นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ติดตามสถานการณ์และตรวจจุดรับซื้อพริกเขียวมัน นางขวัญใจ รสทิพย์ หมู่ที่ 6 ตําบลทรายขาว อําเภอหัวไทร จังหวัด นครศรีธรรมราช และได้ช่วยแก้ปัญหาเรื่องพริกเขียวที่จังหวัดสงขลาและนครศรีธรรมราช รวมถึงจังหวัดเพชรบูรณ์ หลายจังหวัดควบคู่กันไปปัญหาใหญ่คือปกติจะไม่มีปัญหาราคาปานกลางเกษตรกรสามารถอยู่ได้เพราะเรามีตลาดใหญ่คือประเทศมาเลเซียรับซื้อไปทำซอสพริกและทำวัตถุดิบในร้านอาหารไทยในมาเลเซียแต่ช่วงนี้ติดโควิดมาเลเซียรับซื้อน้อยลงความต้องการในการบริโภคลดลงและสภาวะเศรษฐกิจทำให้พริกราคาตกจากกิโลกรัมละ 10 กว่าบาท เหลือ 7-8 บาท
" กระทรวงพาณิชย์ได้จัดเงินหนึ่งก้อนเข้ามาช่วยโดยมอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและพาณิชย์จังหวัด เกษตรจังหวัด ช่วยกันจ่ายเงินชดเชยให้กับเกษตรกรกิโลกรัมละ 5 บาท เกษตรกรจะมีรายได้จากราคาที่ขายในตลาด เช่น 9-10 บาท บวกเงินชดเชยอีก 5 บาท จะช่วยทำให้เกษตรกรอยู่ได้โดยเงินชดเชย 5 บาทนี้จะโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง แต่เกษตรกรต้องมาขึ้นทะเบียนผู้ปลูกพริก ตอนนี้เริ่มโอนแล้ว เมื่อขึ้นทะเบียนแล้วจะโอนให้ภายใน 3 วัน หากพบปัญหาให้แจ้งท่านผู้ว่าราชการจังหวัด เกษตรจังหวัด พาณิชย์จังหวัด หรือเกษตรตำบลได้ "
นอกจากนี้ยังได้ร่วมปล่อยคาราวานฟักทอง หลังจากที่ฟักทองที่เจอ วิกฤตที่มาเลเซียเป็นวิกฤติเดียวกับพริกเขียวมันคือรับซื้อน้อยลง การบริโภคลดลงทำให้เหลือผลผลิตจำนวนมากและราคาตก จึงมีมาตรการที่ทุกฝ่ายช่วยกันทั้งกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตร จังหวัดสงขลา ห้างสรรพสินค้าต่างๆที่พาณิชย์จังหวัดได้ประสานงานร่วมกับจังหวัดร้านอาหาร หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันจัดหาผู้รับซื้อฟักทองถึงเกษตรกรโดยตรงช่วยให้สามารถระบายฟักทองออกไปได้เป็นจำนวนมาก ได้ดำเนินการมาแล้วถึง 400 กว่าตัน
โดยได้เปิดคาราวานลำเลียงฟักทองจากอำเภอระโนด จังหวัดสงขลาไปยังกรุงเทพและภาคตะวันออกจนถึงชายแดนจังหวัดตราดเป็นจำนวนไม่ต่ำกว่า 100 ตัน เพื่อช่วยระบายฟักทองออกไปและประสานงานรับซื้อออเดอร์จากห้างสรรพสินค้าและภาคส่วนอื่นๆ จะสามารถระบายฟักทองอำเภอระโนดและพื้นที่อื่นๆได้ไม่น้อยกว่า 500 ตันขึ้นไป
สำหรับภาพรวมผลผลิตฟักทองจังหวัดสงขลาตกปีละ 4,000 ตันปลูกมากที่สุดที่ อำเภอระโนด 2,800 ตัน และอำเภอเทพา 350 ตันสทิงพระ 300 ตัน อำเภอกระแสสินธุ์ 250 ตันอำเภอจะนะ 225 ตัน เป็นต้น คาดว่าจะช่วยให้เกษตรกรผู้ปลูกฟักทองมีรายได้ที่ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยเหลือต่อไปจนหมดฤดูกาลผลิตในปีนี้
จากรายงานกรมการค้าภายในระบุว่าทำให้ราคาฟักทองปรับตัวสูงขึ้นอย่างชัดเจนจากเดิมกิโลกรัมละ 2-4 บาท ตอนนี้กิโลกรัมละสูงสุด 7 บาท ถ้าคัดคุณภาพราคาจะสูงถึงกิโลกรัมละ10 บาท เป็นต้น และได้มอบหมายให้พาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศเชื่อมโยงผลผลิตการเกษตรในจังหวัดไปสู่ตลาดจังหวัดอื่นด้วย นอกจากนั้นแล้วยังมีนโยบายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศนำตลาดแต่ละประเทศเข้าเชื่อมโยงโดยการทำจับคู่ธุรกิจ OBM (Online Business Matching) อย่างเข้มแข็งและวัดผลด้วยมูลค่าการส่งออก ดังนั้นทีมเซลล์แมนจังหวัดและทีมเซลล์แมนประเทศต้องเชื่อมโยงกัน ซึ่งหมายถึงทั้งพาณิชย์จังหวัดและสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศต้องจับมือกันแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างใกล้ชิดเป้าหมายเพื่อตัวเลขการส่งออกปีนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง