ร.ต.ณัยณพ ภิรมย์ภักดี : หัวใจผสานเครื่องยนต์ ชัยชนะในสนามไม่มีคำว่า 'ผู้ตาม'

10 ก.ค. 2559 | 03:00 น.
วันแรกของการแข่งขันไม่มีวันที่คุณจะขับรถได้เร็วที่สุดในสนาม ทุกคนต้องอาศัยการเรียนรู้จากบริบทโดยรอบไม่ว่าจะเป็น ทักษะการควบคุมรถ การสร้างความคุ้นเคยกับสนามแข่งขันระหว่างฝึกซ้อม การเข้าใจและทำความรู้จักกับรถยนต์ให้ได้มากที่สุด รวมไปถึงการร่วมกันพัฒนาศักยภาพและประสิทธิภาพของรถยนต์จากทีมงานด้วยความสามัคคี ปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงเพื่อนำมาประยุกต์ให้สอดรับกับสภาพสนาม สร้างความมั่นใจให้กับตนเองให้มากครั้งที่สุดด้วยการทำงานอย่างมืออาชีพ โหยหาในชัยชนะและยอมรับความพ่ายแพ้ด้วยทัศนคติเชิงบวกและนี่คือการฉายภาพประสบการณ์ของนักแข่งรถยนต์มืออาชีพตัวแทนจากประเทศไทย ร.ต.ณัยณพ ภิรมย์ภักดี นักแข่งรถทีม คราฟท์ แบมบู เรซซิ่ง บุตรชายคนเดียวของ ม.ล.ปิยาภัสร์– คุณจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี

[caption id="attachment_69351" align="aligncenter" width="336"] ร.ต.ณัยณพ ภิรมย์ภักดี ร.ต.ณัยณพ ภิรมย์ภักดี[/caption]

ร.ต.ณัยณพ ภิรมย์ภักดีหรือ คุณต่อย เล่าถึง จุดเริ่มต้นของแรงบันดาลใจแห่งความฝันในการเป็นนักแข่งรถยนต์มืออาชีพว่า ในวัยเด็กตนได้เข้ารับการศึกษาอยู่ที่ประเทศอังกฤษ มีโอกาสรับชมการแข่งขันรถสูตรหนึ่ง หรือฟอร์มูล่าวันผสมผสานกับความชื่นชอบส่วนตัวในกีฬาแข่งรถยนต์ ผนวกกับการหาความท้าทายใหม่ๆให้กับชีวิต ตนจึงจุดประกายไฟเครื่องยนต์แห่งความฝันให้ติดขึ้นและขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายในการเป็นนักแข่งรถยนต์มืออาชีพด้วยการเริ่มต้นฝึกหัดขับรถยนต์จนเกิดเป็นองค์ความรู้ มุ่งมั่นและพัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอสะท้อนผ่านการฝึกซ้อมอย่างจริงจังในทุกวัน และได้รับโอกาสเข้าร่วมแข่งขันรถยนต์อย่างเป็นทางการด้วยวัยเพียง 15 ปี จากนั้นได้เดินทางเก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้านการแข่งขันในทุกปีตลอดมา

หยาดเหงื่อของความพ่ายแพ้คือ “ประสบการณ์” และวินาทีแห่งชัยชนะคือ “การพัฒนา”หมวดต่อยเล่าต่ออีกว่า บนเส้นทางแห่งการแข่งขันหลังพวงมาลัยได้ทำให้เราเรียนรู้และทำความรู้จักกับตนเองมากขึ้น ความผิดหวังและพ่ายแพ้เป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่ธรรมดาหากเราใช้ทัศนคติเชิงบวกมองและเชื่อว่าเป็นบทเรียนแห่งประสบการณ์ เส้นชัยแห่งความสำเร็จต้องเกิดจากการเรียนรู้การผิดพลาด ซึ่งในทุกครั้งหลังการซ้อมหรือแข่งขันรถยนต์ตนจะดูวิดีโอและข้อผิดพลาดเสมอเพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นสำหรับการแข่งขันสนามต่อไป อย่างไรก็ดีความทรงจำแรกแห่งชัยชนะในฐานะนักแข่งมืออาชีพเกิดขึ้นในรายการ “การแข่งขันรถยนต์ โตโยต้า วีออส วันเมคเรซ ประจำปี 2009 ณ สนามทุ่งศรีเมือง จ.อุดรธานี”ด้วยการคว้ารางวัลชนะเลิศมาครอบครอง ความสุขแห่งชัยชนะเปรียบเสมือนการเติมเต็มฝันให้เป็นจริง

“เราก้าวมาสู่วันนี้ได้เพราะเราอยากชนะ ไม่ได้มาเพียงเข้าเส้นชัยเป็นที่ 2”16 ถ้วยรางวัลชนะเลิศ การันตีถึงการไม่หยุดไขว่คว้าความสำเร็จควบคู่ไปกับการยกระดับฝีมือตนเองให้ก้าวสู่ระดับการแข่งขันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสำหรับรางวัลล่าสุด“รางวัลชนะเลิศรุ่น Endurance การแข่งขันรายการ Thailand Super Series ณ สนามบางแสน” เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญสู่การได้รับโอกาสในการเข้าร่วมทีม Craft Bamboo Racing (คราฟท์แบมบูเรซซิ่ง) ทีมแข่งรถแนวหน้าของเอเชียเจ้าของรางวัลแชมป์ GT Asia Series 2015 รายการแข่งขันรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ด้วยรถยนต์ระดับโลกอย่าง “ปอร์เช่” รุ่น 911 GT3 ภายใต้เบอร์การแข่งขัน 91

“เรามีหัวใจ ความฝันและเป้าหมายเดียวกัน” คุณณัยณพ เล่าต่ออีกว่า ก่อนการเข้าร่วมทีม Craft Bamboo Racing (คราฟท์ แบมบู เรซซิ่ง)อย่างเป็นทางการ ได้มีการทดสอบขับรถและพูดคุยถึงเป้าหมายในอาชีพนักแข่งรถยนต์ ซึ่งเป้าหมายของทีมสอดคล้องกับความฝันของตนในการเข้าร่วมแข่งขันในรายการ “24 Hours of Le Mans”เป็นรายการแข่งขันที่ทดสอบความทนทานของรถและนักแข่ง โดยต้องขับรถด้วยความเร็วสูงอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 24 ชั่วโมง ต้องมีการบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิง ยางรถยนต์และระบบห้ามล้ออย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการแข่งขันรายการดังกล่าวคือจุดหมายปลายทางที่ผมและทีมงานจะก้าวไปสู่เป้าหมายดังกล่าวร่วมกันอย่างแน่นอน

“ผมไม่ได้มาแข่งขันเพื่อขับรถตามใคร ผมต้องการเป็นผู้นำ”การได้รับคัดเลือกเข้าร่วมทีม Craft Bamboo Racing (คราฟท์ แบมบู เรซซิ่ง)เป็นความภาคภูมิใจในฐานะเด็กหนุ่มที่เดินตามความฝัน มุ่งมั่นและเก็บเกี่ยวประสบการณ์อย่างตั้งใจ และพร้อมสำหรับการไขว่คว้าโอกาสอย่างเต็มประสิทธิภาพ ทุกการเรียนรู้ต่อจากนี้เป็นการปูทางในการแสดงศักยภาพจากตัวแทนนักแข่งรุ่นใหม่สัญชาติไทยในเวทีสากลอย่างเต็มภาคภูมิ และที่สำคัญเป็นการตอกย้ำถึงทิศทางและโอกาสที่ดีในอนาคตสำหรับกีฬาแข่งรถยนต์โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักแข่งรุ่นใหม่ชาวไทยที่จะเติบโตและไปโลดแล่นในเวทีระดับโลกมากยิ่งขึ้น

“หัวใจที่มาจากจิตวิญญาณผสมผสานกับเครื่องยนต์ทางความคิดที่มีประสิทธิภาพ”ชีวิตการเป็นนักแข่งรถยนต์เปรียบเสมือนครูได้เรียนรู้และแก้ไขปัญหาในทุกสถานการณ์บนท้องถนน ความประหม่าและเสียงหัวใจที่ตื่นเต้นเป็นพลังที่สำคัญในการขับเคลื่อนตนเองให้ก้าวผ่านขีดจำกัดของเลขไมล์แห่งความกลัว การพัฒนาศักยภาพตนเองอยู่ตลอดเวลาเป็นการยกระดับทักษะให้เกิดความเชี่ยวชาญในกีฬาแข่งรถยนต์และความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นได้เพียงหนึ่งเดียวแต่เกิดจากการร่วมมือกันของทีมงานทุกภาคส่วนหล่อหลอมเป็นความสามัคคี และประสบการณ์ไม่ได้มีเพียงแค่เกียร์ 1 แต่ยังมี เกียร์ 2 3 4 และก้าวต่อๆไปอย่างต่อเนื่องให้เราเก็บเกี่ยว เพื่อนำทางสู่เส้นชัยแห่งความสำเร็จต่อไป และนี่คือเครื่องยนต์ทางความคิดในแบบฉบับ ณัยณพ ภิรมย์ภักดี

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,173 วันที่ 10 - 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2559