KEY
POINTS
นายณพ ณรงค์เดช ได้จัดแถลงข่าวเปิดเผยพยานหลักฐานสำคัญและข้อเท็จจริงเพิ่มเติม สืบเนื่องจากคดีเอกสารโอนหุ้นบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หลังศาลอุทธรณ์มีคำสั่งกลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2568 โดยพิพากษาจำคุกนายณพและคุณหญิงกอแก้ว บุญยะจินดา คนละ 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา ในความผิดฐานร่วมกันใช้เอกสารสิทธิปลอมลายเซ็นบิดาของนายณพ ซึ่งปัจจุบันทั้งสองได้รับการประกันตัวเพื่อต่อสู้คดีในชั้นศาลฎีกา
นายณพย้ำถึงความบริสุทธิ์ว่า "ในเมื่อเราเป็นเจ้าของอยู่แล้ว จะปลอมเอกสารไปเพื่ออะไร เพื่อให้เป็นเจ้าของในสิ่งที่ตัวเองเป็นเจ้าของอยู่ อันนี้ผมขอยืนยัน"
โดยระบุว่า ข้อเท็จจริงในคดีแพ่งนั้นฟังเป็นที่ยุติแล้วว่าครอบครัวไม่เคยลงทุน และเส้นทางการเงินที่ลงทุนครั้งแรกในปี 2558 คือตนเอง และในปี 2559 คือคุณหญิงกอแก้ว ซึ่งเส้นทางการเงินมีความชัดเจน นายณพยังอ้างถึงคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีแพ่งที่ระบุอย่างชัดเจนว่า ฝ่ายโจทก์ (พี่ชายและน้องชาย) ไม่ปรากฏหลักฐานการชำระเงินค่าหุ้นที่ชัดแจ้ง
"ผมเชื่อว่าระบบยุติธรรมเป็นที่พึ่งสุดท้ายของพวกเราทุกคน แต่ถ้าเกิดระบบยุติธรรมสร้างปัญหาให้กับพวกเรา ผมก็คิดว่าไม่อยากให้เกิดแบบนี้ขึ้นกับใครก็ตาม" นายณพกล่าว
นอกจากประเด็นเรื่องความเป็นเจ้าของหุ้นแล้ว นายณพและทีมทนายยังได้เปิดเผยข้อสังเกตเกี่ยวกับความไม่ชอบมาพากลของกระบวนการยุติธรรมในชั้นต้น โดยมีหลักฐานที่เตรียมยื่นต่อศาลฎีกาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
นอกจากนี้ นายณพยังได้กล่าวถึงความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของนายเกษม ณรงค์เดช ผู้เป็นบิดา และการที่ตนและบุตรชายของตนไม่สามารถเข้าเยี่ยมได้ ซึ่งเขามองว่าเป็นความพยายามใช้ประโยชน์จากเรื่องสุขภาพของบิดาเพื่อสร้างอำนาจต่อรอง
"อยากฝากไปถึงสื่อรายการต่างๆ ผมพร้อมที่จะไปออกเพื่อได้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ และขอให้เชิญคุณกฤษณ์ และคุณกรณ์มาด้วย ผมพร้อมที่จะพบเจอและพูดคุยกันต่อหน้าทุกเวทีว่าความจริงคืออะไร" นายณพกล่าวทิ้งท้าย