เพิ่ม thansettakij
ลงในหน้าจอหลักของคุณ
เกาะสีชัง เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กท่องเที่ยวที่พึ่งพารายได้จากการท่องเที่ยวเป็นหลักในช่วงการแพร่ระบาดของโควิดตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา “เกาะสีชัง” ได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวที่หายไปตามบรรยากาศการท่องเที่ยวซบเซาลงไปเช่นกัน หลังการคลายล็อกดาวน์-เปิดประเทศ “เกาะสีชัง” ได้เตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยว โดยมองหา Landmark ใหม่ๆเพิ่มขึ้น เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวให้กลับมาบูมอีกครั้ง
นายอิทธิพงศ์ จักษ์ตรีมงคล นายอำเภอเกาะสีชัง เปิดเผยว่า ปัจุบัน “เกาะสีชัง” เตรียมกำหนดปฏิทินท่องเที่ยว โดยอยู่ระหว่างการหารือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา(ททท.) และสถานประกอบการต่างๆในพื้นที่ เพื่อวางแนวทางและกำหนดปฏิทินท่องเที่ยวประจำปี
“ตอนนี้เรากำลังพยายามดึงภาคเอกชนมาร่วมพูดคุยหาแนวทางและจุดยืนว่าเราจะเดินไปทางไหน เพื่อจะได้เดินไปพร้อมกัน เพราะข้อจำกัดของเกาะสีชังคือมีพื้นที่หาดถ้ำพังเพียงแห่งเดียวที่ใช้ดึงดูดนักท่องเที่ยว ซึ่งตอนนี้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นคนไทย ส่วนชาวต่างชาติจะไปที่บางแสน พัทยามากกว่า
เราจึงต้องหาจุดขายอื่นเช่น ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ที่มีความศักดิ์สิทธิ์และมีผู้คนเดินทางเข้ามาขอกราบไหว้ขอพร และล่าสุดที่เราได้รับความอนุเคราะห์จากวัง(พระจุฑาธุชราชฐาน)ให้จัดงานลอยกระทงครั้งแรก โดยให้คนแต่งชุดไทยย้อนยุคเข้ามาลอยกระทงในวัง ซึ่งอาจจะเป็นไฮไลท์หนึ่งในอนาคตข้างหน้า
และอีกหนึ่งไฮไลท์คือการวิ่ง ซึ่งที่ผ่านมามีการจัดวิ่งเทรลและวิ่งระยะต่างๆซึ่งได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวอย่างล้นหลาม รวมไปถึงศูนย์การเรียนรู้ธนาคารสัตว์ทะเลเกาะสีชัง โดยชุมชน เพื่อชุมชนยั่งยืน ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมด้านการศึกษาเรียนรู้ วิจัย เพาะพันธุ์ และอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ทะเล ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของอำเภอเกาะสีชัง”
นอกจากนี้ “เกาะสีชัง” ยังได้ออก 4 มาตราการป้องกันโควิดรับเปิดประเทศ&เกาะสีชัง ประกอบไปด้วย Vaccine, Universal Prevention, Covid free settingและ ATK โดยในปัจุบันได้ดำเนินการฉีดวัคซีนเกิน 150% ของเกาะครอบคลุมโป๊ะเรือและคนเรือต่างๆซึ่งขึ้นมาจับจ่ายใช้สอยบนเกาะ กว่า 1,500 คน และประชาชนบนเกาะได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มและ3 เข็มเกือบ 100%
และสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาท่องเที่ยวบนเกาะ ทาง “เกาะสีชัง” ได้ทำการตรวจคัดกรอง และตรวจสอบเอกสารโดยนักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องได้รับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดสามารถขึ้นเกาะได้
สำหรับผู้ที่ได้รับการรักษาหายจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มาแล้วไม่เกิน 90 วัน โดยมีเอกสารที่ออกจากสถานพยาบาล รวมทั้งการตรวจยืนยันผลลบ ของชุดตรวจ ATK หรือการตรวจแบบ RT-PCR โดยมีเอกสารรับรอง และสำหรับนักท่องเที่ยวที่ยังไม่ได้รับวัคซีนแต่ต้องการขึ้นมาท่องเที่ยวบนจะต้องมีใบรับรองการตรวจโควิด หรือนำชุดตรวจ ATK มาตรวจต่อหน้าเจ้าหน้าที่คัดกรองหากผลเป็นลบสามารถขึ้นเกาะได้
ในส่วนของเรื่องสาธารณสุข “เกาะสีชัง” ได้เตรียม จัดตั้งศูนย์โควิดชุมชนระดับอำเภอ (Community Isolation : CI) จำนวน 2อาคารที่อยู่ห่างจากชุมชน ซึ่งสามารถรองรับได้ 60 -70 คน และอีกหนึ่งมาตรการที่กำลังดำเนินการอยู่คือกิจกรรมตรวจหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุก (ATK Week) ให้กับบุคลากรอำเภอเกาะสีชัง และเจ้าหน้าที่บุคลากรด่านหน้า และ สถานประกอบการที่มีความเสี่ยงในพื้นที่ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ปฏิบัติงานและนักท่องเที่ยว โดยจัดให้มีการตรวจทุกสัปดาห์
รวมไปถึงมาตรการเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว COVID FREE SETTING KOH SICHANG เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้ประกอบการในการให้บริการนักท่องเที่ยว และเพิ่มความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวเกาะมากยิ่งขึ้น โดยลงพื้นที่ตรวจประเมินสถานประกอบการธุรกิจโรงแรม ห้องพัก รีสอร์ท / ผู้ประกอบการร้านอาหาร / ร้านขายของ/ ผู้ประกอบการธุรกิจเรือโดยสาร เรือเร็ว และผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะ ในพื้นที่อำเภอเกาะสีชัง เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการ และความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พร้อมมอบประกาศนียบัตรรับรองเพื่อนำไปติดแสดง ณ สถานประกอบการ เพื่อสร้างความมั่นใจในการท่องเที่ยวภายในพื้นที่อำเภอเกาะสีชัง
“COVID FREE SETTING KOH SICHANG เป็นกุศโลบายเพื่อผลักดันให้ผู้ประกอบการไปขอ Amazing Thailand Safety and Health Administration (SHA) ของการท่องเที่ยว ควบคู่ไปกับการขอ SHA สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวทุกแห่ง เพื่อที่จะได้เปิดทั้งเกาะพร้อมกันและตอนนี้เรากำลังจะได้ SHA+ เพื่อสร้างความมั่นใจว่านักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาปลอดภัย
ซึ่งตอนนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดบนเกาะ ไม่มีการแพร่ระบาดมา 2 เดือนแล้วแต่หากมีกรณีผู้ติดเชื้อจะมีการส่งผู้ติดเชื้อเข้าไปรักษาตัวและกักตัวผู้ใกล้ชิดโดยมีนโยบาย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ และมอบสิ่งของถุงยังชีพพร้อมน้ำดื่ม ให้กับกลุ่มเสี่ยงที่ต้องกักตัว เราตรวจเยอะ เรารู้เร็ว ทำให้เราสามารถจำกัดวงการแพร่ระบาดได้"