นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า “ลิซ่า แบล็กพิงก์ (blackpink)” หรือ “ลลิษา มโนบาล” ศิลปินสาวชาวไทยภายใต้สังกัด YG Entertainment ยังคง “คอนเฟิร์ม” ว่าจะมาร่วมงานเคาท์ดาวน์ 2022 ที่ จ.ภูเก็ต โดยสัปดาห์หน้าจะมีการเซ็นสัญญาร่วมงานอย่างเป็นทางการ
โดยเอเยนซี่ฝั่งไทยที่ทำหน้าที่ประสานดึงตัวลิซ่า แบล็กพิงค์ ได้คอนเฟิร์มว่าศิลปินสาวจะสามารถเดินทางมาร่วมงานเคาท์ดาวน์ได้ อย่างไรก็ตามยังต้องรอการเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการในสัปดาห์หน้า ถึงจะยืนยันได้อย่างแน่นอนว่าลิซ่า แบล็กพิงค์ สามารถเดินทางมาร่วมงานเคาท์ดาวน์ 2020 ที่ภูเก็ตได้
ในขณะที่“อันเดรอา โบเซลลี” นักร้องโอเปร่าชื่อดังของโลกชาวอิตาเลียน ได้คอนเฟิร์มมาร่วมงานเคาท์ดาวน์ 2022 ที่ประเทศไทย แต่ยังรอการเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการเช่นกัน
ได้มีการปรับเปลี่ยนให้ทั้งลิซ่า แบล็กพิงค์ และอันเดรอา โบเซลลี ขึ้นเวทีแสดงงานเคาท์ดาวน์ร่วมกันที่สะพานสารสิน จ.ภูเก็ต โดยวางโปรแกรมให้ขึ้นแสดงคู่บนเวทีด้วยกันจากเดิมที่วางให้ อันเดรอา โบเซลลี ขึ้นเวทีงานเคาท์ดาวน์ 2022 ที่กรุงเทพฯ ซึ่งจะใช้ฉากหลังเป็นวัดพระแก้วและสนามหลวง
นอกเหนือจากลิซ่า แบล็กพิงค์ และอันเดรอา โบเซลลี ซึ่งให้เวลาขึ้นเวทีแสดงท่านละ 45 นาทีแล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังต้องหารือกันเพิ่มเติมว่าจะดึงศิลปินชาวไทยท่านใดขึ้นเวทีเคาท์ดาวน์ ภูเก็ต ด้วย เนื่องจากมีการกำหนดเวลาจัดงานไว้ทั้งหมด 3 ชั่วโมง
ทั้งนี้ทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯตั้งเป้าผลักดันงานเคาท์ดาวน์ ภูเก็ต 2022 ให้เป็นอีเวนท์ระดับโลก โปรโมทภูเก็ตในฐานะเมืองท่องเที่ยวระดับโลก (World Class Destination) สร้างกระแสความสนใจและดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้มาเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น หลังอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 มายาวนานร่วม 2 ปี
“สำหรับค่าตัวของศิลปินระดับโลกทั้งสองราย รวมกันแล้วอยู่ที่ 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 100 ล้านบาท โดยจะของบประมาณจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เฉพาะส่วนของค่าตัว ด้านงบประมาณส่วนที่เหลือ เช่น ค่าออร์กาไนเซอร์ ค่าวงดนตรี ค่าเวที แสง สี เสียง ค่าจัดแสดงพลุ และค่าอื่นๆ จะขอความร่วมมือจากภาคเอกชนเป็นสปอนเซอร์การจัดงานเคาท์ดาวน์ ซึ่งตรงนี้ทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯยังรอการรายงานรายละเอียดงบประมาณจัดงานทั้งหมด
โดยคาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปเรื่องการจัดงานเคาท์ดาวน์ ภูเก็ต ทั้งหมดภายในสิ้นเดือน ต.ค.นี้ เพราะเหลือเวลาอีกเพียง 2 เดือนในการเตรียมการจัดงานก่อนถึงสิ้นปี”