ราชกิจจานุเบกษาออกประกาศมาตรการผ่อนคลายเข้า-ออกประเทศ มีผล 1 ก.ค.65

24 มิ.ย. 2565 | 07:57 น.

ราชกิจจานุเบกษา ออกประกาศมาตรการผ่อนคลายการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย มีผลวันที่ 1 กรกฏาคม 2565 มีขั้นตอน-เงื่อนไขอย่างไรเช็ครายละเอียดที่นี่

ราชกิจจานุเบกษา ออกประกาศ คําสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ 13/2565 เรื่อง แนวปฏิบัติตามข้อกําหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 27) มีคําสั่งให้หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินและพนักงานเจ้าหน้าที่ ดําเนินการให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคให้สอดคล้องกับสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ให้ยกเลิกการรับลงทะเบียนการเดินทางเข้าราชอาณาจักรสําหรับผู้เดินทางเข้ามา ในราชอาณาจักรทุกประเภท ของคําสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (โควิด - 19) ที่ 11/2565 เรื่อง แนวปฏิบัติตามข้อกําหนดออกตามความในมาตรา 9  แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 26) ลงวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

 

ข้อ 2 ให้ยกเลิกหลักเกณฑ์การดําเนินการในสถานที่กักกันซึ่งทางราชการกําหนด ตามข้อ 2 ของมาตรการป้องกันโรคสําหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรและหลักเกณฑ์การดําเนินการ ในสถานที่กักกันซึ่งทางราชการกําหนดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 แนบท้ายคําสั่ง ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ที่ 11/2565 ลงวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

 

ข้อ 3 ให้ปรับมาตรการป้องกันโรคสําหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรทุกประเภท ของคําสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ที่ 11/2515 เรื่อง แนวปฏิบัติตามข้อกําหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 26 ) ลงวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 ตามแนบท้ายคําสั่งนี้

 

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคําสั่งเปลี่ยนแปลง เป็นอย่างอื่น

 

ราชกิจจานุเบกษาออกประกาศมาตรการผ่อนคลายเข้า-ออกประเทศ มีผล 1 ก.ค.65 ราชกิจจานุเบกษาออกประกาศมาตรการผ่อนคลายเข้า-ออกประเทศ มีผล 1 ก.ค.65

รายละเอียดมาตรการป้องกันโรคสําหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรและหลักเกณฑ์การดําเนินการในสถานที่กักกันซึ่งทางราชการกําหนดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 มีดังนี้

 

  • มาตรการป้องกันโรคสําหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร

 

1. ผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งแสดงหลักฐานหรือเอกสารรับรองการได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด - 19 ครบตามเกณฑ์ที่ผู้ผลิตวัคซีนหรือที่ทางราชการกําหนด (Vaccinated Persons)มาตรการป้องกันโรค มาตรการก่อนเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร

 

๑) ให้มีหลักฐานหรือเอกสารที่ใช้ในการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้

 

  • หนังสือเดินทาง (Passport) หรือหลักฐานเอกสารที่ราชการกําหนด
  • บัตรผ่านแดน (Border Pass)
  • หนังสือแสดงการเป็นผู้ควบคุมยานพาหนะหรือเจ้าหน้าที่ประจํายานพาหนะ พร้อมระบุเวลาที่จะเข้าและออกราชอาณาจักร และความจําเป็นที่ต้องเดินทางเข้ามาตามภารกิจ
  •  เอกสารที่ยืนยันหรือแสดงว่ามีนายจ้างหรือผู้รับอนุญาตให้นําคนต่างด้าวเข้ามาทํางานในราชอาณาจักรที่ได้รับการรับรองโดยกระทรวงแรงงานเพื่อเข้ามาทํางานใน ราชอาณาจักรตามบันทึกความตกลงหรือบันทึกความเข้าใจที่รัฐบาลไทยทําไว้กับรัฐบาลต่างประเทศ หรือแนวปฏิบัติกรณีแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทํางานในราชอาณาจักรตามมาตรา ๖๔ แห่งพระราชกําหนดการบริหารจัดการการทํางานของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๖๐ ที่กระทรวงแรงงานกําหนด

 

๒.ให้มีหลักฐานหรือเอกสารรับรองการได้รับวัคซีน (Certificate of Vaccination) ดังนี้

 

2.1 กรณีผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรมีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ให้มีหลักฐานหรือเอกสารรับรองการได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ที่ผู้ผลิตวัคซีนหรือที่ทางราชการกําหนด โดยต้องเป็นวัคซีนที่ได้รับการขึ้นทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยยาหรือได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลกหรือตามที่กระทรวงสาธารณสุขกําหนดเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 14 วัน ก่อนออกเดินทาง

 

2.2 กรณีผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรมีอายุตั้งแต่ 5 ปีบริบูรณ์ แต่ยังไม่ครบ 18 ปีบริบูรณ์ให้มีหลักฐานหรือเอกสารรับรองการได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็ม โดยต้องเป็นวัคซีน ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยยาหรือได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลกหรือตามที่กระทรวงสาธารณสุขกําหนด เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 15 วันก่อนออกเดินทาง

 

2.3 กรณีผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรมีอายุยังไม่ครบ 18 ปีบริบูรณ์และได้เดินทางมาพร้อมกับผู้ปกครองหรือผู้ดูแลไม่ต้องมีหลักฐานหรือเอกสารรับรองดังกล่าว มาตรการเมื่อเดินทางถึง/ระหว่างอยู่ในราชอาณาจักร

 

  • ให้ยื่นเอกสารหรือแสดงหลักฐานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ รวมถึงการดําเนินพิธีการตรวจคนเข้าเมือง แล้วแต่กรณี ณ ช่องทางเข้าออกระหว่างประเทศหรือ พื้นที่ที่ทางราชการกําหนด ก่อนเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร

 

  • กรณีผู้เดินทางที่ไม่มีสัญชาติไทยและเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ณ ช่องทางเข้าออกระหว่างประเทศทางบกเฉพาะจุดผ่านแดนถาวร (International Point of Entry) ที่ใช้บัตร ผ่านแดน (Border Pass) ในการเดินทางให้สามารถพํานักอยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกิน ๓ วัน และให้เดินทางได้เฉพาะพื้นที่ตามที่ได้ตกลงกันไว้ตามความตกลงว่าด้วยการข้ามแดน ระหว่างประเทศ

 

  •  ในระหว่างที่อยู่ในราชอาณาจักร ให้ผู้เดินทางปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขที่ทางราชการกําหนดอย่างเคร่งครัด และขอความร่วมมือให้ผู้เดินทางตรวจหาเชื้อโรคโควิด - 19 โดยชุดตรวจและน้ํายาที่เกี่ยวข้องกับการวินิจฉัยการติดเชื้อ SARS - CoV - 2 (เชื้อก่อโรค COVID - 19) แบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง (Antigen Self - Test Kit หรือ ATK) ทั้งนี้ในกรณีผลการตรวจหาเชื้อโรคโควิด - 19 พบว่าผู้เดินทางมีเชื้อโรคโควิด - 19 ให้ผู้เดินทางดําเนินการหรือเข้ารับการตรวจหรือดูแลรักษาพยาบาลตามแนวทางที่กระทรวง สาธารณสุขกําหนด โดยให้ผู้เดินทาง ต้นสังกัด นายจ้าง หรือผู้ได้รับอนุญาตให้นําคนต่างด้าวเข้ามาทํางานในราชอาณาจักร แล้วแต่กรณี เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการตรวจหรือ รักษาพยาบาลทั้งหมด หรือให้เป็นไปตามสิทธิ์ในการตรวจหรือการรักษาพยาบาลตามที่กฎหมายบัญญัติ

 

มาตรการก่อนเดินทางออกนอกราชอาณาจักร -ไม่มี

 

2.ผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งมิได้แสดงหลักฐานหรือเอกสารรับรองการได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด - 19 ครบตามเกณฑ์ที่ผู้ผลิตวัคซีนหรือที่ทางราชการกําหนด (Unvaccinated/Not Fully Vaccinated Persons)

 

มาตรการป้องกันโรค มาตรการก่อนเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร

 

๑) ให้มีหลักฐานหรือเอกสารที่ใช้ในการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้

 

  • หนังสือเดินทาง (Passport) หรือหลักฐานเอกสารที่ราชการกําหนด
  •  บัตรผ่านแดน (Border Pass)
  •  หนังสือแสดงการเป็นผู้ควบคุมยานพาหนะหรือเจ้าหน้าที่ประจํายานพาหนะ พร้อมระบุเวลาที่จะเข้าและออกราชอาณาจักร และความจําเป็นที่ต้องเดินทางเข้ามาตามภารกิจ
  • เอกสารที่ยืนยันหรือแสดงว่ามีนายจ้างหรือผู้รับอนุญาตให้นําคนต่างด้าวเข้ามาทํางานในราชอาณาจักรที่ได้รับการรับรองโดยกระทรวงแรงงานเพื่อเข้ามาทํางานในราชอาณาจักร ตามบันทึกความตกลงหรือบันทึกความเข้าใจที่รัฐบาลไทยทําไว้กับรัฐบาลต่างประเทศ หรือแนวปฏิบัติกรณีแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทํางานในราชอาณาจักรตามมาตรา 64 แห่งพระราชกําหนด การบริหารจัดการการทํางานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 ที่กระทรวงแรงงานกําหนด

 

มาตรการเมื่อเดินทางถึง/ระหว่างอยู่ในราชอาณาจักร

 

 ๑) ให้ยื่นเอกสารหรือแสดงหลักฐานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ รวมถึงการดําเนินพิธีการตรวจคนเข้าเมือง แล้วแต่กรณี ณ ช่องทางเข้าออกระหว่างประเทศ หรือพื้นที่ที่ทางราชการกําหนด ก่อนเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร

 

 ๒) กรณีผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรที่ไม่มีหลักฐานหรือเอกสารรับรองการตรวจทางห้องปฏิบัติการที่ยืนยันว่าผู้เดินทางไม่มีเชื้อโรคโควิด - 19 โดยวิธี RT - PCR (Laboratory result indicating that COMD - 19 is not detected by RT- PCR) หรือโดยวิธีการตรวจหาเชื้อโรคโควิด - 19 โดยชุดตรวจและน้ํายาที่เกี่ยวข้องกับการวินิจฉัยการติดเชื้อ SARS - CoV - 2 (เชื้อก่อโรค COVID - 19) แบบตรวจหาแอนติเจนสําหรับใช้โดยบุคลากรทางการแพทย์ (ATK Professional Use) โดยมีระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนการเดินทางทางอากาศหรือ ทางบก หรือก่อนเดินทางจากจุดที่มีการจอดเทียบท่าเป็นครั้งสุดท้าย (Last port)

 

ก่อนเข้ามาในราชอาณาจักรสําหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ณ ช่องทางเข้าออกระหว่าง ประเทศทางน้ํา ให้ผู้เดินทางปฏิบัติตามคําสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่ออย่างเคร่งครัดภายใต้หลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามที่กระทรวงสาธารณสุขกําหนด โดยให้ผู้เดินทาง ต้นสังกัด นายจ้าง หรือผู้ได้รับอนุญาตให้นําคนต่างด้าวเข้ามาทํางานในราชอาณาจักร แล้วแต่กรณี เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการตรวจหรือรักษาพยาบาลทั้งหมด หรือให้เป็นไปตาม สิทธิในการตรวจหรือการรักษาพยาบาลตามที่กฎหมายบัญญัติ

 

๓) กรณีผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรที่มีหลักฐานหรือเอกสารรับรองการตรวจทางห้องปฏิบัติการที่ยืนยันว่าผู้เดินทางไม่มีเชื้อโรคโควิด - 19 โดยวิธี RT - PCR (Laboratory result indicating that COVID - 19 is not detected by RT - PCR) หรือโดยวิธีการตรวจหาเชื้อโรคโควิด - 19 โดยชุดตรวจและน้ำยาที่เกี่ยวข้องกับการวินิจฉัยการติดเชื้อ SARS - CoV - 2 (เชื้อก่อโรค COVID - 19) แบบตรวจหาแอนติเจนสําหรับใช้โดยบุคลากรทางการแพทย์ (ATK Professional Use) โดยมีระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนการเดินทางทางอากาศหรือทางบก

 

หรือก่อนเดินทางจากจุดที่มีการจอดเทียบท่าเป็นครั้งสุดท้าย (Last port) ก่อนเข้ามาในราชอาณาจักรสําหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ณ ช่องทางเข้าออกระหว่าง ประเทศทางน้ำ ให้ผู้เดินทางสามารถเดินทางในราชอาณาจักรได้โดยให้ปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขที่ทางราชการกําหนดอย่างเคร่งครัดตลอดเวลาที่อยู่ในราชอาณาจักร

 

ทั้งนี้ในกรณีผู้เดินทางเป็นผู้ขนส่งสินค้าตามความจําเป็นให้นํายานพาหนะไปจอดและขนส่งสินค้า ณ จุดที่กําหนดไว้เท่านั้น โดยให้เดินทางออกนอกราชอาณาจักรทันทีเมื่อขนส่งสินค้า เสร็จสิ้นแล้ว ทั้งนี้ ต้องไม่เกิน 7 ชั่วโมงนับแต่ยานพาหนะนั้นออกจากช่องทางเข้าออกระหว่างประเทศไปยังจุดขนส่งสินค้า กรณีมีความจําเป็นที่ไม่สามารถปฏิบัติตามได้ ให้พนักงาน เจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อเป็นผู้พิจารณาตามสมควรแก่กรณี

 

๔) ในระหว่างที่อยู่ในราชอาณาจักร ให้ผู้เดินทางปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขที่ทางราชการกําหนดอย่างเคร่งครัด และขอความร่วมมือให้ผู้เดินทางตรวจหาเชื้อโรคโควิด - 19 โดยชุดตรวจและน้ํายาที่เกี่ยวข้องกับการวินิจฉัยการติดเชื้อ SARS - CoV - 2 (เชื้อก่อโรค COVID - 19) แบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง (Antigen Self - Test Kit หรือ ATK)

 

ทั้งนี้ในกรณีผลการตรวจหาเชื้อโรคโควิด - 19 พบว่าผู้เดินทางมีเชื้อโรคโควิด - 19 ให้ผู้เดินทางดําเนินการหรือเข้ารับการตรวจหรือดูแลรักษาพยาบาลตามแนวทางที่กระทรวง สาธารณสุขกําหนด โดยให้ผู้เดินทาง ต้นสังกัด นายจ้าง หรือผู้รับอนุญาตให้นําคนต่างด้าวเข้ามาทํางานในราชอาณาจักร แล้วแต่กรณี เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการตรวจหรือ รักษาพยาบาลทั้งหมด หรือให้เป็นไปตามสิทธิ์ในการตรวจหรือการรักษาพยาบาลตามที่กฎหมายบัญญัติ

 

มาตรการก่อนเดินทางออกจากราชอาณาจักร -ไม่มี

 

3. ผู้มีเหตุยกเว้นหรือเป็นกรณีที่นายกรัฐมนตรีหรือหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินกําหนด อนุญาต หรือเชิญให้เข้ามาในราชอาณาจักรตามความจําเป็นมาตรการป้องกันโรค มาตรการก่อนเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร

 

๑) ให้มีหลักฐานหรือเอกสารรับรองการได้รับวัคซีน (Certificate of Vaccination) ดังนี้

 

  •  กรณีผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรมีอายุ ๑๘ ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ให้มีหลักฐานหรือเอกสารรับรองการได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ที่ผู้ผลิตวัคซีนหรือที่ทางราชการกําหนด โดย ต้องเป็นวัคซีนที่ได้รับการขึ้นทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยยาหรือได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลกหรือตามที่กระทรวงสาธารณสุขกําหนดเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 15 วัน ก่อนออกเดินทาง

 

  • กรณีผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรมีอายุตั้งแต่ 5 ปีบริบูรณ์ แต่ยังไม่ครบ 18 ปีบริบูรณ์ ให้มีหลักฐานหรือเอกสารรับรองการได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็ม โดยต้องเป็น วัคซีนที่ได้รับการขึ้นทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยยาหรือได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลกหรือตามที่กระทรวงสาธารณสุขกําหนด เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 14 วันก่อนออกเดินทาง

 

  • กรณีผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรมีอายุยังไม่ครบ 18 ปีบริบูรณ์ และได้เดินทางมาพร้อมกับผู้ปกครองหรือผู้ดูแล ไม่ต้องมีหลักฐานหรือเอกสารรับรองดังกล่าว

 

๒.ให้มีแผนการเดินทางหรือแผนการปฏิบัติภารกิจระหว่างอยู่ในราชอาณาจักรที่แน่นอนชัดเจน สามารถติดตามตัวได้

 

มาตรการเมื่อเดินทางถึง/ระหว่างอยู่ในราชอาณาจักร ให้ยื่นเอกสารหรือแสดงหลักฐานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ณ ช่องทางเข้าออกระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ในการปรับมาตรการป้องกันโรคก่อนเดินทางเข้าใน ราชอาณาจักรและมาตรการเมื่อเดินทางถึงประหว่างอยู่ในราชอาณาจักรให้มีความเหมาะสมแก่กรณีให้ส่วนราชการหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบสามารถดําเนินการขออนุมัตินายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด - 19 (ศปก.ศบค.) ภายใต้หลักเกณฑ์และแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขกําหนด มาตรการก่อนเดินทางออกจากราชอาณาจักร

 

ราชกิจจานุเบกษาออกประกาศมาตรการผ่อนคลายเข้า-ออกประเทศ มีผล 1 ก.ค.65 ราชกิจจานุเบกษาออกประกาศมาตรการผ่อนคลายเข้า-ออกประเทศ มีผล 1 ก.ค.65 ราชกิจจานุเบกษาออกประกาศมาตรการผ่อนคลายเข้า-ออกประเทศ มีผล 1 ก.ค.65 ราชกิจจานุเบกษาออกประกาศมาตรการผ่อนคลายเข้า-ออกประเทศ มีผล 1 ก.ค.65 ราชกิจจานุเบกษาออกประกาศมาตรการผ่อนคลายเข้า-ออกประเทศ มีผล 1 ก.ค.65 ราชกิจจานุเบกษาออกประกาศมาตรการผ่อนคลายเข้า-ออกประเทศ มีผล 1 ก.ค.65