ราชกิจจาออกประกาศพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว17จังหวัดมีผล1พ.ย.นี้

22 ต.ค. 2564 | 08:25 น.

ราชกิจจานุเบกษาออกประกาศพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว 17 จังหวัดมีผล1พฤศจิกายนนี้ เปิดทางกระทรวงมหาดไทย สั่งให้หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินและพนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการให้เป็นไปตามมาตรการตามข้อกำหนดฯในพื้นที่ดังกล่าว

ราชกิจจานุเบกษาออกประกาศคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ที่ 18/2564 เรื่อง พื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548

 

โดยระบุว่าตามที่ได้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ.2563 และต่อมาได้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวออกไปอย่างต่อเนื่องเป็นระยะนั้น

เพื่อให้การบริหารจัดการและเตรียมความพร้อมในการป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามแนวทางการจัดเขตพื้นที่สถานการณ์ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อาศัยอำนาจตามความในข้อ 4 (2) ของคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 4/2563 เรื่องแต่งตั้งผู้กำกับ การปฏิบัติงาน หัวหน้าผู้รับผิดชอบและพนักงานเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2563และที่แก้ไขเพิ่มเติม นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 โดยคำแนะนำของศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขกรณีโรคติดเชื้อโควิด - 19 และศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

 

กระทรวงมหาดไทย จึงมีคำสั่งให้หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินและพนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการให้เป็นไปตามมาตรการตามข้อกำหนดฯ สำหรับเขตพื้นที่ที่กำหนดเป็นพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ตามบัญชีรายชื่อจังหวัดแนบท้ายคำสั่งนี้

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ.2564 เป็นต้นไป หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

 

สั่ง ณ วันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2564

 

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด - 19

 

ราชกิจจาออกประกาศพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว17จังหวัดมีผล1พ.ย.นี้ ราชกิจจาออกประกาศพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว17จังหวัดมีผล1พ.ย.นี้

 

สำหรับพื้นที่ที่กำหนดเป็นพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว(พื้นที่สีฟ้า) รวม 17 จังหวัดประกอบด้วย

 

1.กรุงเทพมหานคร

 

2. จังหวัดกระบี่

 

3. จังหวัดชลบุรี (เฉพาะอำเภอบางละมุง เมืองพัทยา อำเภอศรีราชา อำเภอเกาะสีชัง และ อำเภอสัตหีบเฉพาะตำบลนาจอมเทียนและตำบลบางเสร่)

 

4.จังหวัดเชียงใหม่ (เฉพาะอำเภอเมืองเชียงใหม่ อำเภอดอยเต่า อำเภอแม่ริม และอำเภอแม่แตง)

 

5. จังหวัดตราด (เฉพาะอำเภอเกาะช้าง)

 

6. จังหวัดบุรีรัมย์ (เฉพาะอำเภอเมืองบุรีรัมย์)

 

7. จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (เฉพาะตำบลหัวหินและตำบลหนองแก)

 

8. จังหวัดพังงา

 

9. จังหวัดเพชรบุรี (เฉพาะเทศบาลเมืองชะอำ)

 

10. จังหวัดภูเก็ต

 

11. จังหวัดระนอง (เฉพาะเกาะพยาม)

 

12. จังหวัดระยอง (เฉพาะเกาะเสม็ด)

 

13. จังหวัดเลย (เฉพาะอำเภอเชียงคาน)

 

14. จังหวัดสมุทรปราการ (เฉพาะบริเวณพื้นที่ทำอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ)

 

15. จังหวัดสุราษฎร์ธานี (เฉพาะเกาะสมุย เกาะพงัน และเกาะเต่า)

 

16. จังหวัดหนองคาย (เฉพาะอำเภอเมืองหนองคาย อำภอสังคม อำเภอศรีเชียงใหม่ และอำเภอท่าบ่อ)

 

17. จังหวัดอุดรธานี (เฉพาะอำเภอเมืองอุดรธานี อำเภอบ้านตุง อำเภอกุมภวาปี อำเภอนายูงอำเภอหนองหาน และอำเภอประจักษ์ศิลปาคม)

 

พื้นที่นำร่องท่องเที่ยว(พื้นที่สีฟ้า)17จังหวัด

 

 

ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 36)

 

ข้อ 3 การยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถาน ให้ยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถาน ในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ซึ่งเดิมเคยกำหนดให้เป็นเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดจากการจำแนกจังหวัดตามพื้นที่สถานการณ์ แต่ได้มีคำสั่งกำหนดให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวตามข้อกำหนดนี้ ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่เวลา 23.00 น.ของวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ.2564

 

ข้อ 4 การห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ห้ามจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มกันของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 500 คน ในเขตพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว

 

"ให้นำวิธีปฏิบัติในส่วนของข้อห้ามการจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ขั้นตอนการขออนุญาตจัดกิจกรรม การพิจารณาอนุญาต รวมทั้งกิจกรรม หรือการรวมกลุ่มที่ได้รับการยกเว้น ให้สามารถจัดได้โดยไม่ต้องขออนุญาตตามข้อ 4 และข้อ 5 แห่งข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 30) ลงวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ.2564 มาใช้บังคับด้วย"

 

ข้อ 5 การเตรียมความพร้อมของสถานบริการหรือสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่นำองด้านการท่องเที่ยว ในระยะเริ่มแรกของการดำเนินการเปิดเขตพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ให้สถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ยังคงปิดดำเนินการไว้ก่อนในช่วงเวลานี้ โดยให้หน่วยงานและผู้ประกอบการเตรียมความพร้อมเพื่อการผ่อนคลายมาตรการตามที่ได้ประกาศไว้แล้วในข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 35) ลงวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ.2564 เพื่อให้สามารถเปิดดำเนินการได้ต่อไปตามแผนและกรอบเวลาที่รัฐบาลจะประกาศกำหนด