“พฤกษา” ร่วมทุนสตาร์ทอัพดังสิงคโปร์ รุกเฮลท์เทค

02 ส.ค. 2565 | 09:10 น.

พฤกษา รุกเฮลท์เทคร่วมลงทุน “AMILI” สตาร์ทอัพสิงคโปร์ ต่อยอดให้บริการโรงพยาบาลวิมุต – เทพธารินทร์ ชูนวัตกรรมใหม่ทางการแพทย์ “ไมโครไบโอมในระบบทางเดินอาหาร” เทคโนโลยีไขความลับปัญหาด้านสุขภาพ

นายอุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า บริษัทเข้าร่วมลงทุนใน AMILI บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพด้านจุลชีพในลำไส้ที่มีความแม่นยำมากที่สุดแห่งแรกและแห่งเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หวังต่อยอดนำเทคโนโลยีมาใช้ ยกระดับบริการของโรงพยาบาลวิมุต และโรงพยาบาลเทพธารินทร์

 

พร้อมศึกษาร่วมการก่อตั้งห้องปฏิบัติการวิจัยไมโครไบโอมในระบบทางเดินอาหารแห่งแรกของไทย เพราะการตรวจเชื้อจุลชีพในลำไส้เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์แนวใหม่ ที่จะช่วยไขความลับและป้องกันการเกิดปัญหาด้านสุขภาพเชิงรุกก่อนการเกิดโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถูกต้อง รวดเร็วและแม่นยำ  

 

“การร่วมลงทุนในธุรกิจเฮลท์เทคในต่างประเทศเป็นหนึ่งในแนวทางพัฒนาธุรกิจของพฤกษาในด้านนวัตกรรมเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพโดยใช้แนวทาง Outside-in Innovation ที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็วเพราะเกิดการผสานความร่วมมือระหว่างกันในทันทีทั้งความรู้ด้านวิชาการและโนฮาว 

 

สำหรับการร่วมลงทุนใน AMILI  พฤกษาคาดหวังในระยะยาวเพื่อนำนวัตกรรมด้านการแพทย์ระดับโลกมาสนับสนุนและเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการด้านสุขภาพของกลุ่มธุรกิจเฮลท์แคร์ภายใต้การดำเนินงานของโรงพยาบาลวิมุตและเทพธารินทร์ด้วย

อุเทน โลหชิตพิทักษ์

ทั้งนี้ AMILI  เป็นบริษัทวิจัยผู้เชี่ยวชาญด้านจุลชีพต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่ภายในระบบทางเดินอาหารของมนุษย์ หรือเรียกว่า ไมโครไบโอมในระบบทางเดินอาหาร (Gut Microbiome) ซึ่งเป็นบริษัทที่มีคลังข้อมูลและตัวอย่างไมโครไบโอมที่มีกลุ่มชาติพันธุ์หลากหลายเชื้อชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก

 

รวมถึงเป็นธนาคารไมโครไบโอมเพียงแห่งเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีเครื่องมือวิเคราะห์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทที่เรียกว่า “AMILI PRIME” ที่ทำให้พัฒนาการทดสอบ การวินิจฉัย ทำนายอัลกอริธึม และการแทรกแซงการปรับเปลี่ยนไมโครไบโอมได้อย่างแม่นยำ

 

เพราะจุลินทรีย์ในลำไส้ สำคัญต่อสุขภาพโดยรวมของมนุษย์ มีหน้าที่ในการดูดซึมและใช้พลังงานจากอาหารและสร้างสารประกอบที่สำคัญ เช่น สารสื่อประสาท เอนไซม์ และวิตามิน สารประกอบเหล่านี้มีความจำเป็นต่อการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกายทั้ง สมอง ลำไส้  หัวใจและหลอดเลือด รวมถึงระบบเมตาบอลิซึม และระบบสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย 

 

การตรวจเชื้อจุลชีพในระบบทางเดินอาหาร จึงเป็น Medical Technology หรือนวัตกรรมทางการแพทย์ ที่เน้นการป้องกันการเกิดโรค ซึ่งอาจสามารถลดค่าใข้จ่าย และส่งเสริมการดูแลสุขภาพในระยะยาวได้ดีกว่าการรักษาเมื่อเกิดอาการเจ็บป่วย และเนื่องจากเทรนด์ปัจจุบัน ที่ผู้คนให้ความสนใจดูแลสุขภาพ ดังนั้นมูลค่าตลาดสำหรับธุรกิจด้านสุขภาพที่ป้องกันก่อนการเกิดโรค จึงกำลังเติบโตสูงขึ้นเรื่อยๆ 

“พฤกษา” ร่วมทุนสตาร์ทอัพดังสิงคโปร์  รุกเฮลท์เทค

AMILI เชี่ยวชาญด้านการวิจัยและรักษาด้วยไมโครไบโอมในระบบทางเดินอาหารอย่างครบวงจร เริ่มตั้งแต่การให้บริการตรวจเช็คไมโครไบโอมในระบบทางเดินอาหาร ไปจนถึงการปรับสภาพลำไส้ ด้วยการจัดจุลินทรีย์โพรไบโอติคชนิดที่เหมาะกับสภาพลำไส้ของแต่ละบุคคล ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาด้านสุขภาพ อาทิ นอนไม่หลับ น้ำหนักสูง เบาหวาน คอเรสเตอรอล และ การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้ด้วย เป็นต้น

 

ปัจจุบัน โรงพยาบาลวิมุตและโรงพยาบาลเทพธารินทร์ ซึ่งเป็นธุรกิจภายใต้กลุ่มพฤกษา กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อจัดตั้งห้องปฏิบัติการวิจัยภายใต้ความร่วมมือกับ AMILI โดยจะเป็นห้องปฏิบัติการวิจัยด้านไมโครไบโอมในระบบทางเดินอาหาร (Gut Microbiome) แห่งแรกของไทย ซึ่งจะช่วยยกระดับบริการทางการแพทย์ทั้งในด้านวิชาการและกระบวนการใหม่ในการป้องกันและรักษาโรค  

 

พร้อมกับมีแผนวิจัยเพื่อต่อยอดความรู้เชิงวิชาการในระดับเอเชีย เพื่อศึกษาไมโครไบโอมในระบบทางเดินอาหารของกลุ่มตัวอย่างในคนไทยเป็นครั้งแรก โดยความร่วมมือจากแพทย์จากทั้ง 3 สถาบัน ได้แก่ โรงพยาบาลวิมุต โรงพยาบาลเทพธารินทร์ และ AMILI    เพื่อนำผลวิจัยมาใช้พัฒนาการรักษาโรคต่างๆ และผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับคนไทยโดยเฉพาะ 

“พฤกษา” ร่วมทุนสตาร์ทอัพดังสิงคโปร์  รุกเฮลท์เทค

ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างพัฒนาอาหารเสริมโพรไบโอติค ( Probiotics) เพื่อต่อยอดในการเสริมการรักษาโรคทางเดินอาหาร ลำไส้แปรปรวน และ โรคอ้วน นอกจากนี้โรงพยาบาลวิมุตมีแผนสร้างศูนย์ทางเดินอาหารแบบครบวงจร (GI Excellence Center)  ที่จะนำเทคโนโลยีการตรวจต่างๆจาก AMILI  มาใช้สนับสนุนด้วย

  

 สำหรับการลงทุนร่วมใน AMILI สตาร์ทอัพสัญชาติสิงคโปร์ในครั้งนี้  พฤกษาได้ผนึกความร่วมมือด้านการลงทุนกับกลุ่มนักลงทุนชั้นนำในต่างประเทศที่เล็งเห็นศักยภาพและการเติบโตของธุรกิจเฮลท์เทค โดยวงเงินลงทุนรวมที่ AMILI ได้รับในรอบการระดมทุนซีรีส์เออยู่ที่ 10.5 ล้านเหรียญสหรัฐ

 

โดยจะนำไปใช้ในการเร่งผลักดันการศึกษาวิจัยใหม่ด้านไมโครไบโอมในระบบทางเดินอาหาร และพัฒนาเครื่องมือวิเคราะห์ไมโครไบโอม  “AMILI PRIME” ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท AMILI ซึ่งมีความแม่นยำสูง มีประสิทธิภาพในการทดสอบ การวินิจฉัย รวมถึงเพื่อขยายบริการไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อย่างกว้างขวาง ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น  และต่อยอดไปยังทวีปเอเชียในอนาคตด้วย

 

“เรามุ่งหวังผลของการลงทุนคือนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ด้านการดูแลสุขภาพ นำมาให้บริการลูกบ้านพฤกษา ลูกค้าโรงพยาบาลวิมุต และคนไทยทุกคน เพราะเป้าหมายในการดำเนินงานของพฤกษามีความชัดเจนในการมุ่งสร้างฐานธุรกิจหลักทั้งสองส่วนคืออสังหาริมทรัพย์และเฮลท์แคร์ให้มีความเข้มแข็ง”