ดีเดย์ 1 พ.ย.นี้ "รฟท." เปิดอุโมงค์ลอดใต้ทางรถไฟบางซื่อ- วัดเสมียนนารี

27 ต.ค. 2565 | 12:07 น.

"รฟท." เตรียมความพร้อมเปิดอุโมงค์ลอดใต้ทางรถไฟและถนนรถไฟ ช่วงบางซื่อ-จตุจักร- วัดเสมียนนารี เริ่ม 1 พ.ย. นี้ เชื่อมสายสีแดง แก้ปัญหารถติดละแวกใกล้เคียง

นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า รฟท.ได้ตรวจสอบความเรียบร้อยและเตรียมความพร้อมของอุโมงค์ลอดใต้ทางรถไฟและถนนรถไฟ ซึ่งเป็นอุโมงค์ที่เชื่อมระหว่างถนนกำแพงเพชร 2 บริเวณสถานีรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงจตุจักร กับถนนรถไฟ โดยจะเริ่มเปิดให้บริการในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวก และแก้ไขปัญหาการจราจรของประชาชนในพื้นที่เขตบางซื่อ

 

 

 

ที่ผ่านมานายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้สั่งการให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการปรับปรุงอุโมงค์ลอดใต้ทางรถไฟและถนนรถไฟ ซึ่งเป็นงานที่เกี่ยวกับการเชื่อมโครงข่ายการจราจรรอบสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ สำหรับใช้เชื่อมต่อระหว่างถนนกำแพงเพชร 2 บริเวณสถานีรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงจตุจักร กับถนนรถไฟ ช่วงบางซื่อ – จตุจักร - วัดเสมียนนารี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทางมาใช้บริการรถไฟชานเมืองสายสีแดง และช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรให้แก่ประชาชนผู้สัญจรไปมาในละแวกใกล้เคียง

ขณะเดียวกันรฟท. ได้เร่งรัดเข้าดำเนินการปรับปรุงระบบไฟฟ้าแสงสว่าง ระบบสูบน้ำภายในอุโมงค์ และร่วมกับสำนักงานเขตบางซื่อ สำนักงานเขตจตุจักร สน.เตาปูน สน.ประชาชื่น ตำรวจรถไฟ SCG และสำนักงานประปา สาขาพญาไท ฉีดล้างทำความสะอาดบริเวณพื้นผิวจราจร จัดเก็บขยะมูลฝอยจนเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว

 

 

 

 ทั้งนี้รฟท.ยังได้ประสานการไฟฟ้านครหลวง ให้เข้ามาดำเนินการเชื่อมต่อระบบไฟฟ้าส่องสว่าง เพื่อให้บริการเป็นทางสาธารณะ สำหรับให้ประชาชนใช้ในการสัญจร ตลอดจนขอความร่วมมือประชาชนให้เคลื่อนย้ายรถยนต์ที่จอดกีดขวางการจราจรบริเวณริมถนนและทางเข้า-ออกอุโมงค์ โดยเมื่อเปิดใช้บริการแล้วอุโมงค์ลอดใต้ทางรถไฟและถนนรถไฟ จะสามารถช่วยแก้ปัญหาการจราจรบริเวณแยกช่วงบางซื่อ-จตุจักร- วัดเสมียนนารี และสามารถอำนวยความสะดวกให้ผู้ที่จะเดินทางมายังสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ได้สะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหากลุ่มคนร้ายเข้ามาทำความเสียหายกับทรัพย์สินราชการในอนาคต การรถไฟฯ และกองบังคับการตำรวจรถไฟ ได้ประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ ออกตรวจตราพื้นที่โดยรอบอุโมงค์อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี การรถไฟฯ ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนใกล้เคียง ช่วยสอดส่องดูแล เป็นหูเป็นตา ป้องกันไม่ให้บุคคลใดเข้ามาสร้างความเสียหายระบบสาธารณประโยชน์ รวมถึงช่วยกันไม่ทิ้งขยะมูลฝอย สิ่งปฏิกูลลงบนพื้นผิวจราจร เพื่อทำให้อุโมงค์สามารถใช้งานและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อส่วนรวมในระยะยาวสืบไป