เม.ย.นี้ ลุ้น “กทม.” ยื่นอุทธรณ์ ปมศาลสั่งเพิกถอนค่าโดยสารสายสีเขียว

18 เม.ย. 2566 | 09:11 น.

“กทม.” เตรียมยื่นอุทธรณ์ศาลปกครอง หลังสั่งเพิกถอนค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว ภายในสิ้นเดือน เม.ย.นี้ เล็งถกคณะทำงานศึกษาค่าโดยสารใหม่ ลุยชงมหาดไทยเดินหน้ายึดพ.ร.บ.ร่วมทุน PPP

นายไทภัทร ธนสมบัติกุล ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า กรณีศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาเพิกถอนประกาศ กทม. เรื่อง การกำหนดค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวว่า เบื้องต้นกทม.จะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองประมาณปลายเดือน เม.ย.นี้ เนื่องจากการออกประกาศค่าโดยสารที่เป็นประเด็นขอเพิกถอนในครั้งนี้ เป็นการคิดอัตราค่าโดยสารเฉพาะสายสีเขียวระหว่างส่วนสัมปทานและส่วนต่อขยายที่ กทม.รับผิดชอบเพียงหน่วยงานเดียว

ขณะเดียวกัน กทม.ได้ออกประกาศค่าโดยสารและบังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน ได้แก่ ประกาศ กทม.เมื่อวันที่ 29 มี.ค.60 เรื่อง ค่าโดยสารโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร ส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท ตอนที่ 1 (ซอยสุขุมวิท 85-107) ระยะทาง 5.25 กม. และส่วนต่อขยายสายสีลม ตอนที่ 2 (ตากสิน-เพชรเกษม) ระยะทาง 5.3 กม.
 

ที่ผ่านมา กทม.ได้บูรณาการร่วมกับกระทรวงคมนาคม ในการกำหนดอัตราค่าโดยสารของรถไฟฟ้า โดยร่วมเป็นคณะทำงานให้ความเห็นและให้ข้อเสนอแนะที่ปรึกษาโครงการศึกษากำหนดอัตราค่าโดยสารขั้นสูง ค่าแรกเข้า และหลักเกณฑ์การขึ้นอัตราค่าโดยสารขนส่งมวลชนระบบราง เมื่อผลการศึกษาดังกล่าวแล้วเสร็จ กทม. จะนำผลการศึกษาดังกล่าว มาใช้เป็นแนวทางการปรับค่าโดยสารรถไฟฟ้าที่อยู่ในความรับผิดชอบของ กทม. เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการ และประชาชนผู้ใช้บริการต่อไป

ส่วนแนวทางการบริหารจัดการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้งระบบ กทม. ได้เสนอต่อกระทรวงมหาดไทยแล้วว่า เห็นควรที่จะดำเนินการโครงการฯ ตาม พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 เพื่อให้การพิจารณาคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนมีความรอบคอบ มีการพิจารณาข้อมูลรอบด้านและตรวจสอบได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะในการได้รับบริการของรัฐอย่างมีประสิทธิภาพ

 

อีกทั้งเพื่อให้การเดินรถเป็นโครงข่ายเดียวกันอย่างต่อเนื่อง (Through Operation) และอำนวยความสะดวกสบายในการเดินทางของประชาชนผู้โดยสาร ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพต่อระบบคมนาคมขนส่งในกรุงเทพฯ ต่อไป
 

สำหรับการยื่นอุทธรณ์ของกทม.ในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากนายสิริพงษ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.พรรคภูมิใจไทยและพวกรวม 6 คน ยื่นฟ้อง กรุงเทพมหานคร (กทม.) และ ผู้ว่าฯ กทม. เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1 และ 2 ขอให้ศาลฯ มีคำพิพากษาเพิกถอนหรือยกเลิกประกาศเรื่อง การกำหนดค่าโดยสารโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ลงวันที่ 15 ม.ค.2564 และให้สั่งระงับการดำเนินการใดๆ ตามประกาศฯ คือ การปรับขึ้นค่าโดยสารไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำสั่งหรือคำพิพากษาถึงที่สุด

 

เมื่อวันที่ 13 เม.ย. 66 ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาให้เพิกถอนประกาศกรุงเทพมหานคร (กทม.) เรื่องการกำหนดค่าโดยสารโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยพิจารณาให้กทม.ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 26 พ.ย. 61 ซึ่งต้องบูรณาการร่วมกับกระทรวงคมนาคมในการกำหนดอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสม เป็นธรรม ไม่ก่อให้เกิดภาระต่อประชาชนผู้ใช้บริการมากเกินไป

 

ทั้งนี้ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาวระบุว่า แม้รัฐธรรมนูญจะบัญญัติรับรองให้ กทม. ซึ่งเป็นราชการบริหารส่วนท้องถิ่น มีความเป็นอิสระ แต่การใช้อำนาจบริหารราชการ และการจัดทำบริการสาธารณะของกทม. โดยผู้ว่าฯ กทม. ก็ยังต้องเป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติ ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาล ตามหลักการกระจายอำนาจทางปกครองของรัฐ

 

นอกจากนี้การจัดเก็บค่าโดยสารโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ถึงแม้จะอยู่ในความรับผิดชอบของ กทม. และเป็นอำนาจของผู้ว่าฯ กทม. ที่สามารถกระทำได้ ก็ตาม แต่เมื่อปรากฏว่าการดำเนินโครงการดังกล่าวไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะพื้นที่ในกทม.เท่านั้น แต่ยังครอบคลุมไปถึงพื้นที่เขตปริมณฑล และเป็นโครงการที่รัฐบาลกำหนดไว้ในแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางรางใน กทม. และปริมณฑล

 

อย่างไรก็ตามกทม.ต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ตามความเห็นกระทรวงการคลัง รวมทั้งพิจารณากำหนดค่าโดยสารให้เหมาะสม สอดคล้องกับค่าครองชีพของผู้ใช้บริการด้วย