เปิดแนวคิด ผู้ว่าททท. ฟื้นท่องเที่ยว ‘ไทม์ไลน์ต้องชัด-นโยบายต้องเคลียร์’

16 เม.ย. 2565 | 03:33 น.

ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย กับการฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ให้กลับคืนด้วยความรวดเร็ว หลังโลกเจอวิกฤติหนักจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มา 2 ปีเต็มๆ และในยามนี้ ก็ยังไม่สามารถสยบไวรัสร้ายนี้ได้

แต่นั่นคือภาระหน้าที่ ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สมัยที่ 2 “ตุ๊ - ยุทธศักดิ์ สุภสร” ต้องรับมือ

 

ล่าสุด ท่านผู้ว่าฯ ททท. ยังเดินหน้าแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยวแบบไม่หยุดยั่ง กับการเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ “ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่” กับแคมเปญ “เที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม” พร้อมหนังโฆษณาชุด “เที่ยวแบบใหม่” ที่เริ่มยิงออนไลน์ 12 เม.ย. 65 และสื่อทีวี 13 เม.ย.65

“ผู้ว่าฯ ตุ๊” บอกว่า เป้าหมายของ ททท. คือ อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล พร้อมๆ กับการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ ด้วยการเดินตามแนวทางโมเดลเศรษฐกิจแบบใหม่ หรือ BCG โมเดล ที่ดูแลธรรมชาติ ชุมชน และคนรอบข้าง สร้างให้เป็น New Chapter ของการท่องเที่ยวไทย  กระตุ้นให้คนไทยออกมาเที่ยวอย่างรับผิดชอบให้มากขึ้น

 

ซึ่งงานนี้ “น้องใหม่-ดาวิ” บอกเลยว่าใครที่ยังลังเล กล้าๆ กลัวๆ กับการเที่ยวไทย รีบออกมาเที่ยวแบบใหม่ มันสุขใจกว่าที่คิดแน่นอน

แคมเปญและแนวทางการกระตุ้นการท่องเที่ยวแบบรับผิดชอบ “ผู้ว่าฯ ททท.” เน้นย้ำว่า ต้องเปลี่ยนที่วิธีคิด หรือ Mindset ของคน


หากแต่การกระตุ้นการท่องเที่ยวให้พลิกฟื้น ไม่ใช่เพียงแค่แคมเปญการตลาด แต่การวางแผนเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายภาครัฐ ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญ และสำคัญมากๆ เพราะหากนโยบายไม่ชัด ประกาศช้า ก็ยิ่งทำให้เสียโอกาส และสร้างความเสียหายให้กับผู้ประกอบการ และประเทศไทยมากขึ้นเรื่อยๆ 


เพราะฉะนั้น “ผู้ว่าฯ ตุ๊” จึงเร่งมือผลักดันให้ปลดล็อก 4 เรื่องหลักเต็มที่ คือ

  1. ไทยแลนด์พาส (Thailand Pass)
  2. Test and Go หลักเกณฑ์การเดินทางเข้าประเทศ ออกโดยกรมการกงศุล กระทรวงต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจ RT-PCR หรือ ATK
  3. การกำหนดนิยามของกลุ่มเสี่ยง หรือ High-risk close contact: HRC
  4. เรื่องของประกันสุขภาพนักท่องเที่ยว 


“ทั้ง 4 เรื่องนี้ต้องปลดล็อก เดิมกระทรวงบอกว่า ต้อง ไดนามิก ทุกอย่างต้องกลับไปเหมือนเดิม แต่เรามองว่าอาจจะช้าไป เพราะตอนนี้ความต้องการในการเดินทางข้ามประเทศมีสูง ถ้าเราเริ่มช้า ซัมเมอร์ฝรั่งมันจะขายไม่ทัน เพราะตอนนี้ประเทศรอบบ้านเราเปิดหมดแล้ว ทั้งมัลดีฟ ฟิลิปปินส์ เวียดนาม มาเลเซีย โดยไม่มีข้อจำกัด”


การปลดล็อก 4 เรื่องที่นำเสนอ “ผู้ว่าฯ ททท.” ได้เสนอเป็นแผนหนึ่ง-แผนสอง โดยแผน 1 คือ เริ่ม 1 พ.ค.65 แต่ถ้าไม่ได้ ก็ไปแผน 2 คือ 1 มิ.ย.65  เนื่องจากทางกระทรวงสาธารณสุข ต้องรอประเมินจากตัวเลขผู้ติดเชื้อในช่วงสงกรานต์ก่อน เพราะถ้ามีตัวเลขผู้ติดเชื้อสูง แม้เราจะไม่มีข้อจำกัด ก็ไม่มีใครอยากมา


“ทั้งหมดที่เราต้องการเสนอคือ ไทม์ไลน์ต้องชัดเจน เป็นไทม์ไลน์บนเงื่อนไขของสาธารณสุขก็ได้ แต่มันต้องประกาศล่วงหน้า สมมุติว่า ผมจะบินเดือนกรกฎาคม ไปประกาศเดือนมิถุนายน มันก็ไม่มีเครื่องบินแล้ว มันต้องวางแผนล่วงหน้า” 


การนำเสนอมาตรการใดๆ “ผู้ว่าฯ ททท.” มีความคิดอย่างรอบด้าน และยืดหยุ่นตามความเหมาะสม อย่างการเสนอปลดล็อก 4 เรื่องหลัก ก็ต้องดูความเหมาะสมของปริมาณการติดเชื้อของคนไทย Mood & Tone ของคนไทย ดูมาตรการการเดินทางของประเทศต่างๆ ถ้าเขาเดินทางมาแล้วต้องกลับไปกักตัวหลายวัน ก็ไม่มีใครอยากเดินทางอยู่ดี หรือถ้าคนไทยยังกังวล จะเปิดแบบเลือกประเทศก็ได้ ประเทศไหนคนยังติดเื้อเยอะ ก็เว้นไว้ก่อน


ทั้งหมดทั้งมวล คือ “ไทม์ไลน์ต้องมี และชัดเจน” เพราะจะส่งผลดีทั้งปริมาณนักท่องเที่ยว และผู้ประกอบการ ที่สามารถวางแผนธุรกิจได้ อีกทั้ง การปลดล็อกเพื่อให้เกิดการเดินทาง ยังเป็นปัจจัยสำคัญชี้ขาดการแข่งขัน

 
“ถ้าการท่องเที่ยวยังต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวอีกเนี่ย ผมว่าก็ลำบาก นั่นคือ สาเหตุที่ว่าทำให้ผู้ประกอบการออกมาเน้นย้ำว่า ต้องรีบ และดำเนินการให้เร็ว”


นี่คือวิธีคิด และแนวทาง ในการผลักดันของผู้ว่าฯ ททท. ที่ต้องผจญกับปัญหาด้านการท่องเที่ยวอย่างหนักมา 2 ปีเต็ม การแก้ปัญหาไม่สามารถมองแค่ประโยชน์ของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด แต่ต้องมองรอบด้าน เพื่อผลักดันให้เศรษฐกิจของประเทศเดินหน้า โดยไม่ทิ้งปัญหาไว้ข้างหลัง

 

หน้า 17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,774 วันที่ 14 - 16 เมษายน พ.ศ. 2565