กรมบัญชีกลางอัปเดตสวัสดิการแห่งรัฐ เดือนสิงหาคม 2566 ใช้ซื้อสินค้า

05 ส.ค. 2566 | 05:41 น.

กรมบัญชีกลางอัปเดตบัตรคนจนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดือนสิงหาคม 2566 ใช้สิทธิในการซื้อสินค้าและใช้จ่ายหลายอย่าง ส่วนผู้ยืนยันตัวตนสำเร็จระหว่างเดือน มิ.ย - ก.ค. ได้เงิน 1,200 บาท

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน เดือนสิงหาคม 2566 กรมบัญชีกลาง โอนงวดวันที่ 1 สิงหาคมให้กับผู้ถือบัตรคนจนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไปก่อนหน้านี้แล้ว ่ล่าสุด นางสาวทิวาพร ผาสุข รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ผู้มีสิทธิจะสามารถใช้สิทธิผ่านบัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด ซึ่งในเดือนสิงหาคม 2566 จะได้รับวงเงิน ดังนี้

วันที่ 1 สิงหาคม 2566 (เป็นวงเงินสิทธิไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)

  • วงเงินซื้อสินค้า 300 บาทต่อคนต่อเดือน

สำหรับผู้มีสิทธิที่ยืนยันตัวตนวันที่ 27 มิถุนายน - 26 กรกฎาคม 2566 และเริ่มใช้สิทธิได้วันที่ 1 สิงหาคม 2566 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง ยกเว้น ผู้ผ่านสิทธิรอบอุทธรณ์ และกลุ่มตกหล่น รวมทั้งผู้ผ่านสิทธิที่ดินเพิ่มเติม จะได้รับการทบสิทธิวงเงินค่าซื้อสินค้า 4 เดือน (ของเดือนเมษายน - กรกฎาคม 66) จำนวน 1,200 บาท)

  • วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน (กรกฎาคม - กันยายน 2566)
  •  วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน (ประกอบด้วย บขส. รถไฟ ขสมก. รถไฟฟ้า (MRT/BTS/ARL) )

วันที่ 20 สิงหาคม 2566 (โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขบัตรประชาชน 13 หลักของผู้มีสิทธิ หรือบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิหรือผู้รับมอบอำนาจที่ใช้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท)

  • เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน (จ่ายวันที่ 18 สิงหาคม 2566)
  • สำหรับผู้มีสิทธิที่เป็นคนพิการ ซึ่งมีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือนที่ยืนยันตัวตนวันที่ 27 มิถุนายน - 26 กรกฎาคม 2566 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง ยกเว้น ผู้ผ่านสิทธิรอบอุทธรณ์

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจนเดือนสิงหาคม 2566

 

  • และกลุ่มตกหล่น รวมทั้งผู้ผ่านสิทธิที่ดินเพิ่มเติม จะได้รับการทบสิทธิเงินเพิ่มเบี้ยความพิการ (ของเดือนเมษายน - กรกฎาคม 66) ตามเดือนที่ได้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท...ส่วนผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (โครงการเดิมทุกโครงการ) ที่มีเงินคงเหลืออยู่ในกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) หลังจากวันที่ 27 กันยายน 2566 จะไม่สามารถนำบัตรไปชำระค่าสินค้าผ่านเครื่อง EDC และแอปพลิเคชันถุงเงินที่ร้านธงฟ้าฯ และร้านอื่น ๆ ตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด และไม่สามารถถอนเป็นเงินสดที่ตู้ ATM ของ บมจ. ธนาคารกรุงไทย หรือที่ บมจ. ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขาได้อีก โดยธนาคารจะดำเนินการดังนี้

1. ผู้มีสิทธิที่ได้รับสิทธิต่อ บมจ. ธนาคารกรุงไทยจะทำการโอนเงิน e-Money ที่เหลืออยู่ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้ผู้มีสิทธิผ่านระบบพร้อมเพย์

2. ผู้มีสิทธิที่ไม่ได้รับสิทธิต่อ บมจ. ธนาคารกรุงไทยจะทำการโอนเงิน e-Money ที่เหลืออยู่ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐคืนกรมบัญชีกลาง เพื่อส่งเงินคืนกองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคมต่อไป.

ที่มา: กรมบัญชีกลาง