นายกฯ สั่ง สธ. หาข้อสรุป พ.ร.บ.แอลกอฮอล์ฉบับใหม่ คาดจบ 13 พ.ย.นี้

11 พ.ย. 2568 | 06:07 น.
อัปเดตล่าสุด :11 พ.ย. 2568 | 08:50 น.

นายกรัฐมนตรี สั่งในครม. มอบ รมว.สาธารณสุข เร่งหาข้อสรุป พ.ร.บ.แอลกอฮอล์ฉบับใหม่ คาดนัดถกบอร์ดควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 13 พ.ย.นี้

KEY

POINTS

  • นายกรัฐมนตรีสั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งหาข้อสรุปเพื่อแก้ไขปัญหาความสับสนจาก พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฉบับใหม่
  • ปัญหาหลักเกิดจากการคงเวลาห้ามจำหน่ายแอลกอฮอล์ช่วง 14:00-17:00 น. ในร้านอาหารทั่วไป ซึ่งส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยว
  • คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะประชุมเพื่อหาทางออกในวันที่ 13 พ.ย. นี้ โดยคาดว่าจะได้แนวทางที่ชัดเจน

วันนี้ (11 พฤศจิกายน 2568) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามนายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ถึงกรณีปัญหาเกี่ยวกับพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ที่มีผลบังคับใช้ไปเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

สำหรับสาระของพรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นี้ แม้ว่าในประกาศจะไม่มีการระบุเวลาจำหน่ายสุรา แต่ในพรบ.ฉบับนั้นมีการประกาศให้ไปดูในหนังสือแนบท้าย คือประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2568 ยังคงกำหนดว่าห้ามมิให้ผู้ใดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลาอื่นนอกจากเวลา 11:00 น. ถึง 14:00 น. และตั้งแต่เวลา 17:00 น. ถึง 24:00 น. ยกเว้นขายในกรณีดังต่อไปนี้

  1. การขายในอาคารที่ให้บริการแก่ผู้โดยสารในสนามบินที่ให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศ 
  2. ขายในสถานบริการซึ่งเป็นไปตามกำหนดเวลาเปิดปิดของสถานบริการตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ 
  3. การขายในโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม

นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ประกาศของคณะรัฐมนตรีฉบับนั้นทำให้ร้านอาหารทั่วไปไม่สามารถจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ ไม่สามารถนั่งดื่มได้ในเวลา 14:00 น. ถึง 17:00 น. ซึ่งทำให้เกิดความสับสนวุ่นวาย โดยเฉพาะกับกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งอาจไม่คุ้นชินกับกฎระเบียบนี้

ดังนั้นนายกรัฐมนตรี จึงได้สอบถามทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งกำกับดูแลเกี่ยวกับคณะกรรมการนโยบายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้รับรายงานมาว่า คณะกรรมการจะเร่งแก้ปัญหานี้ให้เร็วที่สุด โดยคาดว่าจะนัดประชุมได้วันที่ 13 พฤศจิกายน นี้ และน่าจะมีแนวทางที่ชัดเจนว่าเกี่ยวกับเรื่องนี้จะมีทางออกอย่างไร

“หากนับไปอีก 15 วัน ประกาศจะมีผลบังคับใช้ภายในวันที่ 4 ธันวาคม ซึ่งน่าจะได้รับความชัดเจนถึงแนวทางนี้ เท่าที่ฟังมาน่าจะเป็นแนวทางซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาที่ประชาชนได้เรียกร้องเข้ามา แต่รายละเอียดจะเป็นอย่างไรต้องรอดูเพิ่มเติม” นายสิริพงศ์ กล่าว