ทลายโรงฆ่าสัตว์เถื่อน สระบุรี

นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เผยว่า ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการ​พิเศษ​พญาไท​ โดยภายใต้การบังคับบัญชาของนายสัตวแพทย์บุญญกฤช ปิ่นประสงค์ นำโดยนายจิรภัทร อินทร์สุข รองหัวชุดปฏิบัติการพิเศษพญาไท นายปิยพงษ์ มิ่งสกุล ร่วมกับเจ้า​หน้าที่​ปศุสัตว์​เขต 1 นำโดยนายวสันต์ ตรีโรจนถาวร ​เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์​จังหวัด​สระบุรี​ สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการ​ปราบปราม​การ​กระ​ทำ​ความผิด​เกี่ยวกับ​การ​คุ้มครอง​ผู้บริโภค นำโดยพ.ต.ท.เกียรติชัย แสงศิลา ร.ต.อ.ศิษฏพงศ์ สิริวัฒน์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปราม​ยาเสพติด​​ นำโดย พ.ต.ท.กฤษฎิ์พงษ์ธร ธนากรวิริยะ ร.ต.อ.ยงยุทธ จิ๋วเจียม พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 10 นาย นำหมายศาล เข้าตรวจค้นโรงฆ่าสุกรเถื่อน ตำบลโพนทอง อ.หนองแค จ.สระบุรี​ เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 28 ธันวาคม​ 2563​

หลังประชาชนร้องเรียนว่ามีการลักลอบฆ่าและชำแหละสุกรเพื่อจำหน่ายโดยไม่มีใบอนุญาต รวมทั้งสร้างความเดือดร้อนรำคาญทั้งเสียงและส่งกลิ่นเหม็น และซากสุกรไม่มีการตรวจโรค เสี่ยงต่อโรคระบาดของโรคจากสัตว์สู่คน ในโรงฆ่าสัตว์พบซากสุกรกว่า 13 ตัว แทงคอและชำแหละแล้วบางส่วนรอนำไปจำหน่ายตลาดนัดและส่งเป็นหมูหัน น้ำหนักรวมกว่า 500 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 100,000 บาท พนักงานเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.หนองแค และแจ้งข้อกล่าวหา ดังนี้ 1.ประกอบกิจการฆ่าสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาตมีโทษจำคุก 3 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2.ฆ่าสัตว์โดยไม่แจ้งการฆ่าปรับตามรายตัว สุกรตัวละ 20,000 บาท  3.ฆ่าสัตว์นอกโรงฆ่าสัตว์โทษ จำคุก 3 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่ง ซากสุกรทั้งหมดที่ไม่สามารถแสดงแหล่งที่มาได้ จะต้องนำไปทำลายตามประกาศ​กรมปศุ​สัตว์​ เพื่อเป็นการควบคุมโรคและป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคที่เป็นอันตรายต่อไป

นายสัตวแพทย์สรวิศ กล่าวเพิ่มเติมว่าปฏิบัติการครั้งนี้เป็นไปตามมาตรการปราบปรามโรงฆ่าสัตว์เถื่อนและการลักลอบใช้สารเร่งเนื้อแดงเพื่อความปลอดภัยต่อผู้บริโภค เนื่องจากเนื้อสัตว์ที่ลักลอบฆ่าจะไม่ทราบแหล่งที่มาและไม่ได้มาตรฐานตามสุขอนามัยอาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค รวมทั้งเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคระบาดสำคัญ ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นการกระทำผิดกฎหมายด้านปศุสัตว์โปรดแจ้งข้อมูลหรือเบาะแสผ่านแอพพลิเคชั่น (Application) "DLD 4.0" สามารถดาวน์โหลดและติดตั้งได้ทั้งระบบ iOS ผ่าน App Store และระบบ Android ผ่าน Google play เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบการกระทำความผิดและดำเนินการตามกฎหมายได้อย่างทันท่วงที