"ภูมิธรรม"จี้ส.อ.ท.ปรับตัวรับกติกาการค้าโลก รุกแก้กฎหมาย 4 ฉบับหนุนธุรกิจ

30 พ.ย. 2566 | 15:31 น.

"ภูมิธรรม"จี้ส.อ.ท.ปรับตัวรับกติกาการค้าโลก รุกแก้กฎหมาย 4 ฉบับหนุนธุรกิจ ระบุผลจากโควิด-19 และสงครามใหม่ทำให้ภาคอุตสาหกรรมต้องมีแหล่งวัตถุดิบและแหล่งผลิตที่หลากหลาย ไม่ผูกติดรวมอยู่ที่เดียว

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยผ่ายการกล่าวปาฐกถาพิเศษภายใต้หัวข้อ 2024 สมรภูมิการค้า ที่ภาคธุรกิจต้องปรับตัว ในงาน FTI Executive Thank You Dinner จัดโดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ว่า ปี 67 กติกาการค้าของโลกเปลี่ยนไป จะมีหลายเรื่องถูกบังคับใช้ อาทิ 

มาตรการปรับคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน การสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เป็นธรรมยั่งยืน ถ้าอุตสาหกรรมไทยไม่ปรับตัวจะลำบาก 

นอกจากนี้ ผลจากโควิด-19 และสงครามใหม่ที่เกิดขึ้น เช่น รัสเซีย-ยูเครน และฮามาส-อิสราเอล ทำให้ภาคอุตสาหกรรมต้องมีแหล่งวัตถุดิบและแหล่งผลิตที่หลากหลาย ไม่ผูกติดรวมอยู่ที่เดียว 
 

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์พร้อมสนับสนุนธุรกิจ 3 ด้าน ประกอบด้วย

"ภูมิธรรม"จี้ส.อ.ท.ปรับตัวรับกติกาการค้าโลก รุกแก้กฎหมาย 4 ฉบับหนุนธุรกิจ  

  • พัฒนาผู้ประกอบการ ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ และปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางการค้าในยุคดิจิทัล นโยบาย ควิกวิน  99 วัน จะปรับปรุงกฎหมายเร่งด่วน พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อย่างน้อย 4 ฉบับ ได้แก่ พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ร.บ.จีไอ พ.ร.บ.สภาผู้ส่งทางเรือแห่งประเทศไทยและพ.ร.บ.นำเข้าส่งออก และกฎระเบียบราชการอีกหลายเรื่อง
  • ปรับปรุงการทำงานของภาครัฐให้เป็นรัฐบาลดิจิทัล 
  • ส่งเสริมการปรับตัวของผู้ประกอบการไทยตามกติกาการค้าใหม่ของโลก 

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานส.อ.ท. กล่าวว่า ส.อ.ท.มุ่งเน้นยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรม แบ่งอุตสาหกรรมออกเป็น 2 กลุ่ม คือ

  • เฟิร์ส อินดัสทรี อุตสาหกรรมเดิมประกอบด้วย 46 กลุ่มอุตสาหกรรม 11 คลัสเตอร์ กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีต้องเร่งปรับตัว 
  • เน็กซ์-เจน อุตสาหกรรมใหม่ ให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้วยบีซีจีโมเดล และรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ 

"ปี 2567 ส.อ.ท.จะเดินหน้าหลายภารกิจ เช่น อุตสาหกรรมเกษตรอัจฉริยะต้นแบบ หนุนเอกชนได้รับการสนับสนุนจากกองทุนอินโนเวชั่นวัน 1,000 ล้านบาท มีสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือสกสว. สนับสนุน และเดินหน้ารับรองสินค้าที่ผลิตในไทย เพื่อเข้าสู่การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐกว่า 1 แสนล้านบาท"