อีคอมเมิร์ซปั้นยอด Pomelo 90% พร้อมโต 2เท่าหลังคลายล็อค

24 พ.ย. 2564 | 02:33 น.

โควิดไม่สะเทือน อีคอมเมิร์ซสร้างรายได้ Pomelo กว่า90% ดันภาพรวมธุรกิจเติบโต 40% แม้อุตสหกรรมเสื้อผ้าและรองเท้าติดลบถึง -25.5% และเติบโตเพิ่มขึ้น 127% ใน3เดือนหลังคลายล็อคค้าปลีก

หลังจากรัฐบาลในหลายๆ ประเทศได้ประกาศปลดล็อค หรือยกเลิกเคอร์ฟิว ตามจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กลับมาจับจ่ายตามห้างสรรพสินค้าและร้านอาหารมากขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้อุตสาหกรรมค้าปลีกและไลฟ์สไตล์กลับมาเปิดใหม่ได้ พร้อมมีการเติบโตอย่างมาก เห็นได้ชัดจากจำนวนผู้บริโภคในห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารหรือแม้แต่การจราจร ว่าธุรกิจกลับมาฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง

ยอดขาย Pomelo Fashion โตขึ้น 2 เท่า หลังรัฐบาลประกาศปลดล็อค

ย้อนกลับไปเมื่อการระบาดของโควิด-19 ครั้งแรกในปี 2563 อุตสหกรรมเสื้อผ้าและรองเท้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เผชิญกับช่วงเวลาที่ท้าทายด้วยการเติบโตที่ติดลบถึง -25.5% (YoY) ตามรายงานของ Euromonitor ผู้ค้าปลีกส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบอย่างมากในขณะที่ลูกค้าเลือกช่องทางออนไลน์ในการจับจ่ายและได้กลายเป็นนิสัยไปอย่างรวดเร็ว แต่ในทางกลับกัน Pomelo รายงานการเติบโตของรายได้ประมาณ 40% โดย 90% มาจากช่องทางอีคอมเมิร์ซ

ระลอกที่สองเกิดขึ้นในปี 2564 ธุรกิจค้าปลีกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้รับผลกระทบอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับประเทศไทย หลังจากการเปิดห้างสรรพสินค้าและร้านอาหารอย่างเต็มรูปแบบในเดือนกันยายน พร้อมกับอัตราการฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้น Pomelo เห็นการฟื้นตัวในอุตสาหกรรมค้าปลีกและเครื่องแต่งกาย และทิศทางของบริษัทก็ได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังที่เห็นในกราฟด้านล่าง รายได้ผ่านแพลตฟอร์มของ Pomelo เพิ่มขึ้น 127% ระหว่างเดือนสิงหาคมถึงตุลาคม

ยอดขาย Pomelo Fashion โตขึ้น 2 เท่า หลังรัฐบาลประกาศปลดล็อค

ทั่วทั้งภูมิภาค เรายังพบว่ามี Traffic เข้าหน้าร้านของ Pomelo เพิ่มขึ้นถึง 84% ทั้งนี้ ก่อนการคลายล็อค Pomelo ได้เปิด 7 สาขาใหม่ รวมถึงสาขา ในเขตพื้นที่ใหม่อย่างกัวลาลัมเปอร์ ระยอง และเชียงใหม่ ทำให้จำนวนร้านค้ารวมเป็น 26 สาขา นอกจากนี้ คอลเลกชั่นสุดพิเศษกับ Janesuda ดีไซเนอร์ชื่อดังชาวไทยยังช่วยในการเพิ่มขึ้นของยอดขายหน้าร้าน ซึ่งสะท้อนในการเพิ่มขึ้นของ Traffic หน้าร้านถึง 40% เมื่อเปรียบเทียบกับอาทิตย์ก่อน (WoW)

David Jou ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Pomelo Fashion เปิดเผยว่าในฐานะที่เป็นแพลตฟอร์ม Pomelo ได้เพิ่มจำนวนแบรนด์ใหม่และการแตกไลน์ของผลิตภัณฑ์เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการปลดล็อคตั้งแต่ต้นปี ในขณะที่อุตสาหกรรมค้าปลีกต้องหยุดชะงักลงเนื่องจากข้อจำกัดต่างๆ Pomelo ไม่ได้หยุดขยายจำนวนแบรนด์และสินค้านี้ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม Pomelo มีแบรนด์ใหม่เกือบ 300 แบรนด์ จนถึงปัจจุบัน เรามีแบรนด์มากกว่า 600 แบรนด์บนแพลตฟอร์มของเรา

 

พร้อมนำ Personalization และ Machine Learning เข้ามาใช้ เพื่อความสะดวกและนำทางลูกค้าบนเว็บไซต์และแอพของเราเพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุด เมื่อต้นปีนี้ บริษัทยังได้เปิดตัวเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซในฟิลิปปินส์เป็นครั้งแรก หลังจากการตอบรับที่ดีจากนักช้อปชาวฟิลิปปินส์

 

“เห็นได้ชัดว่าผู้บริโภคคิดถึงไลฟ์สไตล์ของพวกเขาก่อนโควิด-19 ตอนนี้พวกเขากำลังซื้อเสื้อผ้าใหม่ ออกไปสังสรรค์ข้างนอก และกำลังเผชิญหน้ากับสิ่งที่เราเรียกว่า 'Revenge Spending' หรืออาการเก็บกดหลังจากไม่ได้ใช้จ่าย ซึ่งปรากฏการณ์นี้กำลังเกิดขึ้นทุกที่ทั่วโลก

 

ในขณะที่ธุรกิจต่างๆ ต่างชะลอตัวลงในช่วงการระบาด แต่เราถือโอกาสนี้ในการเตรียมตัวสำหรับการกลับมาอีกครั้ง ไม่ว่าจะผ่านการเลือกสรรแบรนด์ การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ และแคมเปญที่น่าตื่นเต้นมากมาย เพื่อให้มั่นใจว่า community ของลูกค้าจะเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ดีที่สุดกับเรา

 

“ในอีกไม่ช้า ผู้บริโภคจะเริ่มกลับมาเดินทางได้ตามปกติ และเราเตรียมพร้อมที่จะต้อนรับการเติบโตต่อไปของอุตสาหกรรมแฟชั่นและการค้าปลีกของเรา”