ยกเลิก Test & Go ห้างดังเขย่าแผนชิงนักช้อปต่างชาติ

01 พ.ค. 2565 | 05:35 น.

2 บิ๊กค้าปลีกเขย่าแผนรับทัวริสต์ หลังรัฐบาลคลายมาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ “ซีพีเอ็น” เผยทราฟฟิกพุ่ง 30% โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยว พลิกโฉมศูนย์เพิ่มแม็กเน็ตรองรับ ด้าน “สยามพิวรรธน์” ผนึกพันธมิตรกลุ่ม Hospitality & Wellness กระตุ้นการจับจ่ายเพิ่ม

หลังศบค. ชุดใหญ่มีมติปรับมาตรการป้องกันโควิด-19 สำหรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักร โดยผ่อนคลายมาตรการยกเลิก Test & Go ให้แสดงหลักฐานการรับวัคซีนตามเกณฑ์ ลงทะเบียนผ่านระบบ Thailand Pass และลดวงเงินประกันเหลือ 1 หมื่นดอลลาร์จากเดิม 2 หมื่นดอลลาร์

 

ยกเลิกการตรวจ RT-PCR เมื่อมาถึงไทย และใช้การตรวจ ATK แทนเพื่อเป็นการช่วยกระตุ้นรายได้เข้าประเทศ ทำให้ผู้ประกอบการต่างๆ รวมถึงภาคบริการอย่างอุตสาหกรรมค้าปลีก ต่างมองเห็นเป็นโอกาสและเร่งปรับแผนรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามา

นักท่องเที่ยวต่างชาติ               

นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในศูนย์การค้าเพิ่มขึ้นราว 30% โดยเฉพาะในศูนย์การค้าที่เน้นนักท่องเที่ยวหรือทัวร์ริสต์มอลล์ ทั้งกรุงเทพฯ ภูเก็ต สมุย เชียงใหม่ พัทยา ฯลฯ

 

ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตัวเลขจาก ททท. ที่พบว่า มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยในช่วงไตรมาส 1/2565 (ม.ค.-มี.ค.) ขยายตัวสูงขึ้น โดยมีนักท่องเที่ยวทั้งสิ้น 444,039 คน ขยายตัว 2,101% และสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยว 34,173 ล้านบาท ขยายตัว 1,424% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2564

              

โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติ Top 3 ที่กลับมาในไตรมาส 1 ได้แก่

1. รัสเซีย

2.เยอรมนี

3.สหราชอาณาจักร

 

ทั้งนี้เชื่อว่าภาพรวมการท่องเที่ยวจะค่อยๆ กลับมายังฟื้นตัวได้ดี จากสัญญาณที่ดีเมื่อภาครัฐผ่อนปรนให้นักท่องเที่ยวเข้าไทยได้โดยไม่ต้องทำการตรวจ RT-PCR ก่อนเข้าประเทศในวันที่ 1 พ.ค. นี้

นักท่องเที่ยวต่างชาติ

หากรัฐบาลเริ่มทยอยปลดล็อคมาตรการกักตัวต่างๆ เพิ่มขึ้นในช่วงกลางปี จะทำให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านและเมืองท่องเที่ยวระดับโลกได้ เพราะเมืองไทยมีต้นทุนค่าท่องเที่ยวและค่าครองชีพ ยังถือว่า อยู่ระดับที่คุ้มค่าอย่างยิ่งต่อการเดินทางและมีทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวที่แข็งแกร่งกว่าประเทศอื่นๆ

นักช้อปต่างชาติ               

เพราะหลายประเทศในอาเซียน อาทิ เวียดนาม กัมพูชา มาเลเซีย อินโดนีเซีย (เกาะบาหลี) และสิงคโปร์ ได้เริ่มทยอยปลดล็อกเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวโดยไม่ต้องกักตัวแล้ว เชื่อว่า การเปิดประเทศในช่วงกลางปี จะทำให้เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวไทยกลับมาพลิกฟื้นอีกครั้ง ทั้งนี้ตัวเลขจาก ททท. คาดการณ์ว่าปี 2565 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย กว่า 7 ล้านคน โดยสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 30% ของรายได้รวมปี 2562

              

สำหรับแผนยุทธศาสตร์ที่เซ็นทรัลพัฒนาดำเนินการเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ ประกอบไปด้วย 5 โรดแมฟ ได้แก่

 

1. การพัฒนาต่อเนื่องในทุกฟอร์แมตโดยเฉพาะในทัวร์ริสต์ มอลล์ เช่น เซ็นทรัล อยุธยา, พัทยา, เชียงใหม่ ฯลฯ รวมถึงเซ็นทรัลเวิลด์ ที่จัดโซนใหม่รับนักท่องเที่ยวเช่น โซน I, โซน Hug Thai Hug Craft จุดจำหน่ายสินค้าชุมชนและสินค้าของฝาก เป็นต้น

              

2. จับมือสถาบันการเงิน อาทิ Visa, Master Card, JCB, Alipay, UnionPay มอบสิทธิพิเศษ เพื่อร่วมต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เช่น รับฟรีของพรีเมี่ยม, ส่วนลดศูนย์อาหาร, ส่วนลดจากห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล และส่วนลดต่างๆ

นักท่องเที่ยวต่างชาติ               

3. ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานต่างประเทศในการจัดทำ Fam Trip รวมถึง Co-Promotion ต่างๆ ทั้งที่เซ็นทรัล วิลเลจ เซ็นทรัล ภูเก็ต และเซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว

 

4. ร่วมมือกับแพลตฟอร์มออนไลน์ “KLOOK” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมใช้ในการหาดีลพิเศษต่างๆ โดยมีศูนย์การค้าที่เข้าร่วม ได้แก่ เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัล อยุธยา และเซ็นทรัล ภูเก็ต โดยเป็นการมอบทั้งของพรีเมี่ยม ส่วนลด การจัดทำ One-Day Trip กรุงเทพฯ-อยุธยา เป็นต้น

              

5. การร่วมมือกับร้านค้าในศูนย์การค้าฯ พันธมิตรโรงแรม และสายการบินชั้นนำ โดยจัดทำ Welcome Package โดยร่วมมือกับพันธมิตรโรงแรมต่างๆ โดยรอบศูนย์การค้าฯ ให้จัดมอบ Welcome Package นี้เมื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเข้าพัก รวมถึงการร่วมมือกับสายการบินต่างๆ เช่น การบินไทย บางกอกแอร์เวยส์ แอร์เอเชียเอมิเรตส์แอร์ไลน์ กาตาร์ แอร์เวย์ส คูเวตแอร์เวย์ และอื่นๆ เพื่อมอบสิทธิพิเศษต่างๆ อาทิ Welcome Pack ที่ประกอบด้วยส่วนลดจากร้านค้าในศูนย์การค้าฯ มูลค่ารวมกว่า 3,000 บาท เป็นต้น

              

ด้านนายปานเทพย์ นิลสินธพ ประธานบริหารสายงานประสบการณ์ลูกค้า บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าสยามพารากอน, สยามเซ็นเตอร์, สยามดิสคัฟเวอรี และไอคอนสยาม กล่าวว่า เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เริ่มเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

 

สยามพิวรรธน์จึงจับมือกับพันธมิตรกลุ่ม Hospitality & Wellness ธุรกิจที่มีสินค้าและบริการที่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเดียวกัน ได้แก่ ททท. โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ โรงแรมสยามเคมปินสกี กรุงเทพ RAKxa (รักษ) และ บีดีเอ็มเอส เวลเนสคลีนิก เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าผ่าน ONESIAM SuperApp

นักท่องเที่ยวต่างชาติ               

โดยททท. จะนำเสนอคอนเท้นท์เรื่องราวสตอรี่เทลลิ่งดีๆ ผ่านแพลตฟอร์ม ONESIAM SuperApp ได้แก่

1. คอนเทนท์การท่องเที่ยวแบบ BCG และ RT

2. คอนเทนท์การท่องเที่ยวแบบ CBT

3. คอนเทนท์การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์

4. unseen new series

 

ขณะที่โรงแรมบันยันทรีกรุงเทพ มีเป้าหมายขยายกลุ่มลูกค้าสมาชิก VIZ เป็นฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ พร้อมมอบสิทธิพิเศษเช่น เครื่องดื่ม Exclusive Drink ระหว่างรับประทานอาหารบนเรือ Saffron Cruise เป็นต้น                   

              

เช่นเดียวกับโรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ที่นำเสนอประสบการณ์พิเศษผ่านแพลตฟอร์ม ONESIAM SuperApp โปรโมชั่นห้องพักอาหาร เครื่องดื่มและสปาส่วนลดสูงสุด 65% เป็นต้น รวมทั้งส่วนลดพิเศษสำหรับสมาชิก VIZ ในการตรวจสุขภาพกับแพ็กเกจ ตรวจคัดกรองโรค แพ็กเกจวิตามินเฉพาะบุคคล ส่วนลดในการซื้อวิตามินอาหารเสริม จากบีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิกด้วย

 

หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,778 วันที่ 28 - 30 เมษายน พ.ศ. 2565