นพ.นิพนธ์ ชินานนท์เวช ผู้อำนวยการสํานักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงผ่านรายการ 'ฐานทอล์ค' โดยระบุว่า หมวดโฆษณาในพ.ร.บ.แอลกอฮอล์ใหม่นี้ได้จัดเรียงและเพิ่มมาตราย่อยจำนวนมาก เช่น มาตรา 32/1, 32/3 เพื่อให้ครอบคลุมทั้งการโฆษณาโดยตรง การประชาสัมพันธ์ผ่านแบรนด์โลโก้ รวมถึงการใช้ 'สื่อดิจิทัล–อินฟลูเอนเซอร์' ซึ่งไม่ได้มีอยู่ในกฎหมายเก่า
อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติขณะนี้ยังไม่มีกฎเกณฑ์รองรับที่ชัดเจน เนื่องจากต้องรอกฎหมายลูกออกมาระบุว่า 'อะไรคือการประชาสัมพันธ์ที่ทำได้' และ 'อะไรคือการโฆษณาที่ต้องห้าม'
“ตอนนี้ถ้าโฆษณาโดยไม่มีเจตนาชี้ชวน เช่น แค่แจ้งข้อมูลผลิตภัณฑ์หรืองานกิจกรรมโดยไม่ใช้ข้อความเชิญดื่ม เจ้าหน้าที่สามารถใช้ดุลยพินิจตักเตือนได้ แต่ยังไม่ลงโทษ เพราะกฎหมายลูกยังไม่เสร็จ” ผอ.นิพนธ์กล่าว
ขณะเดียวกัน สำนักงานฯ กำลังวางหลักเกณฑ์และระบบ 'การตักเตือนอย่างเป็นขั้นตอน' เพื่อป้องกันความเสียหายแก่ภาคธุรกิจ โดยจะระบุในกฎหมายลูกว่าการตักเตือนต้องทำอย่างไร ออกหนังสืออย่างไร และต้องให้เวลาผู้ประกอบการปรับปรุงกี่วัน
สำหรับประเด็น 'โลโก้ร่วม' หรือ 'โลโก้ตราเสมือน' ซึ่งแบรนด์บางรายใช้สัญลักษณ์เดียวกันทั้งในสินค้าแอลกอฮอล์และ Non-alcohol นพ.นิพนธ์ชี้ว่า ต้องตีความตามมาตรา 32/1 และ 32/3 ซึ่งเขียนไว้ชัดเจนว่า หากโลโก้หรือเครื่องหมายการค้านั้น 'มีลักษณะชี้ชวนหรือสื่อถึงการบริโภคแอลกอฮอล์' ถือว่าผิดกฎหมาย แต่หากใช้ในเชิงประชาสัมพันธ์ทั่วไปโดยไม่ชี้ชวน ถือเป็นข้อยกเว้นที่ทำได้
“ต้องดูเจตนาและสื่อสารโดยรวม ไม่ใช่แค่โลโก้เหมือนหรือไม่เหมือน แต่ต้องดูว่าเจตนาเพื่อเชิญดื่มหรือเพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์” เขากล่าว
เมื่อคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชุดใหม่เริ่มทำงาน จะมีการออกแนวทางปฏิบัติ–คู่มือสำหรับผู้ประกอบการ รวมถึงจัดเวิร์กช็อปและอบรมร่วมกับภาคเอกชน เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันและลดความขัดแย้ง
“เราต้องการให้สังคมเข้าใจว่า กฎหมายไม่ได้ต้องการ ‘ห้ามพูดถึง’ แต่ต้องการ ‘ห้ามเชิญชวนให้ดื่ม’ เท่านั้น” นพ.นิพนธ์กล่าวย้ำ พร้อมขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนช่วยเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดในช่วงเปลี่ยนผ่าน