กทพ.มั่นใจการปิดน่านฟ้ากรณีวิกฤติยูเครน ไม่กระทบเที่ยวบินจากไทย

24 ก.พ. 2565 | 10:02 น.

กพท.ยันการปิดน่านฟ้าจากกรณีวิกฤตยูเครน ไม่กระทบเที่ยวบินจากไทย มีเพียง 'การบินไทย' สายเดียวที่ทำการบินอยู่ แต่ได้เปลี่ยนเส้นทางแล้ว ก่อนสถานการณ์รุนแรง แต่อาจมีผลกระทบในแง่ที่เที่ยวบินทั้งหมดจะต้องมาแย่งใช้ ทำให้เกิดความหนาแน่น

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากกรณีเกิดวิกฤตยูเครน ส่งผลให้มีการปิดน่านฟ้าไม่ให้อากาศยานพลเรือนบินเข้า ภายหลังจากที่รัสเซียโจมดีเมืองเครียฟนั้น กระทรวงคมนาคมได้รับรายงานจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่ง ประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT ว่าในส่วนของอากาศยานของประเทศไทย ปัจจุบันมีสายการบินไทยเพียงรายเดียวที่ปฏิบัติการบิน

อย่างไรก็ตาม การบินไทย ได้เลี่ยงการบินผ่านน่านฟ้าของยูเครนมาระยะหนึ่งแล้ว ก่อนที่จะมี การประกาศ NOTAM ประกาศปิดน่านฟ้าสำหรับเที่ยวบินพลเรือนทั้งหมดแล้วในวันนี้ (24 ก.พ.)

 

ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมา การบินไทยได้ใช้เส้นทางอ้อมผ่านทาง ตอนใต้ของยูเครน ผ่านประเทศอิหร่าน ตุรกี เพื่อไม่ต้องบิน เข้าน่านฟ้าของประเทศยูเครน ตามคำแนะนำของ องค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง (Conflict Zone)

สำหรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้น จากกรณีนี้จึงไม่มีในแง่ของการที่จะต้องเปลี่ยนแปลงเส้นทางการบิน หรือยกเลิกปฏิบัติการบินแต่อย่างใด เนื่องจากไม่ได้บินผ่านน่านฟ้าของยูเครนอยู่แล้ว แต่อาจมีผลกระทบในแง่ที่เที่ยวบินทั้งหมดจะต้องมาแย่งใช้ เส้นทางหลบเลี่ยงในเส้นทางเดียวกันมากขึ้น ทำให้เกิดความหนาแน่น และอาจทำให้ไม่ได้บินในระยะสูง (Flight level) ที่ดีที่สุดหรือในเวลาที่กำหนดเช่นก่อนหน้านี้ ในกรณีที่มีความคับคั่งในบริเวณดังกล่าว

 

ด้านCAAT ยืนยันสายการบินของไทยไม่ได้รับผลกระทบ กรณียูเครนประกาศปิดน่านฟ้า
ว่าตามที่ประเทศยูเครนประกาศปิดน่านฟ้าห้ามเที่ยวบินพลเรือนบินผ่านในวันนี้ (24 กุมภาพันธ์ 2565) ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย หลังจากกองทัพรัสเซียเริ่มปฏิบัติการทางทหารในเขตแดนฝั่งตะวันออกของประเทศ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ได้ตรวจสอบเส้นทางบินของสายการบินสัญชาติไทย ที่อาจมีเที่ยวบินผ่านน่านฟ้าประเทศยูเครน พบว่าไม่มีสายการบินของไทยปฏิบัติการบินในบริเวณดังกล่าว

 

ทั้งนี้ได้รับการยืนยันจากบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นสายการบินเดียวของไทยที่มีปฏิบัติการบินไปยังทวีปยุโรป ไม่ได้ใช้เส้นทางบินผ่านประเทศยูเครนมาเป็นเวลานานแล้ว หลังจากพิจารณาว่าบริเวณดังกล่าวถือเป็นพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง (Conflict Zone) ที่ควรหลีกเลี่ยง โดยเที่ยวบินของการบินไทยซึ่งต้องบินผ่านแถบประเทศดังกล่าวในปัจจุบัน ได้เลี่ยงไปใช้เส้นทางการบินที่ปลอดภัยผ่านประเทศตุรกีแทนมาโดยตลอด

 

ปัจจุบันสายการบินไทยใช้เส้นทางการบินไปยังทวีปยุโรป มีสนามบินปลายทาง 7 เมือง ได้แก่

 

  1. กรุงเทพ-ลอนดอน สัปดาห์ละ 6 เที่ยวบิน
  2.  กรุงเทพ-โคเปนเฮเกน สัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน
  3.  กรุงเทพ-แฟรงก์เฟิร์ต สัปดาห์ละ 7 เที่ยวบิน
  4. กรุงเทพ-ปารีส สัปดาห์ละ 2 เที่ยวบิน
  5. กรุงเทพ-ซูริค สัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน
  6. กรุงเทพ-บรัสเซลส์ สัปดาห์ละ 2 เที่ยวบิน
  7. กรุงเทพ-สต็อกโฮล์ม สัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน

 

ดังนั้นจากกรณีที่ยูเครนประกาศปิดน่านฟ้าจึงไม่ส่งผลกระทบแก่เที่ยวบินของไทยแต่อย่างใด เนื่องจากไม่มีเที่ยวบินผ่านน่านฟ้าของยูเครนอยู่แล้ว แต่อาจได้รับผลกระทบจากการที่สายการบินส่วนใหญ่ที่เคยใช้เส้นทางบินผ่านประเทศยูเครนก่อนหน้านี้ ต่างหลบเลี่ยงมาใช้เส้นทางเดียวกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดความหนาแน่นของการจราจรทางอากาศเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น