ผ่าอาณาจักร ‘จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้’ ต้นแบบเวลเนส คอมมูนิตี้ไทย

24 ม.ค. 2565 | 09:50 น.

ผ่าอาณาจักร “จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้” ต้นแบบเวลเนส คอมมูนิตี้รองรับผู้สูงวัยคนไทย-ต่างชาติ พร้อมทุ่มงบหมื่นล้านขยายโซนบ้านพัก สปา-สนามกอล์ฟ และอีก 6 หัวเมืองใหญ่ใน 3-5 ปี เตรียมพร้อมไทยก้าวสู่ Completely Aged Society

การก้าวเข้าสู่ “สังคมสูงวัย” (Aged Society) ซึ่งหมายถึงสังคมนั้นต้องมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปมากกว่า 10% ของประชากรทั้งหมด ซึ่งแน่นอนว่าวันนี้ประเทศไทยก้าวข้ามผ่านมาแล้วและกำลังก้าวเข้าสู่ “สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์” (Complete Aged Society) หมายถึง การที่มีประชากรวัยเกิน 60 ปีขึ้นไปมากกว่า 20% ของประชากรทั้งหมด และหากมีสัดส่วนผู้สูงวัยกว่า 28% หรือ 1 ใน 3 ของประชากรทั้งหมดก็จะกลายเป็นสังคมผู้สูงวัยระดับสุดยอด (Super-Aged Society) ซึ่งเกิดขึ้นแล้วในหลายประเทศ

 

ขณะที่ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ภาวะสังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์ ทำให้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีสินค้าและบริการที่เกี่ยวเนื่องกับผู้สูงอายุเกิดขึ้นจำนวนมาก สวนทางกับบริการที่พักที่มีคุณภาพชีวิตรองรับในบั้นปลายที่ยังอยู่ในเกณฑ์ที่น้อย แต่เป็นที่ต้องการของผู้สูงอายุที่ไม่มีบุตรหลานคอยดูแล

จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้

นายทิมโมตี้ อีเมน เลิศสมิติวันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโครงการ “จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้” (Jin Wellbeing County) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ทราบกันดีกว่าประเทศไทยกำลังเข้าสู่ Aging Society ในขณะที่การดูแลผู้สูงอายุมีความแตกต่างจากการดูแลคนปกติ จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ จึงออกแบบมาให้รองรับไลฟ์สไตล์ของผู้สูงอายุแต่ละกลุ่ม ตั้งแต่กลุ่มที่ยัง Active หรืออยู่ในช่วงอายุ 55-60 ปีซึ่งยังสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ มีความต้องการออกไปใช้ชีวิตนอกบ้าน ทางโครงการจึงออกแบบกิจกรรมให้ผู้อาศัยมีส่วนร่วมเช่นคลาสมวย คลาสเดิน หรือปั่นจักรยานรอบโครงการได้

 

กลุ่มที่ 2 อายุ 60-75 ปีซึ่งอาจเป็นกลุ่มที่ต้องใช้อุปกรณ์ช่วยเหลือเช่น วีลแชร์ ซึ่งยากที่จะลุกขึ้นเดิน ทางโครงการจึงนำ water therapy เข้ามาช่วยบำบัดให้ผู้สูงอายุเริ่มฟื้นฟูและออกจากรถเข็นมาใช้ชีวิตปกติ และกลุ่มสุดท้ายคือกลุ่มผู้ป่วยติดเตียงหรือโรคร้ายแรงระยะสุดท้าย ซึ่งทางโครงการมีโรงพยาบาลเฉพาะทางในการดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งผู้ดูแลสามารถเข้าเยี่ยมผู้ป่วยในโรงพยาบาลได้ตลอด 24 ชม.

จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้

“สิ่งที่เราทำคือจะมีกิจกรรม social เช่นคลาสทำอาหาร ไฮโดรเทอราปี จัดทำบุญ หรือออกไปทำกิจกรรมนอกสถานที่ เพื่อผู้สูงอายุเจอเพื่อนใหม่ๆ โดยมีหมอและพยาบาลหรือบุคลากรที่อยู่ในโครงการคอยดูแลและสังเกตพฤติกรรมของผู้สูงอายุ เช่นลักษณะการเดิน การนั่ง ที่ดูผิดปกติเพื่อส่งตรวจเช็คและทำการรักษารวมทั้งคอยช่วยสร้าง community และหาเพื่อนให้

 

ส่วนผู้ป่วยติดเตียง เรามีโรงพยาบาลขนาด 55 เตียงให้สามารถเข้าพักเพื่อรักษาตัวระยะยาว เพราะการดูแลคนติดเตียงเราก็จะเข้าไปเสริมเขาเหมือนเราเป็นญาติห่างๆที่เข้ามาช่วยดูแลพ่อ แม่ หรือคู่สมรสของเขา และมี Telemedicine ให้ญาติสามารถพูดคุยกับหมอและติดตามความเป็นอยู่ของผู้ป่วยผ่านระบบ CCTV โดยมีพยาบาลเข้ามาช่วยดูแลและขั้นสุดท้ายคือเสียชีวิต ซึ่งส่วนนี้จะลำบากสำหรับครอบครัว ตั้งแต่เปิดโครงการมาระยะเกือบ 2 ปี เราเจอเคสเสียชีวิต 2 เคส ซึ่งเราดูแลไปจนถึงการจองวัดและช่วยเหลือตลอดกิจกรรมงานศพ”

 

วันนี้ จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้มีห้องอาศัยรวม 494 ยูนิต ปิดการขายไปแล้ว 140 ห้องหรือ 40% ของโครงการมีผู้เข้าพักอาศัยแบบอยู่ประจำราวๆ 30 คน และผู้ซื้อที่เข้าพักชั่วคราวกว่า 100 คน รวมทั้งพักอาศัยระยะยาวในโรงพยาบาล(ผู้ป่วยติดเตียง) 12 รายโดยคิดค่าใช้จ่ายแบบเหมารายเดือน

 

แผนในอนาคต จะใช้พื้นที่ต่อจากโซนอพาร์ทเมนต์ก่อสร้างบ้านพักขนาด 2 ห้องนอน 100 ตรม. จำนวน 20 หลัง รอบสนามกล์อฟขนาด 9 หลุมเพื่อรองรับผู้สูงอายุที่ต้องการพื้นที่ส่วนตัวหรือพักอาศัยเป็นกลุ่มหรือครอบครัว ซึ่งอยู่ในขั้นตอนรออนุมัติการสร้างจากบอร์ดบริหาร หลังจากบอร์ดอนุมัติสามารถเริ่มก่อสร้างพร้อมกันทั้ง 20 หลังและแล้วเสร็จภายใน 3 เดือนโดยใช้โซลูชั่นการก่อสร้างของ SCG

จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้

พื้นที่ถัดจากโซนบ้านพัก ทางโครงการได้สร้าง spa wellness ขนาด 12 ห้องเพื่อรองรับลูกบ้านและชาวต่างชาติที่อาจเข้ามาพักฟื้นหรือใช้บริการ Jin Wellness ในช่วงระยะเวลาสั้นๆเช่น 7 -10 วัน นอกจากพื้นที่แปลงนี้แล้ว จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ ยังพยายามขยายโครงการในต่างจังหวัด โดยเฉพาะ 5 หัวเมืองหลัก เชียงใหม่ เชียงราย เขาใหญ่ สมุยและภูเก็ต

 

โดยในอนาคตจะเปิดระบบเมมเบอร์เมื่อซื้อห้องในโครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ สามารถเลือกเข้าพักในห้องพักของโครงการ Jin Wellbeing County ในจังหวัดใดก็ได้โดยไม่จำกัดเวลา เพื่อรองรับสไตล์การใช้ชีวิตของผู้อายุที่แตกต่างกัน

 

“ถ้าดูในแผนการลงทุนขยายโครงการจะเห็นว่า พื้นที่โครงการเป็นที่ดินแปลงยาวลึก ริมถนนพหลโยธิน อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ใกล้ห้างสรรพสินค้า มหาวิทยาลัย สนามบิน สนามกอล์ฟและรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงเข้ม ปัจจุบันเราได้พื้นที่ตรงกลางของแปลงในการขึ้นโครงการ Jin Wellbeing County ในส่วนของอพาร์ทเมนต์ 494 ยูนิต และโรงพยาบาลขนาด 55 เตียง และพื้นที่ด้านหลังในการขึ้นโครงการบ้านพัก 20 หลัง สนามกล์อฟและspa wellness ซึ่งเป็นส่วนที่จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ รับผิดชอบ”

จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้            

ส่วนด้านหน้าของที่ดินซึ่งติดกับถนนใหญ่ บริษัท ธนบุรี เฮลท์ แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG มีแผนสร้างโรงพยาบาลธนบุรี 3 ขนาด 200 เตียง ซึ่งจะเป็นโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในฝั่งเหนือของกรุงเทพฯ โดยบริเวณชั้น 1-2 จะเป็นคอมมูนิตี้ มอลล์ มีร้านอาหาร ร้านขยายผลิตภัณฑ์สุขภาพต่างๆ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างปี 2566 นอกจากนี้ทางกลุ่ม THG ยังมีไลเซ่นโรงแรม ซึ่งในอนาคตมีแผนสร้างโรงแรม 20 ชั้น แต่ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์เพราะตอนนี้ต้องชะลอไปก่อนจากสถานการณ์โควิดและนักเที่ยวยังเดินทางเข้ามาในประเทศไม่ได้

 

โครงการนี้ไม่ได้จำกัดอายุของลูกบ้านที่จะเข้ามาอยู่ แต่เราแนะนำว่าควรเป็นคนที่อายุเกิน 50 ปีขึ้นไป แต่ผู้ที่สนใจสามารถซื้อล่วงหน้าเพื่อเข้ามาอยู่หลังเกษียนหรือเข้ามาพักในช่วงวันหยุดได้ และหนึ่งในเป้าหมายของเราคือต้องการรองรับกลุ่มผู้สูงอายุต่างชาติที่ตั้งใจจะเข้ามาใช้ชีวิตหลังเกษียณในเมืองไทย ซึ่งเราช่วยทำ Retirement Visa และเอกสารต่างๆให้ทั้งหมด

 

รวมทั้งพาร์ 3ที่เป็นสนามกล์อฟก็ถูกสร้างขึ้นมารองรับกลุ่มผู้สูงอายุต่างชาติที่ส่วนใหญ่ชื่นชอบการตีกล์อฟและเรายังมีบริการรับส่งระหว่างสนามกอล์ฟในโซนรังสิตที่มีไม่ต่ำกว่า 20 สนาม ซึ่งโครงการทั้งหมดนี้คาดว่าส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นได้ภายใน3 ปี ยกเว้น Jin Wellbeing County ใน 5 จังหวัดที่อาจต้องใช้เวลาแต่คาดว่าไม่เกิน 5ปี รวมมูลค่าการลงทุนทั้งหมดแตะหลักหมื่นล้านบาท”

 

หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,750 วันที่ 20 - 22 มกราคม พ.ศ. 2565