ซีท ISOFIX ต้องได้"มอก."เพิ่มปี 67  

  • คาร์ซีทที่ติดตั้งด้วยระบบเข็มขัดนิรภัย
  • คาร์ซีทที่ติดตั้งด้วยระบบ ISOFIX ซึ่งจะบังคับใช้เร็ว ๆ นี้ 

สำหรับมาตรฐานคาร์ซีทแบบติดตั้งด้วยระบบเข็มขัดนิรภัย จะมีข้อกำหนดที่สำคัญ คือ แบ่งน้ำหนักของเด็กเป็น 5 กลุ่ม  ได้แก่ 

  • น้ำหนักไม่เกิน 10 กิโลกรัม  
  • น้ำหนักไม่เกิน 13 กิโลกรัม 
  • น้ำหนัก 9-18 กิโลกรัม 
  • น้ำหนัก 15-25 กิโลกรัม 
  • น้ำหนัก 22-36 กิโลกรัม  

โดยคาร์ซีทที่ได้มาตรฐานจะต้องผ่านการทดสอบด้านความปลอดภัยด้วยการจำลองสถานการณ์การเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งการชนด้านหน้าด้วยความเร็ว 50 กม./ชม.  การชนด้านหลังด้วยความเร็ว 30 กม./ชม. โดยติดเซ็นเซอร์ไว้ที่หุ่นเด็กจำลอง เพื่ออ่านค่าความรุนแรงจากการกระแทก 

และจะรายงานผลออกมาเป็นความเสียหายหรืออาการบาดเจ็บตามจุดต่างๆ ของร่างกาย ต้องไม่เกินเกณฑ์ที่มาตรฐานกำหนดไว้ สำหรับคาร์ซีทแบบติดตั้งด้วยระบบ ISOFIX จะแบ่งขนาดคาร์ซีทตามส่วนสูงของเด็ก และเพิ่มการทดสอบการชนด้านข้าง ที่ความเร็ว 24 กม./ชม. ด้วย 

ซึ่งทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าคาร์ซีทที่ผ่านการรับรองตามมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นแบบ ISOFIX หรือแบบเข็มขัดนิรภัย ก็จะช่วยคุ้มครองลูกหลานของท่านให้ได้รับความปลอดภัยในการเดินทาง โดย สมอ. จะเร่งดำเนินการบังคับใช้ให้ได้ภายในปลายปี 2567