รัสเซียได้อะไร? จากการผนวก 4 แคว้นใหญ่ของยูเครน

08 ต.ค. 2565 | 03:41 น.

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ(สคต.) ณ กรุงมอสโก สหพันธรัฐรัสเซีย รายงาน รัสเซียได้อะไรจากการผนวก 4 ดินแดนใหม่จากยูเครน ระบุมีผลประโยชน์รออยู่มากมายที่จะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของรัสเซีย ความว่า :

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา(3 ต.ค. 2565) รัฐสภาดูมาของรัสเซีย ได้ให้สัตยาบันสนธิสัญญาเกี่ยวกับการผนวกดินแดนที่รัสเซียยึดมาได้จากยูเครน 4 แคว้น ได้แก่ โดเนตสค์, ลูแกนสค์ (DPR และ LPR)  เคอร์ซอน และซาโปโรซี ซึ่งดินแดนต่าง ๆ ต่างลงคะแนนอย่างท่วมท้นให้เข้าร่วมประเทศในการลงประชามติเมื่อเดือนกันยายน

 

นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่าการฟื้นฟูดินแดนที่ถูกทำลายล้างด้วยความขัดแย้งจะต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล อย่างไรก็ตาม สังเกตว่าผลตอบแทนอาจยิ่งใหญ่กว่านั้น เมื่อพิจารณาต้นทุนทางเศรษฐกิจและผลประโยชน์ของการรวมดินแดนเข้ากับรัสเซีย

 ภูมิภาคใหม่คืออะไร?

พื้นที่ทั้งหมดของแคว้นดอนบาส (สาธารณรัฐโดเนตสค์ และ ลูแกนสค์) รวมทั้งภูมิภาค เคอร์ซอน และ ซาโปโร ซี อยู่ที่เกือบ 109,000 ตารางกิโลเมตร (42,085 ตาราง ไมล์) หรือมากกว่าร้อยละ 15 ของพื้นที่ทั้งหมดในอดีตของยูเครน ก่อนหน้านี้มีผู้คนมากกว่า 8 ล้านคนอาศัย อยู่ในดินแดนนี้ซึ่งมีที่ดินทำกินมากกว่า 5.6 ล้านเฮกตาร์ ทั้งนี้รัสเซียยังไม่ได้กำหนดเขตแดนที่ชัดเจนในอนาคตของภูมิภาคเคอร์ซอนและซาโปโรซี ซึ่งบางส่วนยังคงถูกควบคุมโดยกองทหารยูเครน

 

อะไรคือตัวขับเคลื่อนของเศรษฐกิจแคว้นดอนบาส (สาธารณรัฐโนเนตสค์และลูแกนสค์)?

ภูมิภาคดอนบาส มีตัวขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจจากถ่านหินซึ่งเป็นเขตอุตสาหกรรมที่สำคัญของยูเครน เฉพาะในส่วนของสาธารณรัฐโดเนตสค์ คิดเป็นร้อยละ 20 ของการผลิตภาคอุตสาหกรรมของประเทศจนถึงปี พ.ศ. 2557 ภูมิภาคนี้อุดมด้วยแร่ธาตุมีแหล่งถ่านหินที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของยุโรปโดยมีปริมาณสำรองที่สามารถสกัดได้ประมาณกว่า 1 หมื่นล้านตัน ณ เดือนกุมภาพันธ์ จากเหมืองถ่านหิน 115 แห่งที่เปิดดำเนินการในภูมิภาค สามารถผลิตวัตถุดิบได้ประมาณ 70 ล้านตันต่อปี และมีโรงไฟฟ้าแปดแห่งตั้งอยู่ในสาธารณรัฐโดเนตสค์

 

รัสเซียได้อะไร? จากการผนวก 4 แคว้นใหญ่ของยูเครน

สำหรับสาธารณรัฐลูแกนสค์ เป็นศูนย์กลางการขนส่งที่สำคัญและเป็นที่รู้จักในด้านโลหะวิทยา เครื่องจักร และอุตสาหกรรมการเกษตร นอกจากนี้ยังมีโรงงานเคมีและ เภสัชกรรม และมีเหมืองถ่านหินหลายแห่ง มีทางหลวง สายสำคัญหลายสายผ่าน อีกทั้งมีศักยภาพทาง การเกษตรที่ดีโดยเฉพาะการเพาะปลูกธัญพืช

 

ทำไมภูมิภาคซาโปโรซีถึงมีความสำคัญ?

ส่วนภูมิภาคซาโปโรซี เป็นศูนย์กลางของการจัดหาพลังงานในยูเครน โดยมีผู้ผลิตพลังงานที่ทรงพลัง 3 แห่ง ได้แก่ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Zaporozhye เป็นโรงไฟฟ้า นิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป สถานี Dnepr Hydroelectric Station และฟาร์มกังหันลม Botievo

 

โดยในช่วงปี พ.ศ. 2562 - 2563 ภูมิภาคซาโปโรซีผลิต ไฟฟ้าได้ประมาณ 4 หมื่นล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี ซึ่งคิดเป็นประมาณร้อยละ 25–27 ของภาคพลังงานทั้งหมดในยูเครน ภูมิภาคนี้มีโรงงานวิศวกรรมอุตสาหกรรมและ เครื่องกลขนาดใหญ่จำนวนหนึ่ง รวมถึงโรงงานสร้าง รถยนต์ Zaporozhye (ZAZ) ที่มีกำลังการผลิต 150,000 คันต่อปี นอกจากนั้นแม่น้ำ Dnieper อ่างเก็บ น้ำ Kakhovka และทะเล Azov ยังมีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจของ Zaporozhye โดยเฉพาะการทำอุตสาหกรรมฟาร์มเลี้ยงปลา

 

 

รัสเซียได้อะไร? จากการผนวก 4 แคว้นใหญ่ของยูเครน

 

ภูมิภาค “เคอร์ซอน” มีความสำคัญอย่างไร?

 ภูมิภาคเคอร์ซอน มีความเชี่ยวชาญด้านการต่อเรือและเป็นที่รู้จักในด้านทำรีสอร์ทและเกษตรกรรม มีอาณาเขตที่ใหญ่ที่สุดของที่ดินทำกินในยูเครนที่มีอยู่เกือบ 20,000 ตารางกิโลเมตร ภูมิภาคนี้ผลิตธัญพืช เมล็ด ทานตะวัน และผัก ซึ่งเป็นที่ดินที่อุดมสมบูรณ์ทำให้ สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้สองหรือบางครั้งถึงสามครั้งต่อฤดูกาล นอกจากนั้นยังมีแหล่งอุตสาหกรรมดั้งเดิมอื่น ๆ ได้แก่ การเพาะพันธุ์โคและการผลิตไวน์ และมีแผนจะ พัฒนารีสอร์ทและแหล่งท่องเที่ยวซึ่งสามารถเข้าถึงได้ทั้งทะเล Azov และ Black Sea

 

รัสเซียเผชิญกับความท้าทายอะไร?

แม้ว่ารัสเซียจะได้ที่ดินที่มีศักยภาพทางการเกษตรและอุตสาหกรรมที่โดดเด่น แต่มีโครงสร้างพื้นฐานที่เสื่อมโทรมอย่างมาก เนื่องจากขาดการลงทุนจากรัฐบาลยูเครนในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ความกังวลหลักของรัฐบาล รัสเซียคือการบูรณาการดินแดนเหล่านั้นและช่วยให้เอาชนะการพัฒนาเศรษฐกิจที่ล้าหลังและฟื้นฟูสภาพจากการทำลายล้างที่เกิดจากความขัดแย้ง ในขั้นต้นรัสเซียจะจัดหาเงินทุนให้กับงบประมาณของภูมิภาคทั้งสี่ โดยผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าในอนาคตเมื่อการบูรณาการเป็นไปอย่างสมบูรณ์และสภาพเศรษฐกิจได้เริ่มต้นฟื้นฟู แล้วจะช่วยให้ปริมาณการสนับสนุนด้านงบประมาณของรัฐบาลกลางปรับลดลง

 

ดินแดนใหม่สามารถมีส่วนร่วมในเศรษฐกิจรัสเซียได้ อย่างไร?

ดินแดนมีที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่ได้เปรียบอย่างมาก ทำให้มีโอกาสมากมายเนื่องจากมีท่าเรือและเส้นทางเดินเรือ เชื่อมกับทางตอนใต้ของรัสเซีย ซึ่งสามารถเข้าถึงท่าเรือที่สำคัญของเขต Mariupol ในทะเล Azov หมายถึงการ เพิ่มศักยภาพของการขนส่งถ่านหินและอุปทานอื่น ๆ ไป ยังแอฟริกาและประเทศในเอเชียใต้

 

นอกจากนั้นดินแดนใหม่นี้ยังสามารถสนับสนุนทั้งการสร้างความมั่นคงด้านอาหารของประเทศและช่วยเพิ่มการส่งออกสินค้าไปยังประเทศที่เป็นมิตร โดยผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของรัสเซียอาจมีมูลค่าหลายล้านล้านรูเบิลหรือมากกว่านั้น (ที่มา: Ports, mines, agriculture: What can new regions give Russia’s economy?, ru.com)

 

การผนวกดินแดน 4 แห่งของยูเครนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียแม้ว่าจะได้ผลประโยชน์จากความอุดมสมบูรณ์ด้านทรัพยากรธรรมชาติ แหล่งเกษตรกรรม และการเชื่อมโยงระบบโลจิสติกส์ในระยะยาว แต่รัสเซียก็ต้องใช้เงินงบประมาณมหาศาลในการปกป้องดินแดน ที่ยังมีความขัดแย้งและมีการสู้รบกันอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งต้องสร้างและพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานและให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจและปากท้องของประชาชนที่เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 8 ล้านคน

 

นอกจากนั้นประเทศตะวันตกก็เตรียมพร้อมที่จะออกมาตรการคว่ำบาตรใหม่ ๆ เพิ่มเติมเพื่อเพิ่มแรงกดดันต่อ เศรษฐกิจของรัสเซียอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นในอนาคตอันใกล้และระยะปานกลาง รัสเซียยังคงต้องเผชิญกับปัญหาทางเศรษฐกิจที่มีความผันผวนสูง จากความขัดแย้งที่บานปลายและจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการค้าโลกด้วย