“นิตินัย ศิริสมรรถการ” ซีอีโอคิงเพาเวอร์ฯ เปิดภารกิจฟื้นบริษัท แก้สัญญาดิวตี้ฟรี

22 มิ.ย. 2568 | 23:00 น.

สัมภาษณ์พิเศษ “นิตินัย ศิริสมรรถการ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คิงเพาเวอร์ฯ ป้ายแดง บนภารกิจใหญ่การกอบกู้ผลประกอบการบริษัท เรียกความศรัทธา พร้อมวางแผนธุรกิจรับการเปลี่ยนแปลง

บริษัท คิงเพาเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ปรับทัพใหญ่ หลังแต่งตั้ง “นิตินัย ศิริสมรรถการ” ขึ้นมานั่งตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เพื่อหวังพลิกฟื้นผลประกอบการของบริษัทที่กำลังประสบปัญหาการขาดทุนให้กลับมายืนอยู่ได้อีกครั้ง พร้อมทั้งวางแผนกลยุทธ์รองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต รวมไปถึงการแก้ปมปัญหาค้างค่าเกี่ยวกับสัญญาสัมปทานดิวตี้ฟรี ท่าอากาศยานหลักของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจอย่างกว้างขวาง ณ ขณะนี้

เปิดใจการเข้ามารับตำแหน่ง

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คิงเพาเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากพ้นตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ของ ททท. ก็พักไปนานกว่า 2 ปี ตอนนั้นคิดในใจว่ามีอยู่ 2 ทางเดินที่ต้องเลือก ทางแรก คืออยู่ในหน่วยงานรัฐ ทางที่ 2 คือมาภาคเอกชน โดยมองว่าทางแรกไม่เอาแล้ว จนสุดท้ายก็ตัดสินใจเลือกว่า ต้องอยู่ภาคเอกชน ซึ่งการมาอยู่ภาคเอกชนก็ต้องปฏิบัติตามกฎมาย คือ จะต้องเว้นวรรคจากบริษัทที่เคยมีผลประโยชน์ต่อเนื่อง 2 ปี

“ผมก็ไปดูว่าผมทำงานบริษัทใดได้บ้าง เมื่อไปดูก่อนหน้านี้ช่วงที่อยู่ ทอท. 8 ปี ว่าเคยมีสัญญาอะไรที่เคยเซ็นกับผู้ประกอบการ ทั้งซื้อหลอดไฟซื้อปูนซื้อเหล็กต่าง ๆ รวมแล้วน่าจะมากกว่าหมื่นสัญญาไม่ต่ำกว่า 5,000 บริษัท จึงต้องตกงานไป 2 ปี ผ่านมาแล้วก็เริ่มหางานเมื่อเดือนช่วงก.พ. 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งได้คุยหลายบริษัท และก็ดูข้อเสนอใครที่ดีก็เลือก และได้มาเป็นซีอีโอของคิงพาวเวอร์ วันที่ 4 มิ.ย.2568 ที่ผ่านมา” นายนิตินัย ระบุ

ส่วนข้อครหาว่ามานั่งที่นี่แล้วมีผลประโยชน์ทับซ้อน (Config of interest) อยากให้มองว่า ตั้งแต่ช่วงทำงานอยู่ ทอท. ก็เกี่ยวโยงกับ 5,000 บริษัท ดังนั้นไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็เหมือนกัน และที่ผ่านมาก็ว่างเว้นไป 2 ปีตามกฎหมายแล้ว 

ปมสัญญาสัมปทานดิวตี้ฟรี

นายนิตินัย ยอมรับว่า เรื่องที่เกิดขึ้นต้องดูเป็นแบบเคสบายเคส โดยเฉพาะเรื่องของสัญญาสัมปทานดิวตี้ฟรี บริเวณท่าอากาศยานหลักของ ทอท. เพราะที่ผ่านมาไม่ทราบว่าในช่วง 2 ปีมีอะไรเกิดขึ้นกับคิงพาวเวอร์ บ้าง เช่น กรณีของวงเงินค้ำประกัน (Bank Guarantee) ที่วางไว้เป็นหลักประกันตามหลักเกณฑ์ในสัญญาเป็นอย่างไร

“สิ่งที่กําลังจะบอกคือว่า ไม่แน่ใจว่าผมไม่ได้อยู่มา 2 ปี ผมไม่เห็นตัวเลข จึงไม่ทราบว่าปล่อยอะไรอยู่ 2 ปี เบื้องต้นเห็นตัวเลขอยู่ว่า ถ้าติดหนี้ไปเรื่อย ๆ แล้วถ้าวันดีคืนดีถ้าติดหนี้แล้ว Over Bank Guarantee ใครจะรับผิดชอบ เพราะฉะนั้นวันนี้ปัญหาไม่ได้เกิดแค่ทางฝั่งคิงพาวเวอร์ ฝั่งเดียว แต่เป็นทั้งสองฝั่ง มันอยู่ที่การยืดเวลามาจนโคม่าทั้งคู่”

สำหรับการส่งหนังสือเพื่อขอหารือแนวทางยกเลิกสัญญาร้านสินค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) 3 ท่าอากาศยานในภูมิภาค ได้แก่ ภูเก็ต เชียงใหม่ และหาดใหญ่นั้น มองว่า กรณีดังกล่าวเปรียบได้กับกรณีคนป่วยที่อยู่ได้เพราะมีออกซิเจน โดยเจตนาของบริษัทคือถามไปที่ ททท.ว่า ช่วยถอดออกซิเจนให้หน่อย เพราะไม่ไหวแล้ว ซึ่งนี่คือสัญญาณที่ส่งไป แต่ก็ได้อธิบายรายละเอียดว่า สามารถช่วยได้เพราะตัวเองมีอาการอะไรบ้าง และมีความหวังว่าจะช่วยรักษาได้

ทั้งนี้ยอมรับว่า ที่ผ่านมาในการยื่นข้อเสนอไปแต่ละครั้ง มักเป็นกรณีของการขอนโยบายเยียวยาช่วยเหลือเป็นหลัก เพื่อให้ททท.พิจารณาแนวทางช่วยเหลือ แต่หนังสือครั้งล่าสุดที่ส่งไป แตกต่างกันเพราะเป็นการแจ้งขอหารือแนวทางยกเลิกสัญญา หากทอท. พิจารณาแล้วเห็นด้วยก็จบ และบริษัทจะไปหาทางดำเนินธุรกิจอื่น ๆ ต่อไป เพราะถ้าปล่อยไปเรื่อย ๆ ต้นทุนที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบันจะส่งผลกระทบต่อบริษัทอย่างต่อเนื่องแน่นอน

“ตั้งแต่เข้ามาเริ่มต้นทำงานที่นี่ได้เริ่มอ่านงบการเงินบริษัท และตอนนี้อยู่ในฐานะที่เราจะพูดอะไร เพราะเราเราบอกว่าเราไม่ไหว และขอให้ทอท.ช่วยหน่อย แล้วเราก็จะฟัง ถ้าเงื่อนไขมาแล้วเราทำกําไรไม่ได้เราก็เลิก แต่ถ้าเป็นเงื่อนไขมาแต่เราอยู่ด้วยกันได้ก็เอา ซึ่งตอนนี้คงต้องรอฟังว่า จะทำยังไงให้เราประคองอยู่ต่อกันได้” นายนิตินัย ระบุ

รอลุ้นผลการพิจารณาข้อเสนอ

สำหรับเงื่อนไขที่บริษัทต้องการอยากเห็น นายนิตินัย เชื่อว่า มีเงื่อนไขมันมากมาย แต่ก็ต้องรอการพิจารณาก่อนว่าจะออกมาเป็นอย่างไร หรือเงื่อนไขลดลงมากแค่ไหน ก็ต้องรอความชัดเจนก่อน โดยบริษัทอยากเห็นแนวโน้มที่ดีว่าให้การดำเนินธุรกิจอยู่ต่อ

ส่วนรายละเอียดของสัญญาสัมปทานที่ทอท.ทํากับคิงเพาเวอร์ ปัจจุบันนั้น เห็นว่า เดิมทีในช่วงที่มีการกำหนดวงเงินผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายปี (Minimum Guarantee) อยู่ภายใต้ข้อสมมุติฐานต่าง ๆ โดยขอให้ศัพท์เทคนิคที่เรียกว่า พารามิเตอร์ ตัวพารามิเตอร์จะใช้ไปคํานวณ แต่ตอนนี้ไม่มีผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ เพราะว่าสมมติฐานตอนคํานวณวันนั้นมีอะไรผิดพลาด โดยเฉพาะกรณีการเกิดการแพร่ระบาดของโควิด เป็นต้น

“การผิดพลาดดังกล่าวก่อนหน้าในอดีตก็ต้องดูว่าเป็นการผิดพลาดจากฝั่งไหน โดยดูผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำใครสูงกว่ากัน และต้องแก้ให้เกิดความเป็นธรรมภายใต้บริบทที่เปลี่ยนด้วย ซึ่งรายละเอียดในหนังสือของคิงเพาเวอร์ 7 ประเด็น ก็เป็นพารามิเตอร์ต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป และต้องปรับปรุงด้วย” นายนิตินัย ระบุ

อย่างไรก็ตามมองว่าในขั้นตอนต่อจากนี้ เชื่อว่า ทอท. จะพิจารณารายละเอียดในหนังสือของคิงเพาเวอร์ ได้ระบุถึง 7 ประเด็นสำคัญที่กระทบต่อธุรกิจ และน่าจะมีการจ้างที่ปรึกษาเพื่อพิจารณาข้อมูลทั้งหมด

พบทอท.แค่ขยายความ-ไม่ใช่เจรจา

นายนิตินัย ยังเล่าถึงการเข้าไปหารือร่วมกับ ทอท. ล่าสุด ว่า ทอท.ได้เชิญคิงเพาเวอร์ เข้าไปหารือและรับฟังเงื่อนไขต่าง ๆ ที่ทางบริษัทได้เสนอเข้าไปก่อนหน้านี้ เพื่อขอให้ขยายความรายละเอียดของเงื่อนไขทั้งหมดว่าเป็นอย่างไร โดยไม่ใช่เวทีการเจรจาเรื่องของสัญญา 

ส่วนขั้นตอนต่อจากนี้เท่าที่ทราบกระบวนการผู้บริหารแต่ละบอร์ดจะมีการดำเนินงานต่างกัน โดยมีคณะกรรมการกลั่นกรองรับเรื่องก่อน แล้วจึงก็เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการรายได้ จากนั้นจึงเสนอบอร์ดใหญ่ ซี่งก็ได้รับทราบว่าทางทอท.ก็น่าจะตั้งที่ปรึกษาเข้ามาดูเรื่องนี้ และคงอยู่ในระยะเวลาที่กำหนดไว้ 60 วัน 

ขณะที่ประเด็นที่มีออกมาก่อนหน้านี้ว่า บริษัทต้องการอยากให้หยุดเรื่องของการค่าเช่าพื้นที่เอาไว้ก่อนนั้น ยอมรับว่า เรื่องของการบริหาร ซึ่งจากการตรวจสอบกระแสเงินสด (Cash flow) ของบริษัทก็เห็นว่าน่ากังวล โดยตัวเลขที่เสนอไปมีเดิมพันเกี่ยวกับการบริหารกระแสเงินสดด้วย และการดำเนินการก็ไม่อยากให้มีผลกระทบต่อพนักงานบริษัท ซึ่งขณะนี้ตัวเลขของหนี้สินบริษัท ยอมรับว่า ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียด เพราะมีอยู่หลายบัญชี

มองธุรกิจ Disrupt หรือ Cycle

ทั้งนี้ในกรณีที่เกิดการยกเลิกสัญญาแล้ว คิง เพาเวอร์ จะไปดำเนินธุรกิจอะไรต่อ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มองว่า จะต้องมองธุรกิจให้ชัดว่าเป็นอย่างไร คือ ถ้าเป็นขาลงต่อไปก็เป็นขาขึ้น แต่ถ้าการขาลงรอบนี้ เป็น Disrupt หรือการล่มสลาย จะวิกฤตแน่นอน เพราะช่วงต่อไปมีความหมายว่า เป็นการหายสาบสูญไปจากธุรกิจ 

“การทำธุรกิจจะแตกต่างกัน ถ้าธุรกิจที่เป็นขาขึ้นที่เป็น Cycle เราก็มีวิธีการอัดทรัพยากรการขาดแคลนเข้าไป แต่ธุรกิจขาลง คือการเอาตัวเองออกจากอุตสาหกรรมนั้น คําถามตอนนี้เงื่อนไขการดำเนินธุรกิจปัจจุบันมันเป็นเงื่อนไขของ Disrupt หรือ Cycle โดยเงื่อนไขวันที่เสนอไป ทอท. ถือเป็นเงื่อนไขของการล่มสลายของทั้งคู่ เราเลยรอฟังว่าถ้ามันไปไหว เดี๋ยวแผนธุรกิจเรามีที่จะฟื้นฟูไปด้วยกัน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ระบุ

สำหรับแผนธุรกิจก็มาดูว่า การล่มสลายเนี่ยมันเกิดจากอะไรบ้างแล้วก็วางแผนรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น โดยทุกธุรกิจที่เจอปัจจัยล่มสลาย เช่น การเกิดโควิด ก็ต้องมีการปรับโครงสร้าง โดยสิ่งที่เราต้องดูคือตอนนี้คือการเข้าไปดูสภาพคล่องของบริษัททั้งหมดเป็นอย่างไร โครงสร้างพนักงานเป็นอย่างไร เงื่อนไข Disruption คืออะไร แล้วค่อย ๆ อุดตรงนี้ก่อน

“แผนธุรกิจต่อจากนี้คือเราจะไม่เป็นผู้ตามตลาด เพราะ Next Move ไม่ได้วัดกันที่ความเหนือชั้นในการทำรูปแบบเดิม ๆ เช่น การนำเสนอภาพวีดีโอต้องละเอียดแข่งกันให้มากที่สุด แต่ความสำเร็จคือการอ่านโลกให้ขาด เพราะโลกเปลี่ยนไปเรียบร้อยแล้ว ครั้งนี้ถ้าไม่มี Disrupt ก็เชื่อว่า บริษัทจะเป็นผู้นำในด้านนี้ ก็ขอให้คอยดูว่าอะไรทำในวันนี้เราจะไม่ทำ แต่เราจะทำในสิ่งที่คนอื่นเขาไม่ทะในอีก 2 ปีข้างหน้า” CEO คิง เพาเวอร์ กล่าวทิ้งท้าย