ปัจจุบันเกาะสมุย เป็นแหล่งท่องเที่ยวแดนใต้ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยการเดินทางเข้าเกาะสมุยมีอุปสรรคหลายขั้นตอน ซึ่งสามารถเดินทางได้เพียง 2 ทาง คือทางอากาศและทางน้ำเท่านั้น หากสะพานข้ามเกาะขนอม-สมุย เกิดขึ้น ส่งผลให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางได้สะดวกมากขึ้นและมีต้นทุนค่าขนส่งที่ถูกลง ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในอนาคต
รายงานข่าวจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า สำหรับโครงการสะพานข้ามเกาะขนอม-สมุย ระยะทางรวม 17 กิโลเมตร(กม.) งบประมาณ 25,000 ล้านบาท ปัจจุบันกทพ.อยู่ระหว่างเตรียมประกาศประกวดราคา (ทีโออาร์) จ้างบริษัทที่ปรึกษาเพื่อศึกษาความหมาะสมของโครงการฯ ภายในปีนี้ หลังจากนั้นจะได้ตัวผู้ชนะบริษัทที่ปรึกษาประมาณเดือนเมษายน 2566 โดยจะเริ่มศึกษาภายในปี 2566 ใช้ระยะเวลาศึกษาราว 1 ปีกว่า คาดดำเนินการศึกษาแล้วเสร็จภายในปี 2567
“หากศึกษาโครงการฯแล้วเสร็จ เบื้องต้นจะดำเนินการลงพื้นที่เพื่อสำรวจเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชน รวมทั้งจะต้องศึกษาถึงรูปแบบการร่วมลงทุนของโครงการฯว่าควรเป็นรูปแบบใด หรือให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนด้วยหรือไม่และจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) เสนอขออนุมัติ ภายในปี 2567”
รายงานข่าวจากกทพ.กล่าวต่อว่า ทั้งนี้คาดว่าโครงการฯจะเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบภายในปี 2567 และเริ่มดำเนินการเปิดประมูลประมาณปี 2568 หลังจากนั้นเริ่มก่อสร้างภายในปี 2569 ระยะเวลาก่อสร้าง 4 ปี โดยจะเปิดให้บริการปี 2572
“ส่วนงบประมาณของโครงการฯจะใช้งบจากส่วนใดนั้น เบื้องต้นงบประมาณด้านการเวนคืนที่ดินจะอยู่ในความรับผิดชอบของภาครัฐอยู่แล้ว ขณะที่งบประมาณลงทุนก่อสร้างงานโยธาและงานติดตั้งระบบบริการจัดเก็บค่าผ่านทางและบำรุงรักษา (Operation and Maintenance : O&M) อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะดำเนินการให้เอกชนเป็นผู้ลงทุนหรือภาครัฐจะต้องสนับสนุนลงทุนในงบประมาณบางส่วน คาดว่าโครงการฯจะใช้รูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) สัญญาสัมปทานไม่น้อยกว่า 30 ปี เนื่องจากโครงการฯมีต้นทุนงบประมาณสูง หากกทพ.เป็นผู้ลงทุนเองทั้งหมด จะทำให้มีงบประมาณไม่เพียงพอลงทุนในโครงการฯอื่นๆ”
ด้านการเวนคืนที่ดินของโครงการฯ เบื้องต้นทราบว่าจะมีพื้นที่ที่ถูกเวนคืนที่ดินทั้ง 2 ฝั่ง คือ บริเวณฝั่งเกาะสมุยและฝั่งแผ่นดินใหญ่ โดยส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ของเอกชน ซึ่งไม่ค่อยมีพื้นที่ของชาวบ้านและพื้นที่ในชุมชนที่หนาแน่น
ที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อการบูรณาการการพัฒนาโครงข่ายทางถนนร่วมกันระหว่างกรมทางหลวง (ทล.) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เพื่อบูรณาการความร่วมมือในการกำหนดแนวทางในการพัฒนาโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองโครงการทางหลวงชนบทและโครงการทางพิเศษ โดยให้ความร่วมมือในการวางแผน การศึกษา และออกแบบโครงการ ซึ่งมีโครงการสะพานเชื่อมเกาะสมุย จากอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ไปยังอำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เป็นผู้ดำเนินโครงการ เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนผู้ใช้ทางได้รับความสะดวก ปลอดภัย ประหยัดเวลา และค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
สำหรับโครงการทางพิเศษสายขนอม-เกาะสมุย เป็นโครงการเชื่อมระหว่าง อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช และ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี จุดเริ่มต้นโครงการอยู่ที่ ต.ควนทอง อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช สิ้นสุดโครงการที่ต.ตลิ่งงาม อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
ทั้งนี้แนวเส้นทางและรูปแบบสะพานของโครงการฯจะต้องดูแนวเส้นทางที่มีความเหมาะสม เบื้องต้นสะพานช่วงหลัก มีช่วงพาดกว้างพิเศษสำหรับแนวสัญจรทางน้ำหลัก ให้เรือขนาดใหญ่ใช้ลอดผ่านได้ ขนาดช่วงพาด 200-500 เมตร มี 3 ตำแหน่ง ได้แก่ สะพาน A บริเวณใกล้ชายฝั่ง อ.ขนอม สะพาน B บริเวณกึ่งกลางระหว่าง อ.ขอนม และเกาะสมุย และสะพาน C บริเวณใกล้ชายฝั่งเกาะสมุย ส่วนสะพานช่วงต่อ มีช่วงพาดกว้างทั่วไปไม่อยู่ในแนวสัญจรทางน้ำหลัก ขณะที่รูปแบบทางเลือกโครงสร้างสะพานช่วงหลักที่ต้องพิจารณา มี 2 รูปแบบ ได้แก่ สะพานคานขึง และสะพานขึง