ด่วน “ประกันรายได้ยางพารา” เคาะราคาแล้วทีเดียว 2 งวด

ความคืบหน้า “ประกันรายได้ยางพารา” เฟส 4 หรือ "โครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 4”  ตามมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 เห็นชอบให้ดำเนินการโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่4  ใช้วงเงินรวมงบประมาณทั้งสิ้น วงเงิน 7,643.86 ล้านบาท มีระยะเวลาโครงการตั้งแต่เดือนมกราคม – กันยายน 2566 ระยะเวลาประกันรายได้รวม 2 เดือน คือ ตุลาคม – พฤศจิกายน 2565

คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ ต้องเป็นเกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนกับการยางแห่งประเทศไทย ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2565 และเป็นเกษตรกรที่ปลูกยางในพื้นที่มีเอกสารสิทธิเท่านั้น ซึ่งมีประมาณ 1.6 ล้านคน รวมพื้นที่สวนยางกรีดได้ 18.18 ล้านไร่ ส่วนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขอื่น ๆ ยังคงเดิม อาทิ

 1.เป็นสวนยางอายุ 7 ปีขึ้นไปที่เปิดกรีดแล้ว รายละไม่เกิน 25 ไร่

2.ราคายางที่ประกันรายได้ มีดังนี้ ยางแผ่นดิบคุณภาพดี 60 บาท/กิโลกรัม น้ำยางสด (DRC 100%) 57 บาท/กิโลกรัม และยางก้อนถ้วย (DRC 50%) 23 บาท/กิโลกรัม แบ่งสัดส่วนรายได้ เจ้าของสวน ร้อยละ 60 และคนกรีดร้อยละ 40 ของเงินค่าประกันรายได้ สำหรับการดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยางที่ผ่านมา 3 ระยะ เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562 วงเงินสะสมโครงการรวมทั้งสิ้น 46,682.88 ล้านบาท สามารถช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางได้เฉลี่ยปีละ 1.4 ล้านคน
 

วันที่ 4 เมษายน 2566 นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า วันนี้ มีการเคาะราคา "ประกันรายได้ยางพารา" 2 งวด พร้อมกันเลย รวม 2 เดือน คือ ตุลาคม – พฤศจิกายน 2565  โดยแบ่งสัดส่วนรายได้ เจ้าของสวน ร้อยละ 60 และคนกรีด ร้อยละ 40 ของรายได้ทั้งหมด รายละไม่เกิน 25 ไร่ โดยกำหนดราคาประกันรายได้ ดังนี้

"ยางแผ่นดิบคุณภาพดี" ราคา 60 บาท/กิโลกรัม

"น้ำยางสด" (DRC 100%) ราคา  57 บาท/กิโลกรัม

"ยางก้อนถ้วย" (DRC 50%) ราคา 23 บาท/กิโลกรัม

นายณกรณ์ กล่าวว่า ในโครงการ "ประกันรายได้ยางพารา" เฟส 4

 งวดที่ 1 ราคา "เดือนตุลาคม" ประจำปี 2565 จ่ายชดเชยกว่า 2,673 ล้านบาท

• "ยางแผ่นดิบ" จ่ายชดเชย  11.59 บาท/กิโลกรัม
• "น้ำยางสด" จ่ายชดเชย  12.23  บาท/กิโลกรัม
• "น้ำยางก้อนถ้วย"  จ่ายชดเชย 1.95 บาท/กิโลกรัม

งวดที่ 2 "เดือนพฤศจิกายน" ประจำปี 2565 จ่ายชดเชย 4,025 ล้านบาท

• "ยางแผ่นดิบ" จ่ายชดเชย 15.25 บาท/กิโลกรัม
• "น้ำยางสด" จ่ายชดเชย 15.1  บาท/กิโลกรัม
• "น้ำยางก้อนถ้วย" จ่ายชดเชย 4.06 บาท/กิโลกรัม 

นายณกรณ์ กล่าวด้วยว่า โครงการนี้มีเป้าหมายหลักเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง ในช่วงที่ราคายางผันผวน ซึ่งรัฐบาลมีความห่วงใยและให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือเกษตรกร จึงมอบหมายให้การยางแห่งประเทศไทย ดำเนินโครงการประกันรายได้มาแล้ว 3 ระยะ ตั้งแต่ตุลาคม 2562 วงเงินรวมทั้งสิ้น 46,682.88 ล้านบาท บรรเทาความเดือดร้อนและผลกระทบในการดำเนินชีวิตของเกษตรกรได้โครงการประกันรายได้ เฟส 4 จะเริ่มจ่ายเงินถึงมือเกษตรกรชาวสวนยางได้ในเร็วๆ นี้

นอกจากนี้ ครม. ยังอนุมัติโครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบกิจการไม้ยางและผลิตภัณฑ์ ระยะที่ 2 ระยะเวลาโครงการ 2 ปี นับจากวันที่ ครม. อนุมัติโครงการฯ โดยรัฐบาลสนับสนุนชดเชยดอกเบี้ยในอัตราตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกินร้อยละ 3 ต่อปี จำนวนไม่เกิน 600 ล้านบาท จากวงเงินกู้ 20,000 ล้านบาท ให้แก่กิจการไม้ยางและผลิตภัณฑ์ ภายใต้เงื่อนไขรับซื้อไม้ยางราคาไม่ต่ำกว่า 1,500 บาท/ตัน ทั้งนี้กำหนดระยะเวลาในการชดเชยดอกเบี้ยตามโครงการ 1 ปี แต่ชดเชยไม่เกินระยะเวลาดำเนินโครงการฯ

อนึ่ง เกษตรกรชาวสวนยาง สามารถตรวจสอบข้อมูลการลงทะเบียน และตรวจสอบสิทธิประกันรายได้ยางพารา เฟส 4 ได้ที่ https://www.raot.co.th/gir/index/ 

 สามารถตรวจตรวจสอบสถานะการโอนเงินได้ ลิงค์ ของ ธ.ก.ส https://chongkho.inbaac.com/ ตลอด 24 ชั่วโมง เงินเข้าหรือยัง แต่ถ้ามีปัญหาขอให้สอบถามได้ที่ กยท. หรือ ธ.ก.ส. สาขาใกล้บ้าน