5 ปีทุ่มแสนล้าน CRC ตั้งเป้าขึ้นแท่นเบอร์ 1 ค้าปลีกเอเชีย

10 ก.พ. 2565 | 00:20 น.

เปิดแนวรบ “เซ็นทรัล รีเทล” 5 ปีทุ่มแสนล้าน สยายปีกอาณาจักรรีเทล ตั้งเป้าขึ้นเบอร์ 1 ภูมิภาคเอเชีย ชู 5 กลยุทธ์ CRC Retailligence ดันรายได้โต 2.5 เท่า EBITDA 3.5 เท่า Market Cap 2.5 เท่า ในปี 2569

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC เปิดเผยว่า หลังการทรานส์ฟอร์มองค์กรครั้งใหญ่ในปี 2560 ภายใต้แนวคิด New Central New Retail จนประสบความสำเร็จ ยุทธศาสตร์การเดินหน้าธุรกิจ 5 ปี (ปี 2565-2569) บริษัทจะมุ่งเดินหน้าภายใต้กลยุทธ์ CRC Retailligence เพื่อขับเคลื่อนองค์กร สร้างนวัตกรรมการค้าแห่งยุคอนาคต

 

ด้วย 4 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ 1. Reinvent Next-Gen Omni Retail การยกระดับแพลตฟอร์มออมนิแชแนลผ่านการเชื่อมโลกจริงและโลกเสมือนจริง โดยใช้เทคโนโลยีและดิจิทัลใหม่ๆ เพื่อมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งเหนือระดับในทุกกลุ่มธุรกิจ ทั้งฟู้ด แฟชั่น ฮาร์ดไลน์ พร็อพเพอร์ตี้ รวมถึงกลุ่มธุรกิจใหม่ๆ ครอบคลุมทั่วประเทศทั้งในไทย เวียดนาม และอิตาลี

ญนน์ โภคทรัพย์

ยุทธศาสตร์ที่ 2. Accelerate Core Leadership การขับเคลื่อนและสร้างการเติบโตในกลุ่มธุรกิจหลักของ เซ็นทรัล รีเทล ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ระดับสากล 3. Build New Growth Pillars การเดินหน้าสร้างธุรกิจใหม่ โดยเริ่มจากกลุ่ม Health & Wellness ที่จะกลายเป็นพิลาร์ที่เติบโตในอนาคตและกลายเป็นหนึ่งในเสาหลักของธุรกิจต่อไป รวมถึงเซ็กเมนต์อื่นๆ ที่เป็นไปตามเทรนด์ของโลกและความต้องการของผู้บริโภค และ 4. Drive Partnership, Acquisition and Spin Off ขยายธุรกิจภายใต้แนวคิด Inclusive Growth สร้างความสำเร็จร่วมกันกับพาร์ทเนอร์เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

 

โดยเบื้องต้นบริษัทเตรียมงบลงทุนไว้ 1 แสนล้านบาท แบ่งเป็นการขยายสาขาใหม่และปรับปรุงสาขาเดิม 7 หมื่นล้านบาท ส่วนอีก 3 หมื่นล้านบาท เป็นการลงทุนด้านเทคโนโลยีทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์ เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคและเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

 

“จากการศึกษาและวิเคราะห์ภาพรวมจะเห็นว่า นับจากนี้โลกจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ใน 5 เทรนด์ ได้แก่ 1. A New Consumer Paradigm : พฤติกรรมของผู้บริโภคจะพลิกไปสู่รูปแบบใหม่ ทั้งในโลกจริงและโลกเสมือนจริง ซึ่งแตกต่างจากรูปแบบเดิมอย่างสิ้นเชิงและรวดเร็ว 2. Scaling in the Era of Digital Acceleration : โลกจะพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยมีเทคโนโลยีและดิจิทัลเป็นตัวเร่ง

เซ็นทรัล รีเทล

3. The Future of Wellness : ผู้บริโภคจะให้ความสำคัญมากยิ่งขึ้นในการดูแลสุขภาพ และการใช้ชีวิตให้ถูกสุขลักษณะ โดยจะมีเทคโนโลยีเข้ามาเป็นตัวเชื่อม ตอบโจทย์การดำเนินชีวิตได้ครบวงจร 4. Partnership for Inclusive Growth : การร่วมมือกันระหว่างพันธมิตรทางธุรกิจ จะมุ่งเน้นไปที่ความสำเร็จและการเติบโตไปด้วยกัน และ 5. Sustainability Agenda for All : การมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสังคมและดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน เป็นเรื่องสำคัญของทุกคนและทุกภาคส่วน”

 

ดังนั้นการดำเนินธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล จะต้องมุ่งเน้นการรองรับการเปลี่ยนแปลงในระยะยาว เพื่อสร้างการเติบโตให้กับ 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ฟู้ด แฟชั่น ฮาร์ดไลน์ และพร็อพเพอร์ตี้ รวมไปถึงการสร้างธุรกิจใหม่ๆ ผ่านออมนิแชแนล แพลตฟอร์ม ซึ่งที่ผ่านมาพบว่าในช่วงสถานการณ์โควิด บริษัทยังสามารถทำยอดขายผ่านออมนิแชแนลเติบโตได้กว่า 500% ขณะที่ยอดขายในสาขา (Physical Store) ก็มีการเติบโตไปด้วยทั้งสัดส่วนรายได้จากการขายที่เติบโต 8% สัดส่วนรายได้จากการเช่าเติบโต 21% ขณะที่มีสาขารวม 3,600 แห่ง

 

“วันนี้สถานการณ์เปลี่ยน เซ็นทรัลรีเทล มีความพร้อมมากขึ้น แม้ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิดทั้ง่ในปี 2563 และ 2564 ที่มีการล็อกดาวน์ทำให้ได้รับผลกระทบ แต่ก็เป็นประสบการณ์ทำให้บริษัทสามารถเดินหน้าต่อไปได้ วันนี้โควิดจบแล้ว และเราต้องอยู่กับมัน เรามองเห็นแสงสว่างที่ชัดเจนและจะเป็นคนแรกที่ออกจากอุโมงค์โควิดได้เร็วกว่าคนอื่น แข็งแรงขึ้น และพร้อมที่จะขยายไปในธุรกิจใหม่มากขึ้น”

เซ็นทรัล รีเทล

นายญนน์ กล่าวอีกว่า เซ็นทรัล รีเทล จะเป็นผู้นำในการ Reshape Retail Industry ผ่าน CRC Retailligence และมี CRC Data Ecosystem มาเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทั้งในโลกจริงและโลกเสมือนจริง นำเสนอสินค้าและบริการในรูปแบบ Hyper-Personalization บนฐานข้อมูลที่เจาะลึก Customer Insight ซึ่งวันนี้ในโลก Metaverse ก็อยู่ระหว่างการทดลองที่จะนำเสนอสินค้าและบริการให้กับลูกค้าในอนาคตด้วย โดยบริษัทตั้งเป้าหมายที่จะมีรายได้เติบโต 2.5 เท่า EBITDA เพิ่มขึ้น 3.5 เท่า และ Market Cap เพิ่มขึ้น 2.5 เท่า ในปี 2569