ปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรที่ผันผวนไปตามฤดูกาลและความต้องการของตลาดเป็นวัฎจักรที่ควบคุมค่อนข้างอยาก เพราะบางครั้งราคาก็ปรับขึ้นสูงลิ่วสร้างความเดือนร้อนให้กับผู้บริโภคที่ต้องหาซื้อในราคาที่สูง บางครั้งราคาก็ดิ่งลงจนเกษตรกรผู้ปลูกได้รับความเดือนร้อน
ล่าสุดช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา พบว่าพืชเกษตรชนิดหนึ่งในภาคใต้ โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลาและนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกพริกพริกขี้หนูพันธุ์ดวงมณีซึ่งผลผลิตส่วนใหญ่ส่งออกไปประเทศมาเลเซียเป็นหลัก ไม่ได้ใช้บริโภคในประเทศ ซึ่งในพื้นที่เรียกพริกเขียวหัวไทรหรือพริกเขียวมัน ปลูกในเขตอำเภอสิงหนคร สทิงพระ กระแสสินธุ์ ระโนด หัวไทร เชียรใหญ่ และปากพนัง มีปัญหาราคาตกต่ำ ซึ่งปกติราคาหน้าสวนจะอยู่ที่ประมาณ 17-18 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่กระทบต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศผู้นำเข้า ทำให้มีการชะลอการสั่งซื้อพริกจากประเทศไทย ส่งผลให้มีพริกตกค้างอยู่ในสวนของเกษตรกร และราคาที่เกษตรกรขายได้ลดลงเหลือเพียง 8 บาทต่อ กก. ซึ่งต่ำกว่าต้นทุนค่าจ้างเก็บเกี่ยวที่อยู่ที่ประมาณ 8-10 บาทต่อ กก.
นอกจากนี้ปัญหาสำคัญของราคาพืชผลทางการเกษตรอีกตัวคือการปั่นราคาของคนบางกลุ่มที่ต้องการกดราคาสินค้าเกษตรให้ต่ำและรับซื้อในราคาถูกเพื่อนำไปจำหน่ายต่อในราคาที่สูง ซึ่งสร้างความเสียให้ให้กับเกษตรกรเป็นอย่างมาก
นายวิชัย โภชนกิจ ที่ปรึกษา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งได้ลงพื้นที่ภาคใต้ เพื่อประสานการแก้ไขปัญหาราคาพริกตกต่ำ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ ได้เข้าไปช่วยเชื่อมโยงตลาด โดยให้ห้องเย็น ผู้ส่งออก และผู้ประกอบการเข้าไปช่วยรับซื้อในราคา 10 บาทต่อ กก. และกรมการค้าภายในสนับสนุน งบประมาณช่วยเหลืออีก 5 บาทต่อ กก. กำหนดเป้าหมาย 3,000 ตัน โดยจะนำร่องก่อน 3 เดือนแรก 1,000 ตัน ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการได้ภายในสัปดาห์หน้า และจะช่วยบรรเทาปัญหาให้เกษตรกรในสถานการณ์วิกฤตนี้
เรื่องดังกล่าวนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดลงพื้นที่และประสานงานกับเกษตรกรผู้ปลูกพริกและส.ส.ในพื้นที่ทันที ตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา จากการลงพื้นที่พบว่าราคาพริกเขียวราคาตกเหลือเพียง กก. ละ 8 บาท เนื่องจากพริกมีตลาดหลักที่มาเลเซียที่นำเข้าพริกจากไทยเพื่อนำไปผลิตเป็นซอสพริก แต่ขณะนี้ความต้องการบริโภคซอสพริกในมาเลเซียลดลง จึงส่งผลต่อการนำเข้าพริกจากไทยลดลง ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินมาตรการหลายอย่าง ทั้งการหาผู้ซื้อที่ประกอบด้วยห้างโมเดิร์นเทรดต่าง ๆ ตลาดขนาดใหญ่ ห้องเย็น และผู้ส่งออก ให้ไปรับซื้อพริกจากเกษตรกรโดยตรง ในราคากก.ละไม่ต่ำกว่า 10 บาท ทั้งการจัดสรรเงินจากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรของคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.)ที่กระทรวงพาณิชย์ดูแลอยู่ ลงไปช่วยสนับสนุนเกษตรผู้ปลูกพริกด้วย กก.ละ 5 บาท ส่งผลให้ราคาพริกขยับขึ้นมาและเกษตรกรพอใจกับราคาดังกล่าว
เกษตรกรรายหนึ่ง เผยว่า ที่ผ่านมามีคนบางกลุ่มเข้าไปรับซื้อพริกจากเกษตรกรโดยกดราคาต่ำ แล้วนำมาขายในโครงการที่รัฐบาลช่วยเหลือเพื่อกินส่วนต่างราคา ซึ่งมีกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกพริกเข้าร้องเรียนกับทางผู้ว่าราชการจังหวัด และแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มคนดังกล่าว ซึ่งเวลานี้คนกลุ่มนี้ได้หยุดพฤติกรรมดังกล่าวแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“ค้าภายใน”เร่งแก้พริกภาคใต้ราคาร่วงหนัก เหลือโลละ8บาท
เดินหน้าดันราคาพริก-ฟักทอง ช่วยชาวสวนผักส่งออก
“พาณิชย์” เปิดจุดรับซื้อพริกเขียวมัน 5 บาท/กก. แก้ราคาตก